|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
การปรับตัวของธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูปกำลังถูกปรับโฉมใหม่เพื่อรองรับการแข่งขันที่นับวันจะเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับการที่ แอร์โรว์ ผลิตภัณฑ์สินค้าสำหรับผู้ชายที่กำลังปรับภาพลักษณ์ของตัวเองให้มีกลุ่มฐานลูกค้าที่แตกต่างออกไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นตลาดกลุ่มผู้หญิงที่เพิ่งเริ่มทำตลาดไปแล้วและสินค้าสำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่จะใช้ช่วงเวลาของฤดูหนาวนำร่องเปิดตลาดเสื้อกันหนาวในรูปแบบแฟชั่น
ขณะเดียวกันการขานรับนโยบายจากบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกาของ แอร์โรว์ ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 48 เพื่อการขยายฐานแตกไลน์เพิ่มรับปีใหม่เป็นแผนการที่ถูกวางไว้ โดยเฉพาะภาพลักษณ์เดิมๆของแอร์โรว์ยังคงมีอยู่แต่จะเพิ่มสีสันของรูปแบบในกลุ่มต่างๆที่ชัดเจนขึ้น
ปี 49 การปั้นแบรนด์ของ แอร์โรว์ จะมีความแตกต่างไปจากเดิมทีที่เน้นผู้ชาย แต่จะหันไปทำตลาด ผู้หญิง ว่ากันว่ามีการตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วน 30% จากปัจจุบันที่มีเพียงแค่ 5% เท่านั้น พร้อมเตรียมตั้งช็อปสแตนด์อะโลนไม่ต่ำกว่า 8 แห่ง ในหัวเมืองหลักอีกด้วย
“การเปิดตัวเสื้อผ้ารับลมหนาวของแอร์โรว์ครั้งนี้ จะเป็นแบบสีสันสดใสในรูปแบบสไตล์การพักผ่อน โดยใช้ชื่อชุด ARROW THE COLOURSAUTUMN/WINTER 2005”สมพล ชัยสิริโรจน์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการผลิตภัณฑ์แอร์โรว์ กล่าวให้ฟังถึงที่มาที่ไป
กลยุทธ์การเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ของแอร์โรว์ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง นับว่าเป็นการเดินทางที่มาถูกจังหวะและถูกเวลา การใช้สินค้าแอร์โรว์ที่มีอยู่ในมือมาประยุกต์ให้เข้ากับภูมิอากาศประเทศไทย ว่ากันว่าเป็นยุทธวิธีที่สร้างแบรนด์ใหม่ควบคู่ไปกับการทำตลาดใหม่ที่แตกต่างไปจากรูปแบบเดิมๆ
สมพล กล่าวอีกว่า รูปแบบที่นำเสนอมีอยู่ด้วยกันถึงสามเรื่องราว โดยแบ่งเป็นการใช้โทนสีเข้ามามีบทบาท กอปรการใช้ความสดใสช่วยเพิ่มชีวิตชีวากับผู้สวมใส่ ขณะที่ยังคงความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความโดดเด่นของสีสัน
“เสื้อผ้าจะมีทั้งแบบแขนสั้นและแขนยาวที่ประยุกต์ด้วยลวดลายต่างๆรอบตัวนำมาใช้ในการออกแบบ เช่นสีของดอกไม้และใบไม้ ขณะเดียวกันก็มีเสื้อเชิ้ตที่ออกแบบสำหรับผู้หญิงและผู้ชายอีกเช่นกัน”สมพล กล่าว
การหันมาเปิดตลาดกลุ่มวัยรุ่นกลยุทธ์ที่สำคัญคือสร้างความแตกต่างและจำเป็นที่สุด เพราะแอร์โรว์มักถูกมองว่าภาพลักษณ์เดิมๆจะเป็นเสื้อผู้ชายสำหรับผู้บริหาร ดังนั้นการเปิดตลาดครั้งนี้จึงต้องใช้ความสดใสบวกด้วยโทนสีที่มีความโดดเด่นเข้ามานั่นเอง
ขณะเดียวกันแผนการตลาดในปี 2549 การผลิตและ จำหน่ายเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงน่าจะมีเพิ่มขึ้น หลังจากในปีที่ผ่านมา แอร์โรว์ได้ผลิตเสื้อผ้า ภายใต้แบรนด์ แอร์โรว์ วูเมน วางจำหน่ายไปบ้างแล้ว และพบว่าผู้หญิงไทยมีการตอบรับสินค้าเช่นกัน และเป็นโจทย์ที่บริษัทแม่ในอเมริกาตั้งขึ้นเพื่อให้กลุ่มตัวแทนในประเทศไทยหาคำตอบให้ได้อีกด้วยเช่นกัน เพราะนั่นหมายถึงการสร้างความแข็งแกร่งให้กับภาพลักษณ์สินค้านั่นเอง
ปัจจุบันแอร์โรว์มีการผลิตเสื้อผ้าผู้หญิงขึ้น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสวมใส่แบบลำลอง และกลุ่มผู้หญิงทำงาน เน้นความทะมัดทะแมงและความทันสมัย โดยการออกแบบเสื้อผ้า จะใช้โทนสีและรูปแบบให้เข้ากับฤดูกาลต่างๆ
การสร้างให้แบรนด์แอร์โรว์ วูเมนเป็นที่รู้จัก กรรมการผู้จัดการกล่าวว่าจะเน้นการขยายพื้นที่จำหน่ายเพิ่มขึ้นด้วยการแยกส่วนออกจากเสื้อผ้าผู้ชาย เพื่อให้เห็นสินค้าได้ชัดเจนและดึงดูดใจผู้หญิงโดยตรง ทั้งที่ในปัจจุบันเองยังคงวางจำหน่ายสินค้าสำหรับผู้หญิงและผู้ชายอยู่ด้วยกัน ซึ่งบริษัทเตรียมขยายในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศ ในอนาตคอันใกล้นี้ เตรียมเปิดแอร์โรว์สำหรับผู้ชายและผู้หญิง ว่ากันว่าจะเปิดในรูปแบบสแตนด์อะโลนอย่างน้อย 5-8 แห่ง โดยเป็นช็อปขายพื้นที่กว่า 90 ตารางเมตร
ขณะที่รูปแบบมีแนวคิดที่แยกออกจากกันคือ ผู้ชายจะเน้นเชิ้ต แต่ของผู้หญิงจะเป็นชุดสูททำงาน หรือชุดลำลองที่ทันสมัย ปัจจุบันมีการโฆษณาในเชิงรุก เพื่อสร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้นกับลูกค้า เนื่องจากเป้าหมายสัดส่วนของตลาดผู้หญิงที่แอร์โรว์วางไว้ 30% นั่นเอง
ปัจจุบันกลุ่มสินค้าของไอ.ซี.ซี.ฯ ทั้งกลุ่ม ซึ่งมี แบรนด์เนมมากกว่า 10 แบรนด์ พบว่าแบรนด์ ลาคอสมีการเติบโตสูงสุดถึง 40-50% เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่มีภาพลักษณ์ดี และบริษัทแม่ได้ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ในระยะนี้แบรนด์ดังกล่าวมียอดขายสูงสุดในบริษัท แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ไม่ส่งผลกระทบ เพราะกลุ่มผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่แข็งแกร่งมาก
อย่างไรก็ตาม กลุ่มไอ.ซี.ซี.ฯ ตั้งเป้าเติบโตสินค้าทุกแบรนด์เฉลี่ยที่ 30% ส่วนแอร์โรว์ในปี 48 นี้ จะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%
|
|
|
|
|