"ศุภาลัย" ฟุ้งยอดปี 49 ทะลุ 10,000 ล้านบาท จาก 20 โครงการ ส่งแบรนด์ซิตี้ โฮมลุยตลาด ล่าสุดเปิดคอนโดย่านสุขุมวิท คาดปิดขายเฟสแรกในวันเปิดจอง ปี 49 เปิดใหม่ 6 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาทพร้อมชิมลางตลาดภูเก็ตทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดฯ ราคาเริ่มต้น 7 แสนบาท
นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2549 บริษัทประมาณการว่าจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวจะมาจากการขายสินค้าใน 20 โครงการ ที่เปิดขายอยู่ทั้งโครงการเก่าและโครงการใหม่รวมถึงโครงการที่จะมีการเปิดตัวในปี 2549 จำนวน 5-6 โครงการด้วย ปัจจุบันศุภาลัยมีสต๊อกบ้านรอการขายที่อยู่ระหว่างพัฒนาและพัฒนาแล้วมูลค่าประมาณ 13,000 ล้านบาท หากรวมที่ดินสะสมด้วยจะมีมูลค่า 19,000 ล้านบาท
สำหรับโครงการที่จะมีการพัฒนาในปี 2549 จำนวน 5-6 โครงการมูลค่ารวม 4,000 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว ได้แก่ โครงการศุภาลัย สุวรรรภูมิ อยู่เรียบถนนอ่อนนุช, โครงการศุภาลัย ศรีนครินทร์-กิ่งแก้ว, โครงการศุภาลัย บางใหญ่ ส่วนอีก 2 โครงการ อยู่ระหว่างการพิจารณาก่อสร้าง
ส่วนโครงการคอนโดมิเนียมรอพัฒนาเพิ่มอีก 1-2 โครงการ โดยโครงการแรกจะเป็นการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ในแบรนด์ ซิติ้โฮม ในจังหวัดภูเก็ต ขนาด 10 ไร่ ซึ่งในโครงการนี้ถือว่าเป็นการทดสอบตลาดภูเก็ต โดยจะมีรูแบบพัฒนา เป็นโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ อยู่ในโครงการเดี่ยวกัน จำนวน 300 ยูนิต โดยคอนโดมิเนียมจะขายในระดับราคายูนิตละ 7 แสนบาท และอีกโครงการจะเป็นแบรนด์ ซิตี้โฮม ในเขตกรุงเทพพัฒนาในคอนเซ็ปต์เดิม คือยึดแนวรถไฟฟ้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างหาที่ดิน
ในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2548 บริษัทมีแผนเปิดโครงการเพิ่ม 2 โครงการประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว ศุภาลัย รามอินทรา มูลค่าโครงการ 600 ล้าน และโครงการซิตี้โฮม สุขุมวิท 101 เนื้อที่ 7 ไร่ จำนวน 956 ยูนิต มูลค่าขาย 1,350 ล้านบาท จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 5-6 พฤศจิกายนนี้ โดยการดังกล่าวจะแบ่งเป็น 2 เฟส ในเฟสแรก จะพัฒนาเป็นอาคาร 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร ราคาขายเริ่มต้น 9 แสนบาทขึ้นไป ส่วนเฟสที่ 2 เป็นอาคารชุดพักอาศัย สูง 25 ชั้น 1 อาคาร ราคาขายสูงกว่าเฟสแรก 10% โดยมีราคาขายสูงสุด 4 ล้านบาท
ปัจจุบันมียอดจองซื้อแล้ว 2 อาคารๆ ละ 75 ยูนิต โดยยอดขายดังกล่าวเป็นการจองซื้อจากลูกค้าเก่า บาท โดยในส่วนของลูกค้าเก่านี้บริษัทได้มีการทำ CRM ในฐานลูกค้า 10,000 ราย ดังนั้นบริษัทจึงมีความมั่นใจว่าจากการตอบรับที่ดีของลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่เข้ามาแสดงความต้องการในปัจจุบัน จะทำให้สามารถปิดการขายในเฟสแรกภายในวันเปิดขายอย่างเป็นทางการส่วนเฟสที่สอง บริษัทจะพยามปิดการขายให้ได้ในวันปิดจองเช่นเดี่ยวกัน
"การเข้ามาพัฒนาคอนโดมิเนียมติดถนนสุขุมวิท และขายในราคาตร.ม.ละ 31,000 บาท จะทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมในย่านนี้มีการยกระดับมาตรฐานมากขึ้น โดยผู้ประกอบการที่มีการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่ส่วนใหญ่ จะเลือกพัฒนาโครงการ ในพื้นที่ที่อยู่ในซอย หรือถนนสายรอง ในขณะที่ราคาขายต่อตร.ม.ไม่แตกต่างกันมากนัก" นายประทีปกล่าว
ทั้งนี้จากเดิมที่บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการในช่วงท้ายปีประมาณ 2-3 โครงการ โดนสาเหตุการเลื่อนเปิดโครงการ เนื่องจากปัจจัยลบเข้ามากระทบตลาด อาทิ อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ปัญหาการก่อการร้ายในภาคใต้ และล่าสุดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข่หวัดนก ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อออกไป สำหรับแผนการพัฒนาโครงการในปีหน้า จะมีสัดส่วนการพัฒนาโครงการประเภทอาคารชุดและบ้านจัดสรรในสัดส่วน 40 : 60
นายประทีป กล่าวถึงภาพรวมตลาดปี 2549 ว่า ตลาดอสังหาฯมีแนวโน้มในด้านลบ เนื่องจากต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น จากอัตราเงินเฟ้อและค่าแรงที่มีการปรับตัว ทำให้ค่าก่อสร้างมีราคาเพิ่มจากปี 2548 รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเกิดความลังเลในการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคบางส่วนมีกำลังซื้อที่ลดลง จากปัจจัยดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ โดยคาดว่าจะทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จะหันมานิยมซื้อคอนโดมิเนียมมากกว่าบ้านเดี่ยว เนื่องจากคำนึงถึงต้นทุนของการเดินทาง ที่สืบเนื่องจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน หากซื้อบ้านเดี่ยวจะอยู่ไกลแหล่งงานออกไป ในขณะที่โครงการคอนโดมิเนียมยังเกาะอยู่กับระบบรางในย่านกลางเมือง
ทั้งนี้ คาดว่าในปีหน้าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ จะมีการปรับลดราคาการก่อสร้างที่อยู่ให้ลดลง นอกจากนี้ตลาดในกลุ่มของผู้ประกอบการรายใหม่และรายย่อยที่อยู่ในตลาดจะทำให้ขาดความจูงใจในการเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้ เนื่องจากธนาคารเข้มงวดในการปล่อยกู้
ส่วนดีมานด์ในตลาดเชื่อว่าจะยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับบทวิเคราะห์และการคาดการณ์ เนื่องจากที่อยู่อาศัยยังมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต แม้ว่ากำลังซื้อจะลดลง แต่มั่นใจว่าผู้บริโภคในตลาดจะเลือกสินค้าตรงกับความต้องการของตนเองและเหมาะสมกับกำลังซื้อ
|