|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ ฉบับ พฤศจิกายน 2548
|
|
ไฮไลต์อันดับหนึ่งของตลาดหุ้นช่วงนี้คงไม่พ้นการมาของ กฟผ. ซึ่งก็เป็น talk of the web หลายกระทู้ แต่เราคัดสุดยอด มา 3 กระทู้ทั้งจาก Thai Value Investor และ Greenbull
กระทู้ "ลองมาวิเคราะห์หุ้น EGAT กันล่วงหน้าดีกว่า"
thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=12558
ความเห็นที่น่าสนใจ
"กำไรจากการขายไฟนั้น Margin ไม่มาก และไม่สามารถจะเพิ่ม Margin ได้ เนื่องจากนโยบายของรัฐจะขายไฟให้ได้มากขึ้นก็ไม่ได้ต้องพึ่ง cycle ของเศรษฐกิจประเทศอย่างเดียว ต้องพึ่งธุรกิจเสริมเท่านั้น แต่อีกมุมนึงเขาอาจจะเป็นหุ้น hidden assests ก็ได้ สรุปแล้ว trend น่าจะคล้าย EGCOMP, RATCH ไม่น่าจะเปรี้ยงปร้างเหมือน ปตท."
"1. ต้องแยกการเติบโตของการใช้ไฟฟ้า และการเติบโตของการสร้างโรงไฟฟ้าออกจากกัน เพราะโรงไฟฟ้าไม่ได้สร้างอย่างต่อเนื่องทุกปีไปเรื่อยๆ อย่างหลังฟองสบู่แตกนี่ ความต้องการใช้ไฟลดฮวบ การสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆ ไม่ค่อยมี
2. ต้องดูราคาที่ขายด้วยหลายๆ วิธี จาก P/E P/BVDiv Yield DCF (Discount Cash Flow) ในเมื่อผูกขาดก็จะโยนความเสี่ยงทั้งค่าน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ยให้ลูกค้าได้ และ DCF ก็จะเป็นวิธีที่ใช้ได้ ต้องระวังบ้างคือกำลัง การผลิต อาจรวมโรงเก่าแก่อายุยี่สิบปี ใกล้จะต้องซ่อมแซมหรือลงทุนสร้างใหม่ไว้ด้วย
3. ถ้าเล่นเก็งกำไรสั้นๆ ต้องดูแนวโน้มตลาด"
"ความเสี่ยงคืออะไร ต้นทุนเชื้อเพลิงก็ผลักภาระให้ผู้บริโภคได้ คุณลองไม่ใช้ไฟฟ้าสักวันหนึ่งซิ ขอบอกว่ายิ่งกว่าปัจจัย 4 เสียอีก"
"ความเสี่ยงคือความผันผวนของความต้องการภาคอุตสาหกรรมทั้งภาคการบริการและภาคการผลิต ซึ่งจะผันผวนขึ้นลงตามสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจครับ"
"ต้องขึ้นกับนโยบายว่าเขาจะยืนอยู่จุดไหน
1. เรื่อง RE-ENGINEERING วัฒนธรรมองค์กรว่าเข้ามาตลาดเขาอยากเป็นอย่างไรระหว่าง MCOT, PTT หรือ THAI
2. เรื่องนโยบายและกลยุทธ์ทางธุรกิจว่า เขาจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเองหรือเป็นเทรดดิ้งพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียนในอนาคต ถ้าเป็นอย่างหลังและผู้บริหารเก่งๆ ผมคงกอดหุ้นไปจนตาย"
"ตัวนี้มีหนี้สินมากพอๆ กับสินทรัพย์ที่มีอยู่ กู้โดยมีรัฐค้ำประกัน นำเงินมาสร้างโรงไฟฟ้า คือดู P/BV ประกอบกันเงินสดที่มีอยู่ในตัวบริษัท ประกอบกับราคาด้วย ถึงจะได้เป็นเสือนอนกิน"
"ธุรกิจเเสนล้าน ถ้าบริษัทไม่มีหนี้เลย มีเเต่เงินสดในมือ จะเข้ามาในตลาดหุ้นทำไม"
"วิเคราะห์ 5 forces..." การแข่งขันในอุตสาหกรรม
กฟผ. เป็นผู้ซื้อกระแสไฟฟ้ารายเดียว (ในประเทศไทย) จากโรงผลิตไฟฟ้า แล้วนำมาจำหน่ายสู่ประชาชนผ่าน กฟน. และ กฟภ. ดังนั้น "ไร้คู่เปรียบ"
การเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่
ตราบเท่าที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อกฎหมายหรือข้อกำหนด ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ ประตูปิดตาย
สินค้าทดแทน
ใครใช้ตะเกียงแทนนีออน ใช้เครื่องปั่นไฟแทนไฟฟ้าจาก กฟผ.?
อำนาจต่อรองจากผู้ผลิต
โรงไฟฟ้าต่างๆ มีอำนาจต่อรองอยู่บ้าง แต่ก็สามารถตั้งราคาได้ตามต้นทุนวัตถุดิบ+กำไรเท่านั้น ดังนั้นอำนาจต่อรองหลักตกเป็นของ กฟผ. อยู่
อำนาจต่อรองจากผู้บริโภค
ใครกล้าต่อราคาค่าไฟฟ้าหรือขอเลื่อนการชำระค่าไฟบ้าง
นอกจาก 5 forces สิ่งที่ต้องวิเคราะห์ตามมาอาจได้แก่
อัตราการเจริญเติบโต
ปัจจัยหลักๆ คือ
1. การขยายตัวของประชากร
2. การขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ในอดีตปัจจัยแรกจะมีผลต่อการใช้ปริมาณกระแสไฟฟ้าเป็นอย่างมาก แต่ในปัจจุบันอัตราการเกิดลดลง ส่วนเศรษฐกิจยังขยายตัวเล็กน้อย
ประสิทธิภาพในการจัดการ
การบริหารงานของรัฐวิสาหกิจ ค่อนไปในแบบราชการ เสียเปรียบในเชิงความคล่องตัว เกิดทุจริตได้ง่าย ตรวจสอบได้ยาก
สหภาพแรงงานมีอำนาจสูง หากผลประกอบการดีก็อาจรวมกลุ่มเพื่อเรียกร้องผลตอบแทนเพิ่มขึ้น แต่หากผลประกอบการไม่ดีก็จะเป็นการยากที่จะลดสวัสดิการหรือผลตอบแทนลง
ตัวธุรกิจเป็นธุรกิจเพื่อสังคม เมื่อ กฟผ. เป็นธุรกิจเพื่อสังคม ดังนั้นการผลิตจะผลิตเพื่อตอบสนอง Maximize Utilities ไม่ใช่ Maximize Margin ดังนั้นยากที่จะมีกำไรอย่างก้าวกระโดดเว้นแต่เศรษฐกิจขยายตัวก้าวกระโดด"
กระทู้ "หุ้น กฟผ.ที่กำลังจะเข้าตลาด จะเป็นหุ้น value หรือไม่"
bbznet.com/scripts3/view.php?user=greenbull&board =8&id=2529
ความเห็นที่น่าสนใจ
"คงไม่หวือหวาแบบ PTT ที่เป็นเจ้าของวัตถุดิบที่มีผลิตภัณฑ์ ต่อเนื่องที่หลากหลาย แต่ EGAT แค่โรงงานนำวัตถุดิบไปผลิต และมีผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องน้อย บริษัทลูกที่จะตั้งขึ้นเร็วๆ นี้
1. บริษัททางด้านโทรคมนาคม จากใยแก้วนำแสง น่าจะกำไรงามเป็นที่หมายตาของกลุ่มทุนหุ้นสื่อสารรายใหญ่ส่งคน เข้ามาบริหารแทน กำไรจะถูกโอนไปยังหุ้นกลุ่มสื่อสารแทน
2. บริษัทจะเป็นทางด้านที่ปรึกษาพลังงาน กำไรแค่ 10 กว่าล้าน
3. บริษัทบำรุงรักษา ก็เป็นบริษัทลูกที่แตกออกมา มีรายได้จากโรงไฟฟ้าเก่า-ใหม่ และบริษัทในเครือ เช่น RATCH EGCOMP อัฐิยาย-ขนมยาย นอกเสียจากจะไปหาลูกค้ารายอื่นนอกเครือได้ แต่คงยากเพราะต้นทุนสูง กำไรน้อย และลูกค้าไม่กว้างนัก
ข้อดีในวันนี้
1. มีพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้า ขยายกำลังการผลิตได้มากกว่าผู้ผลิตรายอื่น เพราะเดี๋ยวนี้หาพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าใหม่ยาก เสี่ยงโดนประท้วง
2. ผลิตมาก็ขายได้แน่ๆ เว้นแต่เศรษฐกิจจะฟองสบู่แตก
ข้อด้อยมากๆ
1. ผู้บริหารคนเดิม ไม่ใช่มืออาชีพ และแก่แล้ว
2. ต้องพึ่งพาวัตถุดิบที่ควบคุมไม่ได้ และต้องอาศัยจมูก PTT หายใจ
กระทู้ "คิดอย่างไรกับ EGAT ธุรกิจน่าสนใจหรือไม่ จะไปจอง IPO กันไหม"
thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=11719
ความเห็นที่น่าสนใจ
"คุณจะสู้ราคาที่พนักงานได้หรือเปล่า เพราะว่าตัวนี้มีแจกหุ้นให้พนักงานค่อนข้างมากๆ"
|
|
|
|
|