|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ทอท.สรุปให้คิง เพาเวอร์รับสัมปทานโฆษณาภายในอาคารผู้โดยสารสุวรรณภูมิ อ้างพื้นที่ทับซ้อนกับดิวตี้ฟรีที่คิงเพาเวอร์ได้ สัมปทานไปแล้ว แบ่งพื้นที่นอกอาคารเปิดประมูล ส่วนที่จอดรถ ช่วงแรกทำเองแต่จ้างเอกชนเก็บ เพื่อเก็บตัวเลขรายได้เป็นราคากลางก่อนประมูลหลังเปิด 1 ปี "ทักษิณ" ประชุมกทภ.วันนี้ ติดตามแผนโยกย้ายจากดอนเมือง ไปสุวรรณภูมิและการตั้งนครสุวรรณภูมิ
แหล่งข่าวจากบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท.กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการพิจารณารายได้เชิงพาณิชย์ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีนายศรีสุข จันทรางศุ เป็นประธานได้สรุปหลักการในการให้สัมปทานเกี่ยวกับป้ายโฆษณาในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือ พื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร ใช้วิธีการพิจารณาพิเศษพิจารณา ซึ่งโดยคาดว่าจะให้บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เนื่องจากพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ บริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ดำเนินการด้านร้านค้าปลอดภาษี หรือ ดิวตี้ฟรี ซึ่งหากให้รายอื่นเข้าไปดำเนินการเรื่องโฆษณา อาจเกิดปัญหาความซ้ำซ้อนของ พื้นที่ได้ ส่วนพื้นที่ด้านนอกอาคารผู้โดยสารจะเปิดประมูลคัดเลือก โดยคาดว่าจะเปิดประมูลอย่างช้าต้นเดือนพ.ย.นี้
ส่วนบริการที่จอดรถสนามบินสุวรรณภูมิ หรือ คาร์ปาร์ค นั้นทอท.จะดำเนินการเองโดยในระยะแรก 6 เดือน- 1 ปี ก่อน เนื่องจาก ทอท.มีพนักงานไม่เพียงพอและยังไม่มีราคากลางของรายได้จากค่าจอดรถของสนามบินสุวรรณภูมิด้วย จึงอาจจะว่าจ้างบริษัทเอกชนมาจัดเก็บให้และจ่ายผลตอบแทนเป็นค่าจ้าง และเมื่อมีตัวเลขรายได้ค่าจอดรถแล้วจากนั้นจะเปิดประมูลหาเอกชนมารับสัมปทานจัดเก็บค่าจอดรถแทนทอท. ในลักษณะเดียวกับที่จอดรถสนามบินดอนเมือง
"ที่จอดรถในหลักการต้องให้สัมปทานแต่เนื่องจากไม่มีรายได้ประเมินของสนามบินสุวรรณภูมิและนำรายได้ที่จอดรถของดอนเมือง มาประเมินไม่ได้ ดังนั้นในระยะแรก ทอท.จะดำเนินการเองโดยว่าจ้าง เอกชนมารับจ้างพนักงานของทอท. จะ ไม่ทำเรื่องนี้เองเพราะเป็นงานจุกจิก"
ประชุมกทภ.รายงานแผนย้ายสนามบิน
พลเอกชัยนันท์ เจริญศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ในวันนี้ (25 ต.ค.) คณะกรรมการบริหารและพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทภ.) ซึ่งมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานจะประชุมโดยมีวาระสำคัญคือ เรื่องการรายงานแผนปฏิบัติการการ เตรียมความพร้อมในการโยกย้ายสนามบิน (ORAT) จากท่าอากาศยานกรุงเทพมาปฏิบัติ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เนื่องจากคาดว่าต้องใช้เวลาโยกย้ายประมาณ 6-7 เดือน ก่อนเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิในเดือน มิ.ย. 2549 โดยแผนดังกล่าวจะระบุชัดเจนว่าในแต่ละช่วงเวลาจะต้องโยกย้ายงานส่วนใดบ้าง และต้องกำหนดกรอบเวลาในการเตรียมการโยกย้ายสนามบินให้สอดคล้องกับแผนการก่อสร้างสนามบิน
นอกจากนี้ จะมีการรายงานแผนความคืบหน้าการดำเนินการจัดตั้งนครสุวรรณภูมิซึ่งเรื่องดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าของเรื่องในการรายงาน อย่างไรก็ตาม อาจจะยังไม่มีการตัดสินใจในวาระดังกล่าว เป็นเพียงเรื่องรายงานเพื่อทราบเท่านั้น รวมถึง การรายงานการก่อสร้างทางด่วนบูรพาวิถีเพื่อเข้ามาถึงภายในสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดงบประมาณในการก่อสร้างลดลง
พลเอกชัยนันท์ กล่าวว่า จะมีการรายงานเรื่องการจัดตั้งคณะกรรมการระบบการจราจรภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อจัดระบบรถสาธารณะทุกประเภทที่จะเข้ามาให้บริการภายในสนามบิน โดย คณะกรรมการชุดนี้จะดูกรอบการในการบริหารจัดการ และการให้บริการรถขนส่งสาธารณะทุกประเภท ตั้งแต่รถโดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ มิเตอร์ เป็นต้น
ส่วนการก่อสร้างจะรายงานความคืบหน้าตามปกติ เพื่อให้นายก-รัฐมนตรีรับทราบและเร่งงานในส่วน ที่ล่าช้ากว่ากำหนด ส่วนเรื่องการปรับเงินผู้รับเหมาที่ส่งมอบงานล่าช้า เช่น กลุ่มกิจการร่วมค้าไอทีโอจอยท์เวนเจอร์ ที่รับผิดชอบการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบินนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากอยู่ระหว่างการ ที่บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด (บทม.) ส่งรายละเอียดถึงไอทีโอฯ เพื่อชี้แจงว่า บทม.จะปรับเงินไอทีโอฯ เนื่องจากไม่สามารถส่งมอบงานก่อสร้างได้ตามกำหนดวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา
"ไอทีโอฯต้องถูกปรับอยู่แล้ว เพราะตามสัญญาระบุชัดว่าเมื่อส่งงานไม่ได้ตามกำหนดก็ต้องเสียค่าปรับ เชื่อว่าเอกชนจะยอมรับได้" พลเอกชัยนันท์ กล่าว
|
|
|
|
|