อุณหภูมิความเย็นบริเวณพื้นที่ชั้นล่างของตัวอาคารเมืองไทย-ภัทร ซึ่งเป็นสถานที่แถลงข่าวการรณรงค์ประหยัดการใช้พลังงานของบริษัทต่างๆ ที่เช่าอาคารหลังนี้อยู่ ค่อยๆ ปรับลดลงตามจำนวนของคนที่ทยอยเข้ามาร่วมงานมากขึ้น
ที่เป็นเช่นนี้เพราะตั้งแต่ปี 2547 นิติบุคคลที่บริหารอาคารแฝด 2 อาคาร สูง 32 ชั้นแห่งนี้ได้จัดระบบควบคุม ระดับความเย็นของเครื่องปรับอากาศตามจุดต่างๆ สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนแผนประหยัดพลังงานแบบมีส่วนร่วมสำหรับอาคารที่ควบคุมของกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน
ไม่เพียงแต่จะใช้วิธีลดการใช้กระแสไฟฟ้าจากการควบคุมความเย็นในตัวอาคาร แต่การเปลี่ยนหลอดไฟที่ให้แสงสว่างภายใน หรือกระทั่งการเปิดใช้ลิฟต์ขึ้น-ลง ตามเวลา เร่งรีบมากน้อย ยังเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการควบคู่กันไปด้วย
"ตอนนี้ค่าไฟเราลดลงเดือนละ 300,000-400,000 บาท จากเมื่อก่อนที่ต้องจ่ายแพงมาก อย่างบางโซนตกเดือน ละ 1,700,000 บาท แต่อาจจะสูงกว่านั้นในช่วงหน้าร้อน" เจ้าหน้าที่บริหารการใช้พื้นที่ในนิติบุคคลอาคารเมืองไทย-ภัทร บอกกับ "ผู้จัดการ"
เมื่อมองแนวโน้มการประหยัดในระยะยาวแล้ว การใช้เงินปีแรก 400,000 บาท ว่าจ้างบริษัทอีอีซี คอนสตรัคชั่น แมนเนจเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานในรายชื่อสำนักกำกับและอนุรักษ์พลังงาน เข้ามาช่วยนิติบุคคล อาคารชุดแห่งนี้หาวิธีประหยัดการใช้พลังงาน ถือว่าคุ้มค่าไม่น้อย
"ช่วงเริ่มต้นเราคงต้องลงทุนอุปกรณ์บ้าง เพราะบางอย่างเราไม่มี แต่นั่นก็ไม่มากนัก เพราะหลายอย่างเราไม่ต้องจ่าย แค่เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้แค่นั้น ส่วนอุปกรณ์ที่ลงทุนครั้งแรก พอติดเข้าไปแล้วก็ไม่ต้องทำอะไรอีก แค่คอยดูแลให้ดี แต่หากเราอยากทำอะไรเพิ่ม เรากับอีอีซีค่อยมาว่ากันเป็นเรื่องๆ" เจ้าหน้าที่คนเดียวกันเล่าให้ฟัง
ก่อนหน้านี้อาคารเมืองไทย-ภัทรเคยพยายามรณรงค์การประหยัดพลังงานกับผู้เช่าพื้นที่ทั้งรายเล็ก รายใหญ่ เนื่อง จากเห็นถึงจำนวนผู้เช่าพื้นที่เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี จนจำนวนยูนิตการใช้น้ำใช้ไฟภายในอาคารเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่การรณรงค์ช่วงนั้นไม่ค่อยประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร เนื่องจากสถานการณ์พลังงานในประเทศยังไม่รุนแรงเท่าในปัจจุบัน
สอดคล้องกับข้อมูลวิเคราะห์ประสิทธิภาพการใช้พลังงานของอาคารเมืองไทย-ภัทร ประจำรอบที่ 1/2547 จากสำนักงานกำกับและอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งระบุว่าแม้อาคาร แห่งนี้จะมีค่าดัชนีการใช้พลังงานรวมต่ำกว่าอาคารสำนักงาน อีก 27 อาคาร ซึ่งมีพื้นที่ตั้งแต่ 40,001 ตารางเมตร แต่ค่าใช้จ่ายพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น และควรต้องหาวิธีดำเนินการกับปัญหาดังกล่าว หรืออย่างน้อยควรต้องหาวิธีจำกัดค่าใช้จ่ายให้คงไว้ในระดับปัจจุบัน
"คงตอบไม่ได้ว่าแต่ละปีเราจะประหยัดเงินได้เท่าไร ค่าไฟฟ้าจากรัฐจะเพิ่มอีกหรือเปล่าเราก็ไม่รู้ แต่การมีคนเข้ามามากๆ เราต้องหาวิธีลดยูนิตการใช้ไฟลงให้มาก เพื่อคุมค่าไฟโดยรวมให้อยู่ เพราะตอนนี้คนเริ่มเข้ามาใช้ตึกมากขึ้นแล้ว"
นิติบุคคลอาคารเมืองไทย-ภัทร ค่อนข้างเชื่อว่าโดยภาพรวม จำนวนเงินจากการประหยัดการใช้พลังงานของปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นจากเดิม จากความร่วมมือที่มากขึ้นจากผู้บริหารบริษัทใหญ่ๆ ซึ่งเป็นผู้เช่าพื้นที่ในตัวตึก ซึ่งเริ่มเชื่อว่าต้นทุนพลังงานมีแต่จะแพงขึ้นในอนาคต แต่จำนวนเงินรวมที่ประหยัดได้จะเพิ่มขึ้นได้อีกมาก หากผู้เช่ารายเล็กยอมเข้าร่วมแผนรณรงค์ฯ ให้มากขึ้นจากปัจจุบัน
"บริษัทรายเล็กๆ เป็นกลุ่มที่น่าเป็นห่วงที่สุด จนตอนนี้ก็ยังไม่ยอมร่วมมือ เพราะเห็นว่าตัวเองเป็นบริษัทเล็กๆ ใช้พื้นที่ไม่มาก จ้างคนไม่กี่คน แต่พื้นที่เล็กๆ ที่พวกเขาใช้นั้น เมื่อเอามารวมกันแล้วมันไม่น้อยเลย" เจ้าหน้าที่คนเดียว กันกล่าว
"ตอนนี้ผู้บริหารในบริษัทใหญ่ๆ เปลี่ยนไปมาก เพราะ เริ่มเห็นว่ามันเป็นเรื่องซีเรียสจริงๆ ที่ต้องเข้ามาลดต้นทุน ตัวนี้ลง ปีนี้พวกเขาก็เลยเริ่มเข้ามาร่วมมือกับเรามากขึ้นและไม่ได้คิดแค่ว่าจะทำให้มีผลแต่เฉพาะการประหยัดที่นี่ แต่ยังอยากให้พนักงานนำมันกลับไปใช้ที่บ้านด้วย"
อาคารเมืองไทย-ภัทร คอมเพล็กซ์ มีพื้นที่เฉพาะส่วนอาคารสำนักงานไม่รวมพื้นที่ส่วนพลาซ่า อาคารที่พักอาศัย และอาคารที่จอดรถ 78,560 ตารางเมตร โดยมีบริษัทขนาดใหญ่หลายรายเป็นเจ้าของพื้นที่ในตัวอาคาร เช่น เมืองไทยประกันชีวิต, ภัทรลิซซิ่ง, ทีทีแอนด์ที, เสริมสุข, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย เป็นต้น
|