Deloitte Touche Tohmatsu (DTT) หรือ Deloitte & Touche (เป็นชื่อที่ใช้ในสหรัฐฯ)
ซึ่งมีฐานประกอบการอยู่ใน New York มีสำนักงานราว 700 แห่งในกว่า 140 ประเทศทั่วโลก
ให้บริการทั้งด้านการบัญชีและที่ปรึกษาดังนี้ การสอบบัญชี การทำบัญชี การวางแผนยุทธศาสตร์
เทคโน โลยีสารสนเทศ การจัดการการเงิน และการควบคุมประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังให้บริการด้านการจัดหางานและที่ปรึกษาภาษีอากร
รวมถึงการให้บริการธุรกิจแก่รัฐบาลและสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ดำเนินการในตลาดเกิดใหม่
(emerging markets)
ประวัติความเป็นมาของ DTT เริ่มต้นในปี 1845 เมื่อ William Deloitte เปิดสำนักงานบัญชีใน
London การเติบโตของบริษัทจดทะเบียนและตลาดหุ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ส่งผลให้เกิดความต้องการมาตรฐานการจัดทำงบการเงินและทำให้ธุรกิจสอบบัญชีเฟื่องฟู
Deloitte ย่อมไม่พลาดโอกาสนี้และในปี 1849 เขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีอิสระของ
Great Western Railway
สำนักงานแห่งแรกในสหรัฐฯ ของ Deloitte เปิดดำเนินงานในปี 1890 ในกรุง New
York City และขยายสาขาไปทั่วสหรัฐฯ โดยใช้เวลา 40 ปีต่อมา ปี 1952 Deloitte
จับมือกับ Haskins & Sells ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็น รถคาดิลแลค ไม่ใช่รถฟอร์ด
ในธุรกิจบัญชีให้ได้ สำนักงานบัญชีของ Deloitte ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น Deloitte
Haskins & Sells ในปี 1978 จึงเริ่มขจัดความอนุรักษนิยมของตน ในขณะที่การแข่งขันเริ่มร้อนแรงขึ้นทุกขณะ
Deloitte เป็นสำนักงานบัญชีชั้นนำแห่งแรกที่เริ่มใช้ โฆษณาโจมตีคู่แข่งแบบตรงๆ
(aggressive)
มีความพยายามจะรวมกิจการกับ Price Waterhouse ในปี 1984 แต่ไม่สำเร็จเนื่องจากผู้ร่วมถือหุ้นฝ่ายอังกฤษใน
Pricewaterhouse คัดค้าน อย่างไรก็ตาม 5 ปีต่อมาในปี 1989 Deloitte Haskins
& Sells ก็รวมกิจการได้สำเร็จกับ Touche Ross (ก่อตั้ง 1899) กลายเป็น
Deloitte & Touche ส่วน Tohmatsu ได้มาจากชื่อของสำนักงานบัญชีที่ญี่ปุ่นในเครือของ
Touche Ross การรวมกิจการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวมความแข็งแกร่งของ
Deloitte ที่มีอยู่ในตลาดสหรัฐฯ และยุโรป เข้ากับความแข็งแกร่งในตลาด Asia
ของ Touche Ross หลังรวมกิจการ Michael Cook ผู้บริหาร Deloitte ยังคงดูแลการดำเนินกิจการในสหรัฐฯ
ต่อไป ส่วน Edward Kangas ผู้บริหาร Touche ดูแลการดำเนินกิจการในตลาดระหว่างประเทศ
สำนักงานในเครือของ Deloitte หลายแห่งโดยเฉพาะในอังกฤษคัดค้านการรวมกิจการ
ครั้งนี้ เมื่อไม่สำเร็จจึงถอนตัวออกไปเป็นสมาชิกสำนักงาน บัญชีอื่นๆ ที่เป็นคู่แข่ง
เมื่อกฎหมายกำหนดให้ผู้สอบบัญชีต้องรับผิดชอบในความถูกต้องเป็นจริงของรายงานงบการเงินของบริษัท
ที่เป็นลูกค้าของตนมากขึ้น ทำให้สำนักงานบัญชีทั้งหลายต้องถูกฟ้องร้องมากขึ้นตามไปด้วย
DTT ก็ไม่ยกเว้น ในช่วงทศวรรษ 1990 DTT ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหลายคดีจากการที่ไปเกี่ยวข้องกับ
Michael Milken ราชา junk bond การล่มสลายของสถาบันการเงินประเภท savings
& loans หลายแห่ง และการล้มละลายของบริษัทที่เป็นลูกค้าของตน
อย่างไรก็ตาม ในปี 1995 SEC หรือ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ได้เลือก Michael Sutton
ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการสอบบัญชีของ DTT ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้า นักบัญชีของ
SEC ในปีเดียวกัน DTT ก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษา Deloitte & Touche Consulting
เพื่อรวมกิจการที่ปรึกษาในสหรัฐฯ และอังกฤษให้เข้มแข็งขึ้น และต่อมาได้เพิ่มธุรกิจที่ปรึกษาใน
Asia รวมเข้าไปด้วย
ปีถัดมา DTT ซื้อ PHH Fantus ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้าน corporate relocation
ชั้นนำ และจับมือกับ Thurston Group (วาณิชธนกิจใน Chicago) ในปี 1997 ก่อตั้ง
NetDox ระบบจัดส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ทั้งเอกสารทางกฎหมาย ทางการเงินและประกันภัย
ผ่าน Internet ในปีเดียวกันนี้เอง ซึ่งเป็นช่วงที่สำนักงานบัญชีทั้งหลายเริ่มพยายามรวมกิจการกันรอบใหม่
เกิดข่าวลือว่า สาเหตุที่แผนการรวม DTT กับ Ernst & Young ต้องมีอันพับไป
เพราะทั้งสองไม่สามารถตกลงกันในประเด็นความเป็นเจ้าของได้ แต่ DTT ปฏิเสธว่าไม่เคยคิดรวมกิจการกับใครทั้งสิ้น
และยืนยันการปฏิเสธของตนด้วยการออกแคมเปญโฆษณาที่พุ่งเป้าโจมตีคู่แข่งโดยตรงทันที
ปี 1999 DTT ขาย Resources Connection ธุรกิจจัดหาบุคลากรด้านบัญชีของตนให้แก่
กลุ่มผู้จัดการของตนกับ Evercore Partners โดยอ้างว่าสาเหตุที่ต้องขายเป็นเพราะเป็นธุรกิจที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
ขัดแย้งกับธุรกิจสอบบัญชีอันเป็นธุรกิจหลักของ DTT ในปีนั้น Kangas (ขณะนี้ดำรงตำแหน่งประธานกิตติมศักดิ์)
ได้ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO มี James Copeland สืบทอดตำแหน่งแทน ปีเดียวกันนี้
Deloitte Consulting ตัดสินใจขายธุรกิจให้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของตนให้แก่
CGI Group
ปี 2001 SEC บังคับให้ DTT แถลงงบการเงินของ Pre-Paid Legal Services ใหม่
เนื่องจากการแถลงครั้งแรกให้ข้อมูลการเงินที่ไม่ตรงตามความจริง แต่ DTT แสดงความไม่เห็นด้วยกับผลการสืบสวนของ
SEC อย่างเปิดเผยซึ่งเป็นท่าทีที่ไม่พบบ่อยนัก
ในปีนี้ DTT เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่รับช่วงธุรกิจใหม่และพนักงานมือดีที่แพแตกมาจาก
Andersen อดีตสำนักงานบัญชีระดับ Big Five ที่เพิ่งล่มสลายในปีนี้พร้อมกับ
Enron ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของสหรัฐฯ ที่ใช้บริการสอบบัญชีของ Andersen การล่มสลายของ
Enron ที่ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อ Andersen ส่งผลให้สำนักงานบัญชีทุกแห่งถูกสังคมจับตามองอย่างหวาดระแวง
และเมื่อบวกกับกระแสกดดันให้สำนักงานบัญชีแยกธุรกิจสอบบัญชีกับธุรกิจที่ปรึกษาออกจากกัน
ทำให้ DTT ต้องประกาศในปีนี้ว่า จะดำเนินการแยกธุรกิจ บัญชีกับที่ปรึกษาของตนออกจากกัน
และจะเปลี่ยนชื่อบริษัทที่ปรึกษา Deloitte Consulting เป็น Braxton ในปีนี้
Copeland ซึ่งดำรงตำแหน่ง CEO ของ DTT ทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก ยังประกาศว่าจะลงจากตำแหน่ง
หลังจากหมดวาระในเดือนพฤษภาคม 2003