เผยกลยุทธ์บุกโซนใหม่ ขยายช่องทางตลาดอสังหาฯรายกลาง เอ็น.ซี.ฯ - อารียา นำร่อง รับบริหารการขาย สร้างความคุ้นเคย แบรนด์ ต่อผู้บริโภคในพื้นที่ พร้อมศึกษาศักยภาพทำเล กำลังซื้อช่องทาง ตลาด ก่อนเข้าซื้อที่ดิน-โครงการ-เทกโอเวอร์โครงการจากพันธมิตร พัฒนาต่อภายใต้แบรนด์บริษัทแม่ ลุยตลาดโซนใหม่

การรุกเข้าไปพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรในโซนใหม่ของผู้ประกอบการ ไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับผู้ประกอบการแต่ละราย เนื่องจากต้องมีการสร้างแบรนด์ สร้างฐานลูกค้าใหม่ เพื่อรองรับการ เติบโตที่ต่อเนื่องของบริษัทฯ ในขณะเดียวกันก็ต้องแข่งขันกับเจ้าถิ่นในโซนใหม่ด้วย ทำให้การขยาย โซนพัฒนาโครงการเป็นเรื่องที่ต้องมีการศึกษา และนำกลยุทธ์ การสร้างแบรนด์ให้ได้รับการยอมรับ

บริษัท อารียา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เป็นอีกผู้ประกอบ การรายหนึ่งที่ต้องฝ่าข้ามการ สร้างแบรนด์ในโซนใหม่ ซึ่งล่าสุดกลยุทธ์ที่นำมาใช้ในการพัฒนาโครงการในโซนใหม่ โดยเริ่มต้นด้วยการรับบริหารการขายให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ใหม่ก่อน และเมื่อพบช่องทาง รวมถึงศักยภาพของตลาดในโซนนั้นซึ่งที่ผ่านมาเตรียมเข้าเทกโอเวอร์ เพื่อพัฒนาโครงการขาย แต่ยังมีการชะลอออกไปเนื่องจากติดเงื่อนไข ของเรื่องราคาและภาวะตลาดที่ไม่อำนวย โดยช่วงที่ผ่านมา "อารียา" ได้รับบริหารการขายและเตรียมเข้าเทกโอเวอร์ โครงการ วันดารา 2 โครงการ คือโครงการวันดารา ถนนสุขุมวิท 77 (อ่อนนุช) และโครงการ วันดารา Townhouse สุขุมวิท 77

สำหรับกลยุทธ์ที่อารียาฯนำมา ใช้ดังกล่าว ไม่ใช่กลยุทธ์ใหม่ แต่ต้นตำรับกลยุทธ์ดังกล่าว ต้องยก ให้ผู้ประกอบการเจ้าตลาดโซนเหนือ กรุงเทพฯ ที่พัฒนาโครงการขายภายใต้แบรนด์ "บ้านฟ้า" อย่าง บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งนำกลยุทธ์ดังกล่าว มาใช้ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2546 ก่อนเข้าจดทะเบียนและขายหุ้น ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งกลยุทธ์นี้ถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จในการบุกเข้าไปพัฒนาโครงการในโซนใหม่อย่างมาก

นายสมนึก ตันฑเทอดธรรม รองกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "เอ็น.ซี.ฯ" ได้ตั้งบริษัท เอ็น.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (NCPM) รับบริหารการขายโครงการ ซึ่งเป็นช่องทางในการเพิ่ม รายได้ของบริษัท และเพื่อให้เป็น การทำธุรกิจที่ครบวงจร ในขณะเดียวกันการรับบริหารโครงการ ให้ลูกค้า ก็ช่วยให้สามารถศึกษาข้อมูลของตลาดในพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นกลุ่มลูกค้า กำลังการซื้อ ช่องทางตลาดใหม่ ความต้องการที่อยู่อาศัยในโซนต่างๆ ทำให้ทราบความต้องการที่อยู่อาศัยใน เซกเมนต์ความต้องการมากในแต่ละพื้นที่ รวมถึงศักยภาพของตลาดและทำเลด้วย

ทั้งนี้ หากในพื้นที่นั้นๆ มีความพร้อมในทุกด้าน บริษัทก็สนใจที่จะเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการ ภายใต้แบรนด์ของ บริษัทแม่ โดยการซื้อที่ดินใหม่ เข้ามาพัฒนา หรือเจรจาขอซื้อโครงการ และพัฒนาต่อ และในบาง พื้นที่จำเป็นต้องมีการร่วมพัฒนาโครงการกับเจ้าถิ่นด้วย เพื่อเป็น การสร้างแบรนด์ของ เอ็น.ซี.ฯ ในพื้นที่ใหม่ เนื่องจากการพัฒนาโครงการในโซนใหม่ ในขณะที่ ผู้บริโภคในพื้นที่ยังไม่รู้จักแบรนด์ เป็นเรื่องยากที่จะประสบความสำเร็จในการขาย ดังนั้นการเข้าไปบริหารการขายจึงเป็นการสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ เอ็น.ซี.ฯ ไปด้วย

โดยที่ผ่านมา NCPM ได้เข้า บริษัทหารการขายโครงการ "Tanyatanee Home on Green" คฤหาสน์หรูรอบสนามกอล์ฟ โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง NCPM และ บริษัท สุรชิต เรียลเอสเตท จำกัด ในพื้นที่ธัญธานี ซึ่งโครงการ ดังกล่าว เป็นที่ดินแปลงใหญ่เนื้อที่ กว่า 371 ไร่ ระยะแรกบริษัท เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด และบริษัท สุรชิต เรียลเอสเตท จำกัด กลุ่มผู้ประกอบ การเจ้าของสนามกอล์ฟธัญธานี พันธมิตรธุรกิจ ที่ร่วมกันพัฒนาโครงการ มีแผนจะนำที่ดินมาพัฒนาประมาณ 147 ไร่ คิดเป็นมูลค่าขายโครงการ 1,600 ล้านบาท แต่หลังจากที่เห็นศักยภาพพื้นที่ และตลาดจากยอดขายที่รวดเร็ว ทำให้ เอ็น.ซี.ฯ ตัดสินใจซื้อที่ดินริมสนามกอล์ฟ เพื่อพัฒนาเพิ่มอีก 300 กว่าไร่ เพื่อพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ เอ็น.ซี.ฯ 100% และด้วยความร่วมมือทางธุรกิจ ทำให้สามารถเจรจาธุรกิจเข้าใจ กันได้ง่ายขึ้น กลุ่มพันธมิตรเดิม ได้เปิดบริษัท ดอยสะเก็ดบ้านและที่ดินจำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ บ้านสวนริมธาร ที่อำเภอดอยสะเก็ด จำนวน 113 ยูนิต บนพื้นที่ 42 ไร่ มูลค่าขาย 128 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ NCPM ทำหน้าที่บริหารการขาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทดสอบ ศักยภาพความพร้อมในทุกด้านของตลาดเชียงใหม่

นายสมนึก กล่าวว่า การขยาย โซนโดยการรับบริหารการขาย และ เข้าซื้อโครงการพัฒนาต่อของ เอ็น.ซี.ฯ ในโครงการ ธัญธานี โฮม ออนกรีน ไม่ใช่โครงการแรกที่มี การ บุกโซนใหม่ด้วยวิธีการดังกล่าว แต่ก่อนหน้านั้น NCPM ได้รับบริหารการขายโครงการคอนโด มิเนียม บ้านสวนลลนา ในพื้นที่ หาดจอมเทียนให้กับกลุ่ม บริษัท สมประสงค์แลนด์ จำกัด โดยสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว และเช่นเดียวกันเมื่อพบว่าตลาดในย่านดังกล่าว มีศักยภาพพร้อมทุกอย่าง เอ็น.ซี. เฮ้าส์ซิ่ง ซึ่งเป็นบริษัทแม่ ก็ตัดสินใจซื้อที่ดินต่อจากบริษัทสมประสงค์แลนด์ เพื่อพัฒนาโครงการบ้านสวนลลนา บ้านเดี่ยวราคาแพงขาย และก็สามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว

ซึ่งเมื่อประสบความสำเร็จกับการขายโครงการบ้านอย่างรวดเร็ว เอ็น.ซี.ฯจึงตัดสินใจซื้อที่ดินแลนด์แบงก์ ซึ่งเป็นเอ็นพีแอลของธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 27 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการบานฟ้าริมหาดจอมเทียน จำนวน 95 ยูนิต ซึ่ง ขณะนี้มียอดขายแล้ว 95% และคาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ในปลายปีนี้

กลยุทธ์การบุกโซนใหม่ ด้วยการสำรวจศักยภาพความพร้อมทุกด้าน ก่อนเทกโอเวอร์โครงการหรือซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการต่อเนื่องหลังการสร้าง การรับรู้แบรนด์ผ่านบริหารการขายของบริษัทลูกอย่าง NCPM ของ บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) นับว่าเป็นกลยุทธ์ ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องซึ่งในปี 49 นี้ เอ็น.ซี.ฯ ยังมีแผน ที่จะพัฒนาโครงการในรูปแบบ ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง