|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สามารถตั้งเป้า 3 ปีหน้ารายได้ธุรกิจต่างประเทศเกินหมื่นล้านบาท หรือประมาณ ครึ่งหนึ่งของรายได้รวม วางโพสิชันเป็น technology company ไม่ขีดวงแค่ไอทีหรือโทรคมนาคม ที่ยากแข่งขันกับทุนต่างประเทศ
นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่าภายในปี 2551 กลุ่มสามารถจะมีรายได้จากต่างประเทศมากกว่า 1 หมื่นล้านบาทหรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมดของกลุ่มสามารถ โดยที่ในปีนี้กลุ่มสามารถมีรายได้จากต่างประเทศประมาณ 3 พันกว่าล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 15-20% โดยในเดือน พ.ย.จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนของธุรกิจด้านพลังงานในประเทศกัมพูชา ซึ่งกลุ่มสามารถไม่ได้มองแค่การตั้งโรงไฟฟ้า แต่มองธุรกิจที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสายส่ง (transmission line) หรือธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุดิบที่จะต้องนำมาผลิตเพื่อให้เกิดพลังงานเพื่อให้ครบวงจรธุรกิจ
"ไม่ได้ดูแค่โรงไฟฟ้าอย่างเดียว เพราะเป็น fixed income มีราคาแน่นอน ชาร์จไม่ได้มาก เราดูธุรกิจอื่นด้วย ซึ่งภายในเดือนพ.ย.จะได้ข้อสรุปไม่ว่าจะเป็นเรื่องพันธมิตร ซึ่งคาดว่าขนาดการลงทุนระดับหลายพันล้านบาท"
การลงทุนในธุรกิจพลังงานจะเริ่มที่กัมพูชาเป็นประเทศแรกเป็นเพราะเป็นประเทศที่มีอัตราการใช้พลังงานมาก ในขณะที่กลุ่มสามารถ วางตำแหน่งเป็น technology company ไม่ได้ จำกัดตัวเองเป็นไอทีหรือโทรคมนาคม เพราะปัจจุบันในประเทศไทยธุรกิจโทรคมนาคมถูกจำกัดด้วยการแข่งขันที่ต้องอาศัยเงินทุนจำนวนมาก
เขาย้อนอดีตให้ฟังว่ากลุ่มสามารถเติบโตมา จากด้านอิเล็กทรอนิกส์ เสาอากาศ จานดาวเทียม ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา และหันหัวเข้าธุรกิจโทรคมนาคมด้วยการเป็นโอเปอเรเตอร์โทรศัพท์มือถือ ลงทุนในอินฟราสตรักเจอร์ ที่ใช้เงินทุนสูง แต่กลุ่มสามารถแข่งขันสู้คนอื่นไม่ได้ เพราะเงินไม่หนาพอ จำเป็นต้องปรับทิศทางบริษัทใหม่ เข้าสู่ช่องว่างอย่างด้านโซลูชัน ดิจิตอล คอนเทนต์ ซึ่งทำให้ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จ บริษัทลูกต่างอยู่รอดเลี้ยงตัวเองและมีกำไร
นายธวัชชัยกล่าวว่า ต่อไปอีก 10 ปีข้างหน้า ต้องมองว่ากลุ่มสามารถจะทำอะไร ธุรกิจโทรคมนาคม ลงทุนอินฟราสตรักเจอร์จำนวนมากถือว่าถูกปิดล้อมด้วยทุนต่างประเทศที่จะไหลเข้ามามากตามการเปิดแข่งขันเสรี ซึ่งทำให้เกิดการแข่งขันสูงและรูปแบบเปลี่ยนแปลงไป กลุ่มสามารถต้องมองหาและพัฒนาเทคโนโลยีเฉพาะขึ้นมาเอง เพื่อให้เกิดมาร์จิ้นสูงสุด อย่างเทคโนโลยีด้านการควบคุมการจราจรทางอากาศหรือ air traffic control ในประเทศกัมพูชาถือเป็นการลงทุนจำนวนมากครั้งแรกครั้งเดียว และเก็บเกี่ยวรายได้ระยะยาว
รวมทั้งในปี 2549 กลุ่มสามารถจะมีธุรกิจระดับพระเอกที่ทำรายได้มากกว่าปีละ 1 พันล้านบาทอย่างบริษัท vision&security ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัย โดยจะมีซอฟต์แวร์ที่ชื่อ nice vision จากประเทศอิสราเอล เพื่อให้บริการที่คาดว่าตลาด ทั้งราชการที่เกี่ยวกับความมั่นคงและเอกชนจะมีความตื่นตัวสูงเกี่ยวกับเรื่องการรักษาความปลอดภัย โดยบริษัทจะพัฒนาบริการถึงระดับให้บริการเอาต์ซอร์สทั้งหน่วยงานราชการและธุรกิจเอกชน
สำหรับเป้าหมาย 1 หมื่นล้านบาทจากธุรกิจ ต่างประเทศ ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะทำให้เกิดขึ้นได้คือกลุ่มสามารถคาดว่จะขายโทรศัพท์มือถือแบรนด์ไอ-โมบาย ของกลุ่มสามารถเองให้ได้มากถึง 5 ล้านเครื่องภายในปี 2551 โดยภารกิจ ที่สำคัญคือต้องพัฒนายกระดับแบรนด์ไอ-โมบายจากระดับภูมิภาค ให้ขึ้นเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล แบรนด์ ให้คนใช้รู้สึกดี เสียเงินแล้วภูมิใจที่ใช้ไอ-โมบาย โดยในเดือนม.ค.2549 สามารถไอ-โมบายจะเป็นสปอนเซอร์หลักในการแข่งขันกอล์ฟไรเดอร์คัพระหว่างยุโรปกับเอเชีย โดยใช้เงินมากกว่า 10 ล้านบาท
นอกจากนี้ในปีหน้าจะเห็นโทรศัพท์มือถือไอ-โมบายและคอนเทนต์ 3G ขายที่ประเทศมาเลเซียและศรีลังกาที่มีโครงข่ายมือถือ 3G
"อกเสื้อแมนยูฯมีโวดาโฟน" เชลซีมีซัมซุง ทำไมผมจะทำให้อกเสื้อลิเวอร์พูลมีไอ-โมบายไม่ได้ เพราะถ้าเราทำให้ไอ-โมบายเป็นแบรนด์ระดับภูมิภาคใน 2-3 ปี เราขายได้มากพอมีเงินทำการสื่อสารการตลาดได้มากพอ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก"
นอกจากนี้ การที่มีเทเลคอมมาเลเซีย(TM) เป็นพาร์ตเนอร์ ก็เปิดโอกาสการขยายธุรกิจ ในต่างประเทศที่ TM เป็นโอเปอเรเตอร์ โดยที่กลุ่ม สามารถจะเป็น official content provider ให้ TM ในประเทศต่างๆไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย ศรีลังกา บังกลาเทศ เวียดนาม อินโดนีเซีย โดยในแต่ละประเทศจะต้องมีการทำ localize หรือทำให้เข้ากับท้องถิ่น บนแพลตฟอร์มเดียวกัน
กลุ่มสามารถยังมีแผนที่จะนำเครื่องไอ-โมบายในราคาต่ำประมาณ 2-3 พันบาทเข้ามาทำตลาด ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการสนับสนุน TM ในการบุกเบิกตลาดในประเทศต่างๆ รวมทั้งไอ-โมบายจะมี product line โทรศัพท์มือถือครบวงจรตั้งแต่ล่างสุดจนถึงระดับบนสุด อย่างในช่วง ปลายปีนอกจากโทรศัพท์มือถือที่ดูทีวีได้ ยังมีโทรศัพท์มือถือแบบสไลด์โฟน ที่มีเอ็มพี 3 บลูทูธขายพร้อมหูฟังบลูทูธในราคาเพียง 9,600 บาทแต่ถ้าไม่เอาหูฟังจะเหลือเพียง 8 พันกว่าบาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังจะมีบริการที่เรียกว่า personal smart ฝังอยู่ในมือถือไอ-โมบาย เพื่อดูข้อมูลหุ้น ตารางการบิน ข่าวสารต่างๆได้ และยังอยู่ระหว่าง คุยกับเวนเดอร์ยี่ห้ออื่นๆเพื่อฝัง personal smart ไว้ในโทรศัพท์มือถือ
|
|
|
|
|