|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"บิวท์ ทู บิวด์" อัดแคมเปญกระตุ้นยอดสร้างบ้านปลายปี48 มอบหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นระยะยาวและหุ้นระยะยาวปันผลของบลจ.กสิกรไทย ในมูลค่า 5% ของราคาบ้านแบบมาตรฐาน คาดดันยอดขาย 90 ล้านบาท ด้าน"บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์" หลังเปิดตัวมาแค่ 6 เดือน มียอดขายถึง 90 ล้านบาท ปี 49 หวังยอดขาย 200 ล้านบาท
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บิวท์ ทู บิวด์ จำกัด เปิดเผยถึงแผนการตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2548 ว่า ได้เตรียมจัดรายการส่งเสริมการตลาดให้แก่ลูกค้า โดยจะส่งมอบหน่วยลงทุนกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนเปิดรวงข้าวหุ้นระยะยาวและหุ้นระยะยาวปันผล (LTF) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด( KASSET) ให้แก่ลูกค้าที่จองปลูกสร้างบ้านกับบริษัทฯ ในมูลค่า 5% ของราคาบ้านแบบมาตรฐาน ซึ่งเฉลี่ยแล้วราคาสร้างบ้านจะอยู่ที่ประมาณ 5 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าที่มอบให้แก่ลูกค้าถือได้ว่ามีมูลค่าสูงสุดตั้งแต่ที่บริษัทฯเคยจัดรายการส่งเสริมการตลาดมา
ทั้งนี้ ลูกค้าจะได้รับประโยชน์ถึง 3 ทาง คือ ได้รับหน่วยลงทุนจากบลจ.กสิกรไทย ซึ่งบริษัทฯจะเป็นผู้ดำเนินการติดต่อทั้งหมดและส่งมอบหน่วยลงทุนให้แก่ลูกค้า โดยได้กำหนดเงื่อนไขลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์เมื่อมาวางเงินจองกับบริษัทภายในงานบ้านและส่วนแฟร์ 2005 ที่ไบเทค บางนา ระหว่างวันที่ 1-6 พ.ย.นี้ และจะต้องวางเงินทำสัญญาภายในสิ้นปี 48 ในสัดส่วน 20% ของมูลค่าบ้านแบบมาตรฐาน ซึ่งถือเป็นกระตุ้นยอดขายของบริษัทได้เร็วนี้
ในส่วนของเงินทำสัญญาดังกล่าว บริษัทจะนำเงินไปซื้อหน่วยลงทุนตามกับบลจ.กสิกรไทยตามราคาตลาด
ส่วนที่สอง นอกเหนือจากเป็นการส่งเสริมการออมให้แก่ลูกค้าแล้ว ยังสามารถนำมูลค่าที่ลูกค้าลงทุนในหน่วยลงทุน ไปลดหย่อนภาษีเงินได้สูงสุดถึง 37% ของมูลค่าเงินลงทุนแต่ละกองทุนฯหรือไม่เกินกองทุนฯละ 3 แสนบาท โดยทั้งสองกองทุนฯสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้รวม 6 แสนบาท และสุดท้าย ลูกค้ายังได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยและเงินปันผลจากการบริหารกองทุนฯอีกต่อหนึ่ง โดยบริษัทฯคาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะมีกระตุ้นยอดขายให้แก่บริษัท 90 ล้านบาท ราคาเฉลี่ย 4-5 ล้านบาทต่อหลัง
"แคมเปญดังกล่าวลูกค้าได้รับประโยชน์เต็มๆ ขณะที่บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง โดยส่วนที่ลดให้ลูกค้า 5% นั้น ก็เหมือนเป็นการกันกำไรบางส่วนไปมอบสิทธิประโยชน์ให้แก่ลูกค้า หากลูกค้ามาจองสั่งสร้างบ้านหลังหมดรายการพิเศษแล้ว ก็ยังได้รับสิทธิพิเศษ แต่จะเป็นในรูปของการมอบส่วนลด 3% หรือประมาณ 1.5 แสนบาทต่อหลังเท่านั้น" นายสุธีกล่าว
อย่างไรก็ตามในส่วนของยอดขายนั้น ช่วง 9 เดือนแรกยอดขายจากการสร้างบ้านได้แล้ว 180 ล้านบาทต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ 20% ซึ่งจากนี้ไปถึงสิ้นปีจะพยายามสร้างยอดขายเพิ่มอีก 150 ล้านบาท ขณะที่ในส่วนของยอดขายจากการสร้างบ้านให้แก่โครงการจัดสรรยังได้ตามเป้าที่วางไว้ ทั้งนี้ในปี 2549 บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวม 400 ล้านบาท ส่วนเรื่องของการล้างขาดทุนสะสมนั้น คาดว่าภายในปี 49 จะดำเนินการให้แล้วเสร็จแต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ และภายในปี 50 บริษัทจะเริ่มมีกำไรอย่างชัดเจน
สำหรับความคืบหน้าของบริษัท บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์ จำกัด ซึ่งนายสุธี ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า หลังจากเปิดให้บริการประมาณพ.ค.ถึงปัจจุบัน สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 60 หลัง มูลค่า 90 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะมีที่ดินเป็นของตนเองและต้องการสร้างบ้านในระดับราคาไม่แพง ซึ่งบริษัทได้เสนอสินค้าในระดับราคา 7 แสนบาทถึง 2 ล้านบาท ราคาต่อตร.ม.ตั้งแต่ 9,000 บาทถึง 11,000 บาท โดยเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ต่อครอบครัวประมาณ 30,000 บาท ทั้งนี้ ในปี49 ได้ตั้งเป้ายอดขายของบริษัท บางกอกเฮ้าส์ฯไว้ที่ 200 ล้านบาท
|
|
|
|
|