Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน31 ตุลาคม 2548
หัวเหว่ย"แผลงฤทธิ์ "ซีดีเอ็มเอ" อ้างพิกัดสถานีฐานเป็นตัวปัญหา             
 


   
www resources

โฮมเพจ กสท โทรคมนาคม

   
search resources

กสท โทรคมนาคม, บมจ.
Mobile Phone
หัวเหว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย)




เปิดแผนเอื้อประโยชน์หัวเหว่ยครบวงจร ตั้งแต่เขียนทีโออาร์คลุมเครือ เขี่ยคู่แข่งตกสเปก พอชนะด้วยราคาถูก ติดตั้งไม่ทัน ก็อ้างปัญหาพิกัดสถานีฐาน ที่เกิดจากทีโออาร์ไม่ชัดเจน พร้อมทางถอยทีโออาร์ข้อ 12.4 เปิดช่องให้ใช้ดุลยพินิจว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่ล่าช้า สามารถต่ออายุสัญญาโดยไม่ต้องปรับ ด้านบอร์ดกสทให้เวลา 5 วันหาคำตอบที่แท้จริงจากข้ออ้างหัวเหว่ย

นายอำนวยศักดิ์ ทูลศิริ รองประธานบอร์ดบริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวภายหลังการประชุมบอร์ดเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาว่าบริษัท หัวเหว่ยได้ส่งหนังสือแจ้งถึงปัญหาและอุปสรรคในการติดตั้งเครือข่ายโทรศัพท์มือถือซีดีเอ็มเอในภูมิภาคว่ามีการเปลี่ยนแปลงพิกัด (location) ในการติดตั้งสถานีฐานประมาณ 75% จากที่กำหนดไว้ในทีโออาร์และยังมีปัญหาในเรื่องการนำเข้าอุปกรณ์สื่อสัญญาณไมโครเวฟที่ติดขัดเรื่องใบอนุญาต รวมทั้งปัญหาเรื่องการประสานงานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

ทั้งนี้ บอร์ดได้ให้เวลาหาความจริงจากสิ่งที่หัวเหว่ยอ้างมาภายใน 5 วันทำการ โดยให้นายไกรสร พรสุธี ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที)เป็นคนรวบ รวมรายงานที่จะได้รับจาก project manager และ steering committee ก่อนที่จะนำเสนอบอร์ด รวมทั้งให้ช่วยเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานอื่น (third party)ที่ต้องเกี่ยวข้อง ในการติดตั้งอย่างการไฟฟ้าภูมิภาค

"project manager รายงานว่าติดตั้งไปแล้วกว่า 400 ไซต์และเชื่อว่าน่าจะติดตั้งเฟสแรกเสร็จทันตามสัญญา"

สำหรับทีโออาร์นั้นกำหนดให้หัวเหว่ยต้องส่งมอบสถานีฐานจำนวน 800 ไซต์ที่ต้องสามารถใช้งานได้ภาย ในวันที่ 26 ม.ค.2549 และครบ 1,600 ไซต์หลังจากนั้นอีก 12 เดือน ซึ่งหากทำไม่ได้ต้องจ่ายค่าปรับวันละ 90 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามทีโออาร์ข้อ 12.4 ระบุว่าการขอต่ออายุสัญญาโดยการงดหรือลดค่าปรับจะกระทำมิได้เว้นแต่เป็นเหตุสุดวิสัยหรือเป็นความผิดพลาดหรือความบกพร่องของฝ่ายผู้ว่าจ้างหรือเหตุเกิดจากพฤติการณ์อันหนึ่งอันใดที่ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย หมายถึงเป็นการเปิดช่องหรือเปิดโอกาสให้ กสท ใช้ดุลยพินิจว่าอะไรเป็นเหตุสุดวิสัยที่จะทำให้หัวเหว่ยไม่ต้องเสียค่าปรับ

"การจะปรับหรือไม่ต้องดูว่าเกิด จากความผิดพลาดของฝ่ายไหน ของ กสทหรือหัวเหว่ย" นายอำนวยศักดิ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในช่วง การประชุม bid conference ก่อนประมูล ประเด็นที่หัวเหว่ยกล่าวอ้างเรื่องพิกัดในการติดตั้งสถานีฐาน เป็นสิ่งที่เวนเดอร์ทุกรายรับรู้ล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากทีโออาร์ซีดีเอ็มเอถูกเขียนขึ้นอย่างรีบเร่ง โดยที่ไม่มีการสำรวจพื้นที่ให้ชัดเจน แต่จะใช้พิกัดเดิมของสถานที่ของ กสท หรือของเอกชนภาย ใต้สัญญาร่วมการงานอย่างดีแทค ซึ่งในความจริงบางตำแหน่งตามพิกัด ก็ไม่มีจริง ซึ่งเมื่อเวนเดอร์สอบถามในการประชุม กสทก็บอกแต่เพียงว่าให้เป็นไปตามทีโออาร์ ก็หมายถึงหัวเหว่ย ก็ต้องรับรู้ปัญหาดังกล่าวตั้งแต่ต้น แล้ว

"ในความเป็นจริงตอนเสนอราคาประมูล ความไม่ชัดเจนเรื่องพิกัด และความคลุมเครือในทีโออาร์อีกหลายๆอย่าง ล้วนเป็นความเสี่ยงที่ทำให้ต้องบวกเพิ่มในการเสนอราคา เนื่องจากค่าปรับแพงมากแต่กลายเป็นว่าคนที่ชนะกล้าที่จะเสนอราคาถูกมากอย่างน่าสงสัย" แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมกล่าว

เขาย้ำอีกว่า สิ่งที่หัวเหว่ยอ้างถึงพิกัดที่เปลี่ยนแปลง เป็นสิ่งที่เวนเดอร์ทุกรายต้องรู้ตั้งแต่อ่าน ทีโออาร์แล้ว แต่การที่ กสท ไม่ทำให้ทุกอย่างให้ชัดเจน รวมทั้งมีทีโออาร์ข้อ 12.4 ที่ให้ใช้ดุลยพินิจในการปรับหรือไม่ปรับ รวมทั้งการเขี่ยเวนเดอร์สัญชาติจีนอีกรายอย่าง ZTE ที่ร่วมประมูลกับกลุ่มสามารถโดยอ้างว่าข้อเสนอมีเงื่อนไข ทั้งๆที่เป็นทางเลือกเพื่อ ให้โครงการเสร็จทันเวลา กลับถูกปรับตก ในขณะที่หัวเหว่ยถึงเสนอแบบมีเงื่อนไข แต่กลับตะแบงว่าไม่ใช่ สาระสำคัญ

ถือได้ว่าเป็นแผนชั้นเซียนที่ผูกเรื่องตั้งแต่เขียนทีโออาร์ให้คลุมเครือ หาทางทำให้คู่แข่งตกสเปก พอได้งานก็อ้างหาเหตุว่าเกิดปัญหาทำให้ล่าช้า ซึ่งถ้าจวนตัวก็ใช้ดุลยพินิจว่าสุดวิสัยเพื่อไม่ต้องเสียค่าปรับ ทุกอย่างถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น

นายธวัชชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น ให้ความเห็นว่าหากการติดตั้งซีดีเอ็มเอไม่เสร็จตามกำหนดก็เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ เพราะราคาที่ชนะ ทำให้เมื่อว่าจ้างซับคอนแทรกเตอร์ก็ย่อมได้งานที่ไม่มีคุณภาพ หรืออาจไม่สามารถควบคุมระยะเวลาได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ บทเรียนนี้น่าจะสะท้อนถึงแนวคิดการประมูลว่าไม่ใช่จำเป็นต้องราคาต่ำสุดแล้วจะได้ของดีเสมอไป อย่าลืมนึกถึงค่าเสียโอกาสหากงานไม่เสร็จ หรือเสร็จแบบไม่มีคุณภาพด้วย

"เวลาบริษัทเราประมูลงานเอง ผมยังไม่เลือกบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดเลย หากไม่มั่นใจคุณภาพ และเวลาที่จะเสียไป รวมทั้งค่าเสียโอกาสต่างๆที่จะตามมาอีกมาก"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us