เพราะเป็นครั้งแรกของการแถลงข่าวเกี่ยวกับแผนและนโยบายของรายการกลุ่มข่าว
และกลยุทธ์ในการรักษาสถานะความเป็นสถานีข่าวอันดับ 1 ของไอทีวี เพื่อรับมือกับการ
ประกาศเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นสถานีข่าวและสาระ ภายใต้ชื่อ Modernine Television
ของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 งานนี้จึงได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนอย่างเต็มที่
บ่ายสองโมงครึ่งของวันที่ 4 พฤศจิกายน คือวันนัดหมาย ผู้สื่อข่าว และช่างภาพ
ที่มีจำนวนไม่น้อยกว่า 20 คน มารวมตัว อยู่ภายในห้องประชุมบนชั้น 12 อาคารไทยพาณิชย์ปาร์คพลาซ่า
เลยเวลานัดหมายไม่ถึง 10 นาที สรรค์ชัย เตียวประเสริฐ กุล กรรมการผู้จัดการ
มาพร้อมกับสไตล์คุ้นตา เชิ้ตขาว ผูกเนกไท ด้วยท่วงท่าสบายๆ ผิดกับทีมงานระดับบริหารของฝ่ายข่าว
อัชฌา สุวรรณปากแพรก ผู้อำนวยการสถานี วสันต์ ภัยหลีกลี้ ผู้อำนวย การฝ่ายข่าว
สำราญ รอดเพชร รองผู้อำนวยการฝ่ายข่าว และอนันต์ อัศวนนท์ รักษาการบรรณาธิการบริหารที่ล้วนแต่ผูกไทใส่
สูทนั่งเคียงข้างสรรค์ชัย ตอบข้อซักถามเป็นระยะๆ
เนื้อหาหลักของการแถลงข่าวในวันนั้น จึงตอกย้ำถึงการให้ความสำคัญของรายการข่าว
ที่ยังคงมีอยู่ 35% ทั้งการเพิ่ม เนื้อหาให้ลึกมากขึ้น เฉพาะข่าวอาชญากรรม
เนื่องจากผลการวิจัยและพบว่ามีเรตติ้งคนดูรองลงมาจากข่าวบันเทิง ทิ้งห่างจากข่าวการเมืองไปไม่น้อย
ส่วนรายการข่าวเด่นประเด็นร้อน จะเปลี่ยนเป็น "ทุกโต๊ะ" เรียกว่า
เพิ่มเติมความเข้มข้นของเนื้อหา
นอกจากข่าวต้นชั่วโมง ยังถูกเพิ่มเติมด้วย super breaking news ข่าวด่วนที่สรรค์ชัยยืนยันว่าแทรกได้ทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นรายการไหน
ไม่เว้นแม้เวลาละคร ความเร็วของการนำเสนอข่าวที่ว่านี้ได้มาจากการลงทุนระบบไอที
ช่วยอำนวยความสะดวก ในการทำข่าว ซึ่งไอทีวีควักเงินลงทุนไปแล้วไม่ต่ำกว่า
100 ล้านบาท โดยซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุดที่เพิ่ง upgrade ทำให้ผู้สื่อข่าว
ผลิตข่าวได้เบ็ดเสร็จในตัวเอง ทำข่าว ตัดต่อภาพ ใส่เสียงได้บนหน้าจอพีซี
ที่ขาดไม่ได้คือการเพิ่มเติมทีมงานข่าวอีก 30 คน จาก ที่มีอยู่ 270 คน
เพื่อสร้างทีมข่าวอีก 10 กว่าทีม แถมยังสำทับต่อด้วยว่า ผู้ประกาศข่าวของไอทีวีจะต้องผ่านสนามการเป็น
ผู้สื่อข่าวมาก่อน "ประเภทที่เป็นดารา หรือนักแสดงมาก่อน จะไม่มีที่นี่"
เมื่อถูกถามถึงการเปลี่ยนแปลงของสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 สรรค์ชัยตอบพร้อมกับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ตามสไตล์นักการตลาดฝีปากกล้าว่า "เอาแค่ชื่อก็บอกแล้วว่าของเก่าล้าสมัย"
เขายอมรับว่าจุดเด่นของช่อง 9 อยู่ที่การมีสำนักข่าวไทย และการมีสื่อที่หลากหลาย
ก็ต้องลองดูกันไปนานๆ
หลังตอบคำถามจนเป็นที่พอใจ ก็มาถึงสกู๊ปพิเศษ "บั้งไฟ พญานาค"
ของรายการถอดรหัส จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่สกู๊ปนี้ได้ถูกนำออกฉายในช่วงค่ำคืนของวันจันทร์
ก่อนหน้างานเปิดตัวของ Modernine Television เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น
งานนี้ไอทีวีถูกผู้สื่อข่าวซักไซ้ไล่เลียงอยู่นาน โดยเฉพาะประเด็นที่มาที่ไปของบั้งไฟพญานาค
ที่ไอทีวีไปพบว่าเป็นการกระทำของการยิงปืนของทหารลาว ไม่ใช่ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติแต่อย่างใด
ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายความเชื่อเดิมๆ จนกระทั่งสรรค์ชัยต้องออกมาเปรียบเปรยด้วยคำพูดมันๆ
สไตล์ ของเขาว่า
"งานนี้ไม่ต่างไปจากงานศพ แล้วมีคนผายลมออกมา มีคนบอกว่าเป็นกลิ่นศพ
แต่จริงๆ แล้วมันก็คือ กลิ่นผายลม ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน สิ่งที่ไอทีวีนำเสนอเป็นแค่จุดเดียวที่เราไปเห็น"
ข่าวสกู๊ปบั้งไฟพญานาคกลายเป็นกระแสโด่งดังสมใจ แถม ยังทำท่าลุกลามกลายเป็นปัญหาบานปลาย
ปรากฏอยู่บนหน้าหนังสือพิมพ์รายวันอย่างต่อเนื่อง
แต่ดูเหมือนว่า สรรค์ชัยก็ยังยิ้มสดชื่น และเชื่อมั่นในกลยุทธ์ การตลาดของตัวเอง
ส่วนกระแสข่าวที่เป็นไม้เด็ดตามมาเป็นระลอกที่สองจะเป็นอย่างไร คงต้องตามดูกันต่อไป
ไม่รู้ว่าคราวนี้จะโด่งดังเหมือนกับบั้งไฟพญานาคหรือเปล่า