|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไม่ได้มีแค่เพียงนักลงทุนจากส่วนกลางเท่านั้นที่ลงไปสู้รบปรบมือกับนักลงทุนท้องถิ่น ด้วยการลงทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านพักตากอากาศ ซึ่งเป็นการเปิดตลาดบ้านหลังที่2 ในย่านหัวหินที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนของผู้ดีเมืองไทย เพราะนอกจากนักลงทุนรายกลางอย่าง โบ๊ท ลากูน และ หัวหิน บลู ลากูน แล้ว ยังมีกลุ่มนักการเมืองรุ่นใหม่และกลุ่มนักลงทุนที่มีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองรุ่นเก๋า โดดร่วมชิงส่วนแบ่งการตลาดในย่านหัวหินด้วย
อย่างไรก็ตาม การเข้าลงทุนพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ในย่านหัวหินของนักการเมืองทั้ง 2 กลุ่ม เปรียบเสมือนสัณญานบ่งบอกให้เห็นถึงศักยภาพ และแนวโน้มการเจริญเติบโตของพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแนวทางการลงทุนในโครงการริเวียร่า ซึ่งจะเกิดขึ้นในย่านบางสะพาน หัวหิน ประจวบฯ และโครงการก่อสร้างเส้นทางใหม่สู่ภาคใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาเส้นทางใหม่ ภายหลังจากที่รัฐบาลพับแผนการลงทุนโครงการเส้นทางลัดสู่ภาคใต้ หรือแหลมผักเบี้ยไปในช่วงที่ผ่านมา
"แบม"ชิมลางธุรกิจอสังหาฯ
แม้ว่าบทบาททางการเมืองของนักการเมืองรุ่นใหม่อย่าง จณิสตา ลิ่วเฉลิมวงศ์ หรือ แบม จะไม่ค่อยโดดเด่นมากนัก เพราะอยู่ฝ่ายค้าน แต่ในฟากการทำธุรกิจ เชื่อว่ามือใหม่หัดขับในวงการอสังหาฯ อย่าง จณิสตา คงไม่เป็นสองรองใคร เพราะน่าจะมีที่ปรึกษาที่คร่ำหวอดในธุรกิจก่อสร้าง และเก๋ากึ้กในแวดวงการเมืองอย่าง บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย คอยบอกใบ้ให้คำแนะนำด้านการลงทุนอย่างใกล้ชิด
ในฐานะนักพัฒนาที่ดิน จณิสตา ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท ณ วิมาน จำกัด ผู้พัฒนาโครงการเดอะ วิมานเล ซึ่งเป็นโครงการบ้านพักตากอากาศบนพื้นที่ 2 ไร่เศษ ติดชายหาดหัวหิน ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมสูง 4 ชั้น 2 อาคาร จำนวน 27 ยูนิต ในสไตล์การออกแบบที่แตกต่างกันถึง 13 รูปแบบ ราคาเริ่มต้น 4 ล้านบาท และวิลล่าบนชายหาดอีก 2 หลัง มูลค่าการลงทุน 200 ล้านบาท มูลค่าโครงการ 250 ล้านบาท ซึ่งเจ้าของโครงการการันตีว่าเป็นเพียงโครงการเดียวในย่านหัวหินที่มีการสร้างบ้านบนชายหาด
จณิสตา กล่าวถึงแนวคิดการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ ว่า มองการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯ มาตลอด เพราะมารดาทำธุรกิจซื้อขายที่ดิน ซึ่งมีอยู่เกือบ 1,000 ไร่ส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัด โดยที่ดินใน กทม. เป็นที่ดินแปลงเล็กๆ ในย่านรังสิต และบางนา
สำหรับนโยบายการลงทุนเน้นพัฒนาโครงการในจังหวัดท่องเที่ยว โดยมุ่งทำโครงการบ้านหลังที่2 จับกลุ่มลูกค้าซึ่งเป็นคน กทม. ซึ่งชอบใช้เวลาพักผ่อนในต่างจังหวัด จนมาลงตัวที่หัวหิน เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจาก กทม.จนเกินไป และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว โดยพบว่าคนที่มาเที่ยวหัวหิน 80-90% มองเรื่องไลฟ์สไตล์การพักผ่อนริมชายทะเล ซึ่งเป็นช่องว่างในการเปิดตลาดบ้านหลังที่2
ทายาทนักการเมืองรุกตลาดพรีเมี่ยม
ขณะที่ย่านหัวหิน ยังมีบริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กรุ๊ป จำกัด นักลงทุนจากชลบุรี และกรุงเทพฯ เข้าไปลงทุนโครงการระดับพรีเมี่ยม ซึ่งเจ้าของโครงการมีประสบการณ์เชี่ยวชาญในแวดวงอสังหาริมทรัพย์มานานตั้งแต่สมัยรุ่นบิดา ที่พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วหลายแห่ง ทั้งในรูปแบบบ้านจัดสรร และศูนย์การค้า ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด
ในส่วนนี้ นอกจากจะสร้างความได้เปรียบให้กลุ่ม ไพร์มเนเจอร์แล้ว ยังมีจุดเด่นในแง่ที่มีสายสัมพันธ์ที่ดีในแวดวงการเมือง และนักธุรกิจระดับแนวหน้า ที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอีกด้วย เพราะบิดามีดีกรีถึงขั้นเป็นอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ที่สำคัญยังมีฐานทางการเงินที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีเครดิตที่จะขอสินเชื่อมาพัฒนาโครงการได้จำนวนมาก
สุนัทที เนื่องจำนงค์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไพร์ม เนเจอร์ กล่าวว่า การเข้ามาลงทุนโครงการดังกล่าว เพราะเห็นว่าตลาดบ้านพักตากอากาศย่านหัวหินไม่ชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจ แม้ว่าผู้บริโภคจะยังไม่ตัดสินใจซื้อ เนื่องจากรอดูบ้านตัวอย่าง แต่ทุกวันนี้ก็มีลูกค้าเยี่ยมชมโครงการ 400-500 รายตั้งแต่เปิดการขาย โดยเชื่อว่าหลังจากบ้านตัวอย่างแล้วเสร็จในปลายเดือน ธ.ค.นี้ ยอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะโครงการมีจุดขายที่แตกต่างจากคู่แข่ง
สุนัทที กล่าวอีกว่า การที่มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนโครงการบ้านพักตากอากาศในย่านหัวหินหลายราย ไม่ได้ทำให้การแข่งขันรุนแรงมากนัก แต่ในทางตรงกันข้าม กลับช่วยกันสร้างความคึกคักให้กับบริเวณดังกล่าวด้วย อีกทั้งโครงการแต่ละแห่งก็สร้างจุดขายที่ต่างกัน โดยโครงการไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า หัวหิน เน้นกลุ่มเป้าหมายต่างจากคู่แข่งในย่านเดียวกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเน้นกลุ่มเป้าหมายระดับไฮเอนด์ และมีรูปแบบสินค้าที่แตกต่างจากคู่แข่ง โดยโครงการมีพื้นที่มากที่สุด เมื่อเทียบกับคู่แข่งในละแวกเดียวกัน ส่วนคู่แข่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบีบวกขึ้นไป และแต่ละโครงการก็มีจุดขายเฉพาะตัว ไม่เหมือนกัน
|
|
|
|
|