Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน26 ตุลาคม 2548
ทีดับบลิวแซดเคาะ3.70-4.10บ.             
 


   
www resources

โฮมเพจ หลักทรัพย์ ไซรัส, บมจ.

   
search resources

หลักทรัพย์ ไซรัส, บล.
Stock Exchange
ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น, บมจ.




หุ้นทีดับบลิวแซดเคาะช่วงราคา 3.70-4.10 บาท เตรียมสรุปราคาที่แน่นอนวันที่ 2 พ.ย. พร้อมเสนอขาย 7-9 พ.ย.นี้ เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 18 พ.ย.นี้ ตั้งเป้าคุมหนี้สินต่อทุนไม่ให้เกิน 2 เท่า

นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินหุ้นบริษัททีดับบลิวแซด คอร์ปอ-เรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กำหนดช่วงราคาหุ้นที่จะเสนอขายในระดับ 3.70-4.10 บาท โดยคาดว่าจะสามารถสรุปราคาที่แน่นอนได้ ภายในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งในระดับราคาดังกล่าว เป็นการคำนวณจากค่าพี/อี เรโช เปรียบเทียบกับกลุ่ม อุตสาหกรรมและบริษัทที่ประกอบธุรกิจเดียวกันซึ่งจะมีส่วนลดให้กับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้น

ทั้งนี้ ในระดับราคาจอง 3.70 บาทจะมีค่าพี/อีเรโช ประมาณ 8.5 เท่า และถ้าระดับราคา 4.10 บาทนั้นจะมี ค่าพี/อีเรโชประมาณ 9.5 เท่า ขณะที่หุ้นกลุ่มสื่อสารนั้นมีค่าพี/อีเรโชประมาณ 14 เท่า

บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น นั้นจะเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 59 ล้านหุ้น โดยจะขายให้นักลงทุนสถาบัน 25% และที่เหลือให้ประชาชน ทั่วไป มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และอีกจำนวน 1 ล้านหุ้นจะเสนอขายให้แก่กรรมการและพนักงานของบริษัทในราคาเดียวกับที่เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป คาดว่าจะกระจายหุ้นได้ภายในวันที่ 7-9 พฤศจิกายนนี้ และหุ้นจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้

สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้จะนำไปชำระหนี้ แต่เป็นการชำระไม่มากนักเพราะหนี้ของ บริษัทส่วนใหญ่เป็นหนี้ระยะสั้นหรือหนี้การค้าโดยหนี้สินรวมของบริษัทจะอยู่ในระดับ 440 ล้านบาทซึ่งแบ่งเป็นหนี้ระยะสั้นประมาณ 300 ล้านบาท ดังนั้นเงิน ที่ได้จากการระดมทุนส่วนใหญ่จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อนำไปซื้อสินค้าโดยใช้เป็นเงินสดในการซื้อซึ่งจะทำให้ได้ส่วนลดอีกด้วย
นายสมภพ กล่าวว่า จุดเด่นของ บมจ.ทีดับบลิว แซดคอร์ปอเรชั่น คือการที่ผู้บริหารมีประสบการณ์ใน ธุรกิจอย่างมาก จึงทำให้สามารถสั่งสินค้าได้ในจำนวน ที่เหมาะสมไม่มากเกินไปจนทำให้ต้องมีการตั้งสำรองนอกจากนี้ การจัดการสินค้าคงคลังก็เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสถานที่ตั้งของสาขาที่ให้บริการซึ่งมีจำนวน 26 แห่งถือว่าอยู่ในทำเลที่ดีคืออยู่ในห้าง-สรรพสินค้าหลายแห่งและในปีหน้าบริษัทก็มีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มขึ้นอีก

นายพุทธชาติ รังคสิริ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บมจ.ทีดับบลิวแซดคอร์ปอ-เรชั่น เปิดเผยว่า รายได้ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับ 3 พันล้านบาทโดยในครึ่งปีแรกสามารถทำได้แล้วจำนวน 1.5 พันล้านบาทถึงแม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนการลงบันทึกยอดขายบัตรเติมเงินให้เป็นรูปแบบใหม่ซึ่งอาจจะส่งผลทำให้ยอดขายในไตรมาส 4 ลดลงแต่รายได้ค่าคอมมิชชันยังอยู่ในระดับสูง โดยรายได้หลักมาจาก การจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มือถือโดยเชื่อว่าการขยายตัวของโทรศัพท์มือถือในปีหน้าจะมากกว่า 10%

ภายในปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มเป็น 15 แห่งซึ่งได้เปิดไปแล้วจำนวน 2 แห่งและเชื่อว่าในปีนี้ จะสามารถเปิดได้ตามเป้าหมายเพราะสาขาที่จะเปิดส่วนใหญ่จะเป็นสาขาแบบเทเลวิซเอ็กซ์เพรส ซึ่งถือว่าไม่ใหญ่มากนัก โดยคาดว่าจะเปิดจำนวน 8 แห่ง โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณสาขาละ 5-8 แสนบาท ส่วนสาขาเทเลวิซแบบเต็มรูปแบบจะใช้เงินลงทุนสาขาละประมาณ 1-3 ล้านบาท โดยจะเปิดจำนวน 2 แห่งและเปิดร้านทีดับบลิวแซด 3 แห่ง โดยปัจจุบันนี้สัดส่วนรายได้ของบริษัทจะมาจากการขายปลีกจำนวน 25% ส่วนอีก 75% นั้นจะมาจากการขายส่ง

นายเขตรัตน์ ชื่นมั่น ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี บมจ. ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า อัตรากำไรสุทธิต่อรายได้รวมได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2547 อยู่ในระดับ 3.04% และในครึ่งปีแรกปี 2548 อยู่ในระดับ 3.28% ซึ่งคาดว่าทั้งปีจะอยู่ในระดับ 3% โดยในส่วนของ อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันจากปี 2547 อยู่ในระดับ 31.13% และในครึ่งปีแรกอยู่ในระดับ 43.97%

สำหรับกำไรสุทธิของบริษัทในปี 2547 อยู่ที่ 58.06 ล้านบาทและในครึ่งปีแรก 2548 อยู่ที่ 51.89 ล้านบาทซึ่งใกล้เคียงกับทั้งปีของปีก่อนในส่วนของสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ในครึ่งปีแรกปี 2548 อยู่ในระดับ 1.74 เท่าซึ่งหลังจากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปแล้ว คาดว่าจะลดลงเหลือประมาณ 0.8-1%และบริษัทจะพยายามควบคุมไม่ให้อยู่ในระดับที่เกิน 2 เท่า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us