Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์28 ตุลาคม 2548
เตือนนักเก็งกำไรฝันค้าง คาดอีก25ปีสุวรรณภูมิขยายตัว             
 


   
search resources

Real Estate




นักวิชาการฟันธง "นักการเมือง-เอกชน" แห่เก็งกำไรที่ดินรอบสุวรรณภูมิ ระวังกำเผือกร้อน เพราะต้องใช้เวลานานถึง 25 ปีกว่าจะเติบโตเป็นเมือง แนะรัฐออกกฏหมายเก็บภาษีที่ดินแก้เผ็ดนักเก็งกำไร

สมัย พลเอกชาติชาย ชุณหวัน ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยมีอัตราการขยายตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเป็นการเติบโตในลักษณะก้าวกระโดด โดยมีกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ เป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจประเภทอื่นๆ ดังจะเห็นได้จากราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้น การลงทุนใหม่ๆ ในโครงการจัดสรรที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับจำนวนผู้ประกอบธุรกิจจัดสรรที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน จนกล่าวได้ว่าธุรกิจที่ดินในยุคน้าชาติทำให้เกิดกลุ่มเศรษฐีใหม่ขึ้นเป็นจำนวนมาก

จากปัจจัยดังกล่าวประกอบกับนโยบายของภาครัฐในการพัฒนาประเทศ ส่งผลให้ราคาที่ดินปรับเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย เจ้าของที่ดินในฐานะผู้ขายสินค้าจึงมีผลกำไรจากการขายในอัตราค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับต้นทุนราคาที่ดินเดิม ซึ่งซื้อมาในราคาต่ำเพราะพื้นที่ยังไม่มีการพัฒนา ในขณะที่ตลาดอสังหาฯ ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเก็งกำไรของนักลงทุนที่หวังผลตอบแทนก้อนโตในอนาคต โดยไม่รู้ว่าการเก็งกำไรในธุรกิจอสังหาฯ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศล่มสลาย

แม้ว่าจะเคยผ่านประสบการณ์เลวร้ายจากภาวะฟองสบู่แตกมาแล้ว แต่ปัจจุบันการเก็งกำไรในธุรกิจอสังหาฯ ก็ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะการเก็งกำไรในอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินเปล่า ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักเล่นที่ดิน

มานพ พงศทัต อาจารย์ประจำภาควิชาเคหะการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า แม้ว่าที่ผ่านมาปัญหาการเก็งกำไรจะเคยสร้างความบอบช้ำให้กับธุรกิจอสังหาฯ มาแล้ว แต่ปัจจุบันปัญหาการเก็งกำไรก็ยังคงมีอยู่ และกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับธุรกิจอสังหาฯ ไปแล้ว โดยเฉพาะการเก็งกำไรที่ดินซึ่งส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของกลุ่มนักการเมือง และกลุ่มนักธุรกิจที่มีฐานะร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ

สำหรับทำเลที่นักเก็งกำไรนิยมเข้าไปลงทุนกว้านซื้อที่ดินในขณะนี้ คือ ทำเลเกาะติดแนวเครือข่ายระบบราง และโครงการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ศูนย์ราชการแห่งใหม่ รวมทั้งบริเวณพื้นที่โดยรอบของสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนในการแบ่งเขตการปกครอง แต่กลุ่มนักเก็งกำไรและนักพัฒนาที่ดินส่วนใหญ่ก็เข้าไปกว้านซื้อที่ดินในย่านดังกล่าวแล้ว

มานพ เชื่อว่าการเก็งกำไรในพื้นที่รอบสนามบินสุวรรณภูมิจะไม่สร้างปัญหาด้านราคาที่ดินในระยะเวลาอันใกล้ และคาดว่านักเก็งกำไรบางรายที่มีสายป่านการลงทุนไม่เพียงพอจะได้รับผลกระทบจากการกักตุนที่ดินไว้เก็งกำไร เพราะขณะนี้พื้นที่ดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจนด้านการจัดเขตการปกครอง และเชื่อว่ากว่าจะพัฒนาพื้นที่และสร้างความเจริญให้สุวรรณภูมิเจริญเติบโตเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานถึง 25 ปีเป็นอย่างน้อย โดยภาครัฐสามารถแก้ไขปัญหาการเก็งกำไรที่ดินได้ด้วยการออกกฏหมายจัดเก็บภาษีที่ดิน ให้เจ้าของที่ดินต้องจ่ายภาษีที่ดินให้กับกระทรวงการคลัง

"เมืองใหม่จะเกิดขึ้นได้จำเป็นต้องใช้เวลาในการพัฒนา สร้างและนำความเจริญเข้าสู่พื้นที่ เมืองใหม่ที่มีศักยภาพการขยายตัวทางเศรษฐกิจและประชากรจึงจะเกิดขึ้น เช่นเดียวกับย่านพุทธมณฑลที่ต้องใช้เวลานานถึง 40 ปีกว่าจะสร้างเมืองให้ขยายตัวและเจริญเติบโตได้ถึงขนาดนี้ ที่ฝันว่าสุวรรณภูมิจะเป็นเมืองที่โตเร็วเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะจากประสบการณ์ทั่วโลกชี้ชัดแล้วว่าการสร้างเมืองต้องใช้ระยะเวลานาน เช่นที่อังกฤษต้องใช้เวลาในการสร้างเมืองขึ้นมาใหม่นานถึง 20 ปีหลังจากถูกสงครามทำลาย"

ปัจจุบันพื้นที่โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิส่วนใหญ่ถูกขายเปลี่ยนมือจากเจ้าของเดิมไปเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะที่ดินแปลงใหญ่ซึ่งถูกกลุ่มนายทุนกว้านซื้อไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ เช่น กลุ่มกฤษดามหานครที่ถือครองที่ดินในย่านสุวรรณภูมิ 6,000-7,000 ไร่,กลุ่มจึงรุ่งเรืองกิจ 4,000-5,000 ไร่ ,กลุ่มมหากิจศิริ เจ้าของเนสกาแฟที่มีทิ่ดินผืนใหญ่ ,กลุ่มเนื่องจำนงค์ ไม่นับรวมกับที่ดินที่อยู่ในมือผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และกลุ่มเค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ ที่ถือครองทิ่ดินนับพันไร่

สำหรับที่ดินที่ยังพอมีเหลืออยู่ส่วนใหญ่เป็นที่ดินแปลงเล็ก และพื้นที่ทางด้านเหนือของสนามบิน(ฉลองกรุง,ลาดกระบัง) ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนในการกำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์พื้นที่ โดยในเบื้องต้นพื้นที่บริเวณดังกล่าวถูกกันให้เป็นพื้นที่รับน้ำ   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us