ภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่บนผนังห้องรับแขก ไม่เพียงแต่จะบอกเล่า เรื่องราวความเป็นไปของมุมเล็กๆ
ภายในชุมชนของมหานครอย่าง Saigon เท่านั้น หากสำหรับ ผู้เป็นเจ้าของบ้านแล้ว
นี่อาจเป็น nostalgia ที่ เขามีต่อแผ่นดินถิ่นเกิด ซึ่งเขาจำต้องจากมา นานกว่า
30 ปี
เป็นภาพที่ซื้อมาจาก Saigon เมื่อครั้งไปพักผ่อนกับครอบครัวเมื่อไม่นานมานี้
ซึ่งหากไม่ได้มารับตำแหน่งในเมืองไทย ก็อาจไม่ได้เดินทางไป" Jack Truong
กรรมการผู้จัดการ 3M ประเทศไทย ในฐานะเจ้าของบ้าน กล่าวหลังจากเชื้อเชิญ
"ผู้จัดการ" ให้เดินผ่านโถงทางเดินเข้าสู่บริเวณห้องรับแขก
แม้ในวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่จะเรียกขานชื่อเมืองแห่งนี้ว่า Ho Chi Minh City
แต่สำหรับ Jack Truong แล้วเขาพึงใจที่จะเรียกขานบ้านเกิดเมืองนอนของเขาว่า
Saigon ทุกครั้งที่เอ่ยถึง
Jack Truong เกิดและเติบโตอยู่ใน Saigon ได้เพียง 6 ปี กระทั่งสถานการณ์การสู้รบเพื่อการปลดปล่อยภายในประเทศเวียดนามเริ่มวิกฤติ
ครอบครัวของเขาทั้งหมดจึงได้อพยพหนีภัย สงครามไปอยู่ที่เมือง Seattle มลรัฐ
Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เมื่อปี 1969
แน่นอนว่าการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอเมริกันอาจก่อให้เกิดความแปลกแยกจากสภาพแวดล้อมและผู้คนใหม่ไม่น้อย
แต่สำหรับ Jack Truong ในวัย 6 ขวบปี ดูเหมือนเขาจะโชคดีที่ไม่ต้องเผชิญหรือรับรู้แรงกดดันจากสิ่งเหล่านี้มากนัก
ในด้านหนึ่งอาจเป็นเพราะเขาเปิดใจกว้างที่จะเรียนรู้และหลอมรวมตัวตนของเขาเข้าเก็บรับวัฒนธรรมและความเป็นไป
ของสังคมรอบข้างได้อย่างลงตัว ขณะเดียวกันแรงขับดันภายในย่อมเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความคิดคำนึงของเขาไม่น้อย
หลังจากสำเร็จการศึกษาในระดับ high school เขาต้อง เดินทางไกลอีกครั้ง
มุ่งสู่ New York เพื่อศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ก่อนที่จะสำเร็จปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมเคมี
(Chemical Engineering) จาก Rensselaer Polytechnic Institute สถาบันอุดมศึกษาที่เปิดสอนวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เก่าแก่
และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกา (ก่อตั้งขึ้นในปี 1824)
ในวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก "Ellipsometric and Interferometric Studies
of Thin Liquid Films Wetting on Isothermal and Nonisothermal Surfaces."
ซึ่งเขาได้เสนอต่อมหาวิทยาลัยเมื่อเดือนกันยายน 1987 ขณะที่เขาอายุได้ 24
ปี นั้น นอกจากจะเป็นภาพสะท้อนความสามารถในเชิงวิชาการ แล้ว ในส่วนของกิตติกรรมประกาศ
(Acknowledgement) Jack Truong ยังได้ระบุข้อความกล่าวถึงครอบครัวของเขาไว้อย่างอบอุ่นกินใจ
หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก Jack Truong เข้าร่วมงานกับ IBM และ
Polaroid เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะ เข้าทำงานใน 3M มาตั้งแต่เมื่อปี 1989
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญงาน วิจัยของ 3M ประจำสำนักงานใหญ่ในเมือง St.Paul รัฐ
Minnesota สหรัฐอเมริกา
"การเรียนในระบบมหาวิทยาลัย เป็นเพียงการเปิดโลกทัศน์ให้เราได้เรียนรู้ว่าจะคิดได้อย่างไร
(learn how to think) แต่เมื่อก้าวเข้าสู่การทำงาน สิ่งที่คุณต้องมีและต้องทำ
คือการคิด เชิงวิพากษ์ (critical thinking) เพื่อนำไปสู่การวิเคราะห์ (analysis)
และการสังเคราะห์ (synthesis) ซึ่งทั้งหมดคือกระบวนการที่นำไป สู่ความคิดใหม่ๆ
(new way of thinking) และการสร้างนวัตกรรม ในที่สุด" Jack Truong กล่าวกับ
"ผู้จัดการ" ขณะที่ Gregory ลูกชายคนเล็กในช่วงวัยกำลังซน ปีนป่ายตักและไหล่ของผู้เป็นพ่อ
โดยปราศจากความขัดเขิน
แม้ว่าตำแหน่งหน้าที่ของเขาจะได้รับการระบุว่าเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย
แต่สำหรับ 3M ที่มีแนวทางในการบริหารจัดการซึ่งงอกเงยมาจากหลักปรัชญาของ
William L. McKnight แล้ว ตำแหน่งเช่นว่านี้มิได้จำกัดพื้นที่ของบุคลากรให้ต้องขลุกหรือหมกตัวอยู่แต่เฉพาะภายในห้องปฏิบัติการเท่านั้น
หากแต่ตำแหน่งที่ว่านี้ได้เปิดโอกาสให้ Jack Truong ได้รวบรวม ข้อมูลภาคสนามเพื่อให้เข้าใจความต้องการของลูกค้าแต่ละราย
ก่อนที่จะพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของ 3M ในอนาคต
วิธีการทำงานในลักษณะเช่นนี้นี่เองที่ทำให้นักวิศวกรรมเคมีอย่าง Jack Truong
ไม่จำเป็นต้องไปลงทะเบียนเรียนวิชาว่าด้วยการบริหารธุรกิจ หรือวิชาการตลาดให้เปล่าเปลืองเวลา
เพราะเขาสามารถเก็บเกี่ยว และเข้าใจกลไกของตลาดได้เป็นอย่างดี จากประสบการณ์ที่เขาเป็นเจ้าของโดยตรง
"สิ่งที่ได้รับขณะรวบรวมข้อมูลและความต้อง การของลูกค้าแต่ละราย ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาพูดหรอก
สำหรับพวกเราที่ 3M สิ่งที่พวกเราได้รับการปลูกฝังอยู่ที่ ทำอย่างไรที่จะได้ยินได้ฟังในสิ่งที่ผู้คนไม่ได้พูด
เพราะเราเชื่อว่า สิ่งที่พวกเขาไม่ได้พูดบางครั้งกลับเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการมากที่สุด"
Jack Truong เล่าย้อนประสบการณ์ครั้งเก่า ซึ่งนับเนื่องถึงวันนี้ วิธีการดังกล่าวมิได้จำกัดอยู่เฉพาะเรื่องของการวิจัย
หรือการสำรวจตลาดเท่านั้น หากเขาเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้ได้ซึมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวันของเขาด้วย
ความคิดความเชื่อของ Jack Truong ที่สะท้อนออกมามิได้เป็นเพียงคำกล่าวอ้างที่โก้เก๋ในลักษณะของการ
"เทศนาในสิ่งที่ตัวไม่ได้เชื่อ" ซึ่งไม่มีสิ่งใดให้จับต้องได้
หากแต่ในความ เป็นจริงตลอดระยะเวลา 12 ปี ที่เขาได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งใน 3M
ย่อมเป็นข้อพิสูจน์สิ่งที่เขาได้แสดงไว้อย่างชัดเจน
Jack Truong ก้าวพ้นออกมาจากห้องปฏิบัติการวิจัยเพื่อ ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายต่างประเทศ
ดูแลตลาดผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ในครัวเรือน (Home Care and Commercial Care
Division) เป็นเวลานานกว่า 6 ปี และเป็นผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจตลาดภาคพื้นยุโรป
แผนกผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน, ผู้อำนวยการโครงการผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน
3M ยุโรป ประจำฝรั่งเศส
และดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการพัฒนาธุรกิจโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน
รับผิดชอบตลาดภาคพื้นยุโรป ตะวันออกกลางและอเมริกาเหนือ ประจำอยู่ในกรุงปารีส
ประเทศฝรั่งเศส ก่อนที่จะเดินทางมาเป็นกรรมการผู้จัดการ 3M ประเทศไทย
"ตลาดยุโรปเป็นตลาดที่ค่อนข้างจะ mature แตกต่างจาก ตลาดในย่านเอเชียที่มีความวูบไหว
และเต็มไปด้วยพลวัตร ซึ่ง หากเทียบกันแล้ว ก็อาจกล่าวได้ว่าตลาดเอเชียมีลักษณะที่
more embryonic ที่ยังมีโอกาสเติบโตไปได้อีกมาก" เป็นคำเปรียบถึง สภาพทางการตลาดที่ยังสะท้อนความเป็นนักวิทยาศาสตร์ของ
Jack Truong ได้เป็นอย่างดี
ในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่มากด้วยความสามารถ Jack Truong ได้คิดค้นนวัตกรรมจนเป็นผู้ถือสิทธิบัตรที่ได้รับการจดทะเบียนรับรองในผลิตภัณฑ์รวม
9 ประเภทจากผลงานการคิดค้นในช่วงระหว่างปี 1996-2002 ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสื่อบันทึกข้อมูลแม่เหล็กที่มีความจุสูง
(High Density Magnetic Recording Media) ซึ่งเป็นการคิดค้นเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตอนุภาคแม่เหล็กตลอดจนโพลีเมอร์ที่มีขนาดเล็ก
มาก เพื่อการบันทึกข้อมูลความจุสูง
หรือผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเทคโนโลยีเส้นใย (Nonwovens Media) ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยี
กระบวนการ รวมทั้งวัสดุที่ใช้ ผลิต ผลิตภัณฑ์เพื่อการเช็ดทำความสะอาด ให้มีคุณสมบัติในการดูดซับและมีความทนทาน
รวมถึงกลุ่มเทคโนโลยีการตรวจวัดค่าสารเคมี (Chemical Monitoring) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้วัดสัดส่วนร้อยละของสารประกอบในน้ำมันเสื่อมคุณภาพ
ที่สามารถย่นย่อเวลาให้สั้นลงเป็นเพียงไม่กี่นาที จากเดิมที่ต้องใช้เวลาเป็นวันๆ
แน่นอน Jack Truong เป็นนักวิทยาศาสตร์ แต่เขามิใช่นักวิทยาศาสตร์ในลักษณะที่มุ่งสนใจแต่เฉพาะเรื่องของมวลสาร
และการแทนค่าสมการในสูตรการคำนวณ เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่เป็นนักบริหารที่พร้อมให้คุณค่าความสำคัญต่อ
human touch ซึ่งเป็นพื้นฐานของการนำพาหน่วยงานและองค์กรให้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
ประสบการณ์ที่ Jack Truong ได้รับจากการบริหารองค์กรธุรกิจและผู้คนในหลากหลายหน้าที่
ทำให้เขาเป็นผู้หนึ่งที่เชื่อว่าทีมงานที่จะสามารถปฏิบัติงานให้บังเกิดผลสำเร็จในระดับสูงนั้น
เกิดขึ้นจากการผสมผสานผู้คนจากภูมิหลังประสบ การณ์ และความรอบรู้ที่แตกต่างกันเข้ามาเป็นทีมงาน
วัฒนธรรมขององค์กรอย่าง 3M ซึ่งเน้นให้ผู้คนกล้าที่ จะคิดและแสดงออกย่อมมีส่วนอย่างสำคัญต่อวิธีคิดและวัตร
ปฏิบัตรของ Jack Truong แต่นั่นย่อมไม่ใช่ปัจจัยทั้งหมดที่หล่อหลอมให้เกิดความเป็นตัวตนของ
Jack Truong หากแต่เขาเองก็มีมิติทางความคิดที่ได้ร่วมเรียนรู้กับครอบครัวอย่างไม่สิ้นสุดเช่นกัน
"ความไร้เดียงสาของเด็กๆ ทำให้พวกเขาไม่เคยกลัวต่ออันตรายใดๆ จริงอยู่บางครั้งพวกเขาอยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ
แต่หลายครั้งความกล้าไม่กลัวของพวกเขา คือพลังสร้างสรรค์ที่บริสุทธิ์ที่น่าสนใจยิ่ง"
เป็นทัศนะที่ Jack Truong สะท้อนออกมาขณะพาชมสวนในบริเวณบ้าน โดยมี Nicholas
ลูกชายคนที่สองอุ้มไก่แจ้ที่เลี้ยงไว้มาอวดโฉม
เขายกตัวอย่างกระบวนการเรียนรู้ที่เขาได้เก็บรับจากการเฝ้ามองลูกสาวลูกชายรวม
3 คน เติบโตขึ้นในแต่ละช่วงวัย ด้วยสีหน้าและแววตาอบอุ่น เปี่ยมความสุข ก่อนที่จะกล่าวด้วยอารมณ์สนุกว่า
การคิดค้นนวัตกรรม และสิ่งประดิษฐ์ของเขาบางชิ้นเป็นผลทางความคิดที่เกิดขึ้นจากการเฝ้ามองและสังเกตพฤติกรรมของลูกๆ
ของเขานั่นเอง
กระนั้นก็ดี ท่ามกลางบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้ง
3M ในระดับนานาชาติ และในโอกาสที่ 3M เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยเป็น
ปีที่ 35 พลังแห่งการเรียนรู้อันหลากหลายและไม่สิ้นสุดของ Jack Truong คงต้องผ่านการพิสูจน์ให้เห็นประจักษ์อีกครั้ง
สำหรับในฐานะกรรมการผู้จัดการแล้ว เป้าหมายของเขา คือการนำพา 3M ประเทศไทย
ให้สามารถเติบโตในเชิงของ ขนาดขึ้นไปอีกเท่าตัวภายในช่วงระยะเวลา 3-4 ปี
ที่เขารับผิดชอบ อยู่นี้
เป็นเป้าหมายที่ท้าทายอย่างยิ่ง แต่สำหรับ Jack Truong นี่ย่อมมิใช่ปัญหาหรืออุปสรรคที่ใหญ่โตเกินเลยจากความ
สามารถ
เพราะเขา เชื่อมั่นเสมอว่า "everyday is a challenge"