|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"เซจ แคปปิตอล" ได้รับ แต่งตั้งเป็นพี่เลี้ยงแต่งตัวรัฐวิสาหกิจขนาด กลางระดมทุน พร้อมเป็นที่ปรึกษากองทุน ต่างประเทศขนาด 3 หมื่นล้านบาทเข้าลงทุน ใน บจ. 1 รายในวงเงิน 1 พันล้านบาท คาดว่า จะเสร็จสิ้น พ.ย.นี้ ระบุธุรกิจอาหาร, คอนซูเมอร์โปรดักต์เนื้อหอม เล็งดัน 4 หุ้นใหม่ เข้าระดมทุนปีหน้า
นายธนาธิป วิทยะสิรินันท์ กรรมการ บริหาร บริษัทเซจ แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในรัฐวิสาหกิจขนาดกลางแห่งหนึ่ง เพื่อให้เข้ามาช่วยแปรรูปจากรัฐวิสาหกิจเป็นบริษัทมหาชน และในอนาคตก็มีแผนที่จะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป
"การทำงานยังมีหลายขั้นตอนซึ่งรวม ถึงจะมีการควบรวมกิจการด้วย ดังนั้น จึงเชื่อว่ากว่าจะเข้ามาระดมทุนต้องใช้เวลา ประมาณ 2-3 ปี" นายธนาธิปกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นที่ปรึกษา ให้แก่กองทุนต่างประเทศ 1 ราย ซึ่งเป็น กองทุนส่วนบุคคล และมีขนาดของกองทุน ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยกองทุน จะเข้ามาลงทุนในบริษัทจดทะเบียนของไทย 1 ราย โดยกองทุนดังกล่าวได้เข้าหุ้นกู้แปลงสภาพจำนวนประมาณ 10% คิดเป็น วงเงินลงทุนประมาณ 20-25 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 800-1,000 ล้านบาท คาดว่าจะ ดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนพฤศจิกายน นี้
ทั้งนี้ กองทุนต่างประเทศนี้จะมี นโยบายการลงทุน โดยจะลงทุนในระยะยาว และจะส่งตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมการ บริษัทด้วย แต่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร ส่วนในแง่ของผลตอบแทนจากการลงทุนจะหวังไว้ในระดับสูงเช่นกัน 25-30%
"กองทุนจากต่างประเทศยังสนใจที่จะลงทุนบริษัทจดทะเบียนของไทยอยู่ โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัว ลดลงมามาก แต่จะเลือกลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพที่ดี และมีแนวโน้มการขยายตัวมาก" นายธนาธิปกล่าว
กรรมการผู้จัดการ บริษัทเซจ แคปปิตอล จำกัด กล่าวต่อว่า ธุรกิจที่กองทุนต่างประเทศสนใจเข้าลงทุนในธุรกิจ ที่เกี่ยวกับอาหาร,ธุรกิจเกี่ยวกับรายย่อยหรือรีเทล และธุรกิจที่เกี่ยวกับคอนซูเมอร์ โปรดักต์ เพราะเห็นว่ายังมีโอกาสเติบโตได้ อีกมาก โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งถือเป็น ตลาดใหญ่แห่งหนึ่งเพราะมีประชากรมากถึง 70 ล้านคนทั่วประเทศ
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทเซจ แคปปิตอลในปีนี้ถือว่าเป็นไปตาม เป้าหมายที่กำหนดไว้ซึ่งเติบโตต่อเนื่องจาก ปีก่อนถึงแม้ว่าภาวะตลาดหุ้นโดยรวมจะไม่เอื้ออำนวยก็ตาม โดยในปีนี้บริษัทเป็นที่ปรึกษาทางการเงินนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 4 บริษัทประกอบด้วย บมจ.สยามทูยู ,บมจ.เอเซียเสริมกิจ ซึ่ง 2 บริษัทนี้เข้าซื้อขายแล้ว ส่วนอีก 2 บริษัทเตรียมที่จะเข้าซื้อขายประกอบด้วยบมจ.ปริญสิริ ซึ่งเตรียมกระจายหุ้นภายในปลายเดือนตุลาคมนี้ และบริษัท 124 คอมมูนิเคชั่นส์ คาดว่าจะกระจายหุ้นได้ภายในเดือนพฤศจิกายน
นอกจากนี้ ก็ยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการให้แก่ธนาคารเอเซียและธนาคารยูโอบี เคย์เฮียน รวมถึงการหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ให้แก่บริษัทจดทะเบียนที่ประกอบธุรกิจอาหาร และที่ปรึกษาบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง ที่จะออกหุ้นเพิ่มทุนซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท โดยจะเสนอขายเฉพาะเจาะจงให้กับนักลงทุนต่างประเทศ ที่เหลือก็จะเป็นที่ปรึกษาทางการเงินด้านอื่นๆ
ส่วนปีหน้าบริษัทได้เป็นที่ปรึกษาทาง การเงินแล้ว 7 บริษัท แต่คาดว่าจะสามารถ นำบริษัทเข้าระดมทุนในปี 2549 ได้จำนวน 4 บริษัท ซึ่งจะเป็นบริษัทที่มีขนาดระดับกลาง โดยคาดว่าผลการดำเนินงานจะเติบโต ไม่น้อยกว่าในปีนี้
นายธนาธิปกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ก็มีบริษัทหลักทรัพย์บางแห่งที่ติดต่อร่วมถือหุ้นของบริษัท แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่ต้องการที่จะให้บริษัทหลักทรัพย์เข้ามาร่วมถือหุ้นในขณะนี้ เพราะยังต้องการความเป็นอิสระในการทำงาน โดยบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวที่เข้ามาติดต่อก็หวังในเรื่องของการรุกธุรกิจวาณิชธนกิจ และงานที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อหวังจะเสริมกับงานธุรกิจโบรกเกอร์
"ตอนนี้ผมยังต้องการความเป็นอิสระในการทำงานอยู่ จึงคิดว่ายังไม่อยาก ได้บริษัทหลักทรัพย์เข้ามาร่วมถือหุ้นในขณะนี้" กรรมการบริหาร บริษัทเซจ แคปปิตอล จำกัด กล่าว
นายธนาธิป วิทยะสิรินันท์ กรรมการ บริหาร บริษัทเซจ แคปปิตอล จำกัด กล่าว ต่ออีกว่า สำหรับการทำธุรกิจในปีหน้า นั้นนอกจากการเป็นที่ปรึกษาทางการ เงินนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว บริษัทยังมีงานที่เกี่ยวกับการควบรวมกิจการ ตลอดจนการหาผู้ร่วมทุน ซึ่งจะเป็นรายได้ อีกส่วนหนึ่งที่เข้ามา ทำให้ปีหน้าผล การดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตไม่น้อยกว่านี้
|
|
|
|
|