|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
“ยูนิลีเวอร์” ชี้เศรษฐกิจซบไม่กระทบตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค คนไทยสวนกระแสหันใช้แชมพูพรีเมี่ยมแทนตลาดแมส ระบุปีนี้แชมพูเพื่อสุขภาพโตพรวด อัด 50 ล้านบาท จัดกิจกรรม “Clear Confidence Zone” 120 แห่งทั่วประเทศ คาดคนแห่เข้างานกว่า 30,000 คน
นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแชมพูคลีนิค เคลียร์ เปิดเผยว่า ส่วนแบ่งตลาดโดยรวมรอบเดือนสิงหาคม-กันยายนปีนี้กลุ่มแชมพูและครีมนวดยูนิลีเวอร์เพิ่มเป็น 55.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมี 53.7% โดยแบ่งเป็น ซันซิล 27.5% ลดลงจากปีที่แล้ว 28.8% ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคสวิตช์มาใช้แชมพูระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าปัจจัยด้านเศรษฐกิจไม่มีผลกระทบต่อกลุ่มสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มากนัก ขณะที่โดฟมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจาก 8.5% เป็น 9% ในปีนี้ ส่วนคลีนิค เคลียร์มีส่วนแบ่งเพิ่มจาก16% เป็น 18.7%
“ปีนี้สินค้าเซกเมนต์พรีเมี่ยมมีอัตราการเติบโตที่ดีมาก ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ส่งผลให้ตลาดมีอัตราการเติบโตในเชิงมูลค่ามากกว่าจะเติบโตในเชิงปริมาณ อย่างไรก็ตามแม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่เชื่อว่าตลาดอุปโภคบริโภคในปีหน้าจะไม่ได้รับผลกระทบ”
สำหรับแนวโน้มตลาดแชมพูมูลค่า 6,500 ล้านบาทในปีนี้มีอัตราการเติบโต 2% ส่วนตลาดครีมนวดมูลค่า 2,000 ล้านบาทเติบโต10% ทั้งนี้เป็นเพราะอัตราการใช้ต่อครัวเรือนยังมีน้อยโดยในกรุงเทพ 80% ต่างจังหวัด 60% ส่งผลให้เป็นตลาดที่เติบโตมากกว่าแชมพูซึ่งมีอัตราการใช้ต่อครัวเรือนครบ 100% อย่างไรก็ตามในปีนี้แชมพูและครีมนวดเพื่อสุขภาพมูลค่าคิดเป็นหนึ่งในสามของตลาด เป็นเซกเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตมากกว่าแชมพูเพื่อความงามโดยโตถึง 5-7% เพราะปัจจุบันผู้ที่มีปัญหาเรื่องผมขาด-ร่วงมีมากกว่า 50% อีกทั้งยังเป็นเพราะผู้บริโภคสวิตช์แบรนด์กันมากขึ้น
จากแนวโน้มการเติบโตของแชมพูและครีมนวดเพื่อสุขภาพ อีกทั้งสภาพตลาดมีการแข่งขันรุนแรงอย่างต่อเนื่อง มีสินค้าใหม่ๆเปิดตัวลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง การเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณา และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย กลยุทธ์ราคา ทำให้การทำตลาดของคลีนิค เคลียร์ในช่วงปลายปีนี้ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผม และกระตุ้นส่วนแบ่งตลาดรวมทั้งการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้โดยโต 15% ในสิ้นปีนี้ จากตัวเลขส่วนแบ่งล่าสุดช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.คลีนิค เคลียร์มีราว 18.7% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมามี 16%
ล่าสุดบริษัทฯได้ทุ่มงบ 50 ล้านบาท จัดกิจกรรม”Clear Confidence Zone”ขึ้นมาเป็นปีที่ 2 โดยกิจกรรมในปีนี้ต่างจากปีที่แล้ว คือ นอกจากการให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการดูแลสุขภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ยังเพิ่มรูปแบบกิจกรรมขึ้นมาโดยให้คำปรึกษาในเรื่องบุคลิกภาพและการแต่งกาย โดยเชิญ3ผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ นายแพทย์รัฐภรณ์ อึ๊งภากรณ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผมและหนังศีรษะ จากสถาบันโรคผิวหนัง ดร.จิตรา ดุษฎีเมธา ผู้เชี่ยวชาญพิเศษบุคลิกภาพจากจอห์น โรเบิร์ต พาวเวอร์ส และนายเอกกมล อรรถกมล สไตล์ลิสต์จากนิตยสารแพรวมาให้คำแนะนำ
“ในปีที่แล้วคลีนิค เคลียร์จัดกิจกรรมในลักษณะเดียวกันภายใต้ชื่อเคลียร์ โซน ส่งผลให้ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังช่วยตอกย้ำโพซิชั่นนิ่งการเป็นผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหนังศีรษะและเส้นผมให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สำหรับการจัดกิจกรรมปีนี้คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วจาก 25,000 คนเป็นมากกว่า 30,000 คน”
สำหรับการกิจกรรม”Clear Confidence Zone”จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม -28 ธันวาคม 2548 โดยจะเริ่มจัดที่เมเจอร์ รัชโยธินเป็นแห่งแรก และในวันที่ 26-30 ตุลาคม หลังจากนั้นจะตระเวนไปจัดตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดรวม 120 แห่ง โดยปีนี้เน้นจัดกิจกรรมในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น เพื่อขยายอัตราการใช้ครีมนวดผมขจัดรังแคเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันอัตราการใช้ครีมนวดในต่างจังหวัดยังมีเพียง 60% อีกทั้งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาคลีนิค เคลียร์เพิ่งรีลอนช์ครีมนวดไป ส่งผลให้ส่วนแบ่งในรอบเดือนส.ค.-ก.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 5-7% ตามเป้าหมายที่วางไว้
|
|
|
|
|