Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 ตุลาคม 2548
ผ่าทาง"สก๊อต"ชูการตลาดจับไลฟ์สไตล์ ผุดสื่อโฆษณาลอยฟ้าก่อนเทกออฟปีจอ             
 


   
search resources

Marketing
สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย), บจก.




"สก๊อต" พลิกแนวการตลาดโดดเกาะไลฟ์สไตล์มาร์เกตติ้ง ขยายฐานลูกค้า ทุ่ม 10 ล้านบาทเปิดตัวแคมเปญ "สก๊อต ฟลายอิ้ง ฮาย" ซื้อสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ลอยฟ้าเหมาลำไทยแอร์ เอเชีย จุดพลุก่อนเปิดแผนขยายไลน์สินค้าเชิงกว้าง-ลึกปีจอ รับเทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคซับซ้อน คู่แข่งทางตรง-อ้อมจ้องแชร์ตลาด ยันไข้หวัดนกรอบสอง ไม่กระทบสิ้นปีโตตามเป้ากวาด 1,050 ล้านบาท

นายสมโภช ชวาลเวชกุล กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายเครื่องดื่มรังนกสำเร็จรูปสก๊อต เปิดเผยว่า แนวทางในการทำตลาดของบริษัทจะเน้นในเรื่องไลฟ์สไตล์มาร์เกตติ้ง เพื่อสร้างภาพลักษณ์สก๊อตให้เป็นผลิตภัณฑ์ อาหารเสริมที่สนุก ดูไม่ซีเรียส และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนได้มากขึ้น เพราะปัจจุบัน ด้วยตัวสินค้าและแนวทางทำตลาดของ ผู้ประกอบการทำให้ภาพลักษณ์ของสินค้า ดูซีเรียสจึงไม่สามารถขยายกลุ่มเป้าหมาย ใหม่ๆ ได้ อีกทั้งมองว่าเทรนด์การทำตลาด ยุคใหม่จะต้องจับไลฟสไตล์ของคนมากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใกล้ชิดกับตราสินค้าซึ่งปัจจุบันผู้บริโภคมีความภักดีต่อตรา สินค้าน้อยลง สืบเนื่องจากสภาพตลาดมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้เลือก

ไลฟ์สไตล์มาร์เกตติ้งของสก๊อตเริ่มทำมากว่า 2-3 ปีแล้ว โดยเริ่มจัดคอนเสิร์ต และการเป็นผู้สนับสนุนหลักเวทีประกวดนางงาม ซึ่งเรามองว่าสก๊อตยังสามารถจัดกิจกรรมที่เป็นไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการร่วมทำกับการท่องเที่ยว การอ่านหนังสือ กีฬา หรือกระทั่งสะสมของ แต่ขณะนี้เราเน้นใน เรื่องมิวสิกมาร์เกตติ้งนำร่องเป็นหลักก่อน

ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 10 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญ "สก๊อต ฟลายอิ้ง ฮาย" สื่อโฆษณาเคลื่อนที่ลอยฟ้าแบบเหมา 1 ลำบนสายการบินไทยแอร์ เอเชีย โดยหุ้มสื่อภายนอกตัวเครื่องและบริเวณภายในเครื่องบิน ได้แก่ บริเวณที่เก็บสัมภาระ โต๊ะพับสำหรับวางอาหารทั้งด้านหน้า และด้านหลังกระเป๋าสำหรับวางโบรชัวร์สินค้า รถเข็นบริการอาหารประเดิมในช่วงแรกก่อน ส่วนสัญญาระหว่าง 1 ปีนี้เตรียมจัดกิจกรรมบนเครื่องอย่างต่อเนื่อง อาทิ โปรโมชัน และร่วมทำกับตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ "ก๊อต ชูการ์ฟรี ซินดี้-สิรินดา เจนเซ่น มิสไทยแลนด์เวิลด์ปี 2005"

การเปิดตัวสื่อโฆษณาบนเครื่องบิน ก็ถือว่าเป็นการจับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอีกอย่างหนึ่ง เพราะการมีสายการบินโลว์คอสต์ทำให้คนสัมผัสกับการเดินทาง ทางอากาศได้มากขึ้น แม้ว่าโลว์คอสต์จะมีกลุ่มเป้าหมายเป็นตลาดแมส แต่ในจำนวนนั้นก็ยังมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันกับสก๊อต คือ กลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน

สำหรับเป้าหมายของการเปิดตัวแคมเปญ "สก๊อต ฟลายอิ้ง ฮาย" นอกจากกระตุ้นยอดขายช่วงไตรมาสสุดท้าย 20% แล้ว ยังช่วยขยายฐานลูกค้า สร้างแบรนด์และภาพลักษณ์สก๊อตให้มีความชัดเจนมากขึ้น จากที่ผ่านมาภาพรวมของสก๊อตยังรุกไม่เต็มที่มากนัก และเน้นจุดขายในเรื่องของฟังก์ชันนัลหรือประโยชน์ของสินค้า แต่ตอนนี้จะเน้นไลฟ์สไตล์มาร์เกตติ้งมากขึ้น พร้อมกันนี้ การจัดแคมเปญดังกล่าวยังเป็นสัญญาณว่าบริษัท จะรุกตลาดอย่างหนักในปีหน้าอย่างเต็ม ตัว หลังจากที่ทำตลาดในไทยมากว่า 22 ปี ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รังนกสำเร็จรูปตรา สก๊อต ซึ่งเป็นผู้นำตลาดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันครองส่วนแบ่ง 60% จากมูลค่าตลาดรังนก 1,100 ล้านบาท ส่วนซุปไก่สก๊อตเป็นอันดับสองของตลาดครอง ส่วนแบ่ง 30%

แผนการทำตลาดในปีหน้า บริษัทจะขยายไลน์สินค้าทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์ รังนกและซุปไก่ในเชิงกว้างและในเชิงลึก เพื่อจับไลฟ์สไตล์ของคนให้ได้มากขึ้น โดย ยังคงเน้นกลุ่มเป้าหมายเดิม คือ วัยทำงาน เป็นหลัก ในเชิงรุกเน้นสินค้าที่เพิ่มมูลค่าและตอบสนองความต้องการได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น แต่ยังคงอยู่ในแคทิกอรีรังนกและซุปไก่ ซึ่งจะเปิดตัวช่วงเดือนเมษายน ส่วนเชิงกว้างเน้นพัฒนาสินค้าในเซกเมนต์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมซึ่งจะเปิด 2 ตัว โดยงบการตลาดปีหน้าจะใช้ใกล้เคียงกับปีนี้คือ 270 ล้านบาท แบ่งเป็นซุปไก่ 100 ล้านบาท และรังนก 170 ล้านบาท

ตลาดที่บริษัทเน้นยังคงเป็นชนิดน้ำอยู่ เพราะมองว่าอาหารเสริมชนิดเม็ดยังมีจุดอ่อนในเรื่องของภาพลักษณ์ที่คล้ายยา คนส่วนใหญ่ยังกังวลว่าเมื่อกินเข้าไปแล้วจะมีผลข้างเคียงหรือเปล่า ขณะเดียวกัน แนวโน้มตลาดอาหารเสริมชนิดน้ำก็ยังสามารถขยายตัวได้อีกมากŽ

สำหรับเหตุผลที่บริษัทต้องขยาย ไลน์สินค้าทั้งในเชิงกว้างและลึก เนื่องจาก แนวโน้มตลาดอาหารเสริมขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเป็นตลาดที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะคนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยตลาดรวมทั้งรังนกและซุปไก่ปีนี้โต 8% โดยรังนกขยายตัวสูงถึง 10% ต่อปีเพราะดื่มง่ายกว่าเมื่อเทียบกับตลาดซุปไก่ที่โต 5-6% ขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้บริโภคก็เปลี่ยนแปลงไปมีความซับซ้อนมากขึ้น และต้องการผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น รวมทั้งด้านการแข่งขันโดยเฉพาะในแนวลึกปัจจุบันภาวะตลาดมีสินค้าที่สร้างมูลค่าขึ้นมามากทั้งคู่แข่งโดยตรงและโดยอ้อมอย่างธุรกิจขายตรงและเชนร้านขายยา

ทั้งนี้หลังจากที่บริษัททำตลาดใน เชิงรุกปีหน้า ตั้งเป้ากลุ่มรังนกเติบโต 20% ส่วนซุปไก่โต 15% ส่วนผลประกอบการของบริษัทปีนี้ตั้งเป้า 1,050 ล้านบาท แบ่งเป็นรังนกสำเร็จรูปสก๊อต 600 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโต 20% โดยรังนก แท้มีสัดส่วนรายได้ 70% ชูการ์ฟรี 25% ซึ่งเป็นรสชาติที่เริ่มเติบโตสูงเนื่องจากคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ส่วนอีก 15% เป็นรังนกโสมและโสมเกาหลี ส่วนรายได้ซุปไก่ 450 ล้านบาทโต 10% ทั้งนี้เชื่อว่าเหตุการณ์ไข้หวัดนกระบาดในสัตว์ปีกปีนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรวม เนื่องจาก ผู้บริโภคมีความรู้เกี่ยวกับโรคดังกล่าวมากขึ้น หลังจากปีที่ผ่านมาโรคไข้หวัดนกได้แพร่ระบาดสร้างความตื่นตระหนกและกระทบต่อยอดขายของบริษัท   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us