Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน25 พฤศจิกายน 2545
ยุทธศาสตร์กรุงไทยหลังแปรรูป พัฒนาสู่"แบงก์สะดวก"ทำกำไร             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารกรุงไทย

   
search resources

ธนาคารกรุงไทย




ยุทธศาสตร์แบงก์กรุงไทยหลังการแปรรูปธนาคาร ตั้งปณิธานสู่ Convenience Bank หรือ"แบงก์สะดวกซื้อ"วางเป้าธุรกิจปี 46 เสริมสร้างประสิทธิภาพและสินทรัพย์ดีของธนาคาร มุ่งสร้างบริการทางการเงินที่รวดเร็วตอบสนองลูกค้าได้ตรงกลุ่ม

แม้จะเลื่อนการกระจายหุ้นออกไปเป็นต้นปีหน้า แต่ก็ถือว่าธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) KTB กำลังอยู่ในห้วงการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ซึ่งจะว่าไปแล้วเรื่อง การกระจายหุ้นแค่เป็นส่วนหนึ่งของแผนในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งและความคล่องตัวในการบริหารธุรกิจมากยิ่งขึ้น

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าวว่า สิ่งที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนให้ความสนใจคือ แผนการดำเนินงานของธนาคารหลังการแปรรูปมากกว่า โดยเชื่อว่า แผนของธนาคารในปี 2546 นั้นยังคงมุ่งสร้างประสิทธิภาพของธนาคารให้สามารถแข่งขันและเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยจะมุ่งพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับธุรกิจที่ธนาคารให้บริการ ด้านรับฝากเงิน การปล่อยสินเชื่อ และระบบการชำระเงินเพื่อให้สามารถประมวลผลของข้อมูลได้ถูกต้องและแม่นยำ(Core Banking Business)

การเสริมสร้างสินทรัพย์เพื่อก่อให้เกิดรายได้อย่างเป็นระบบ เนื่องจากธนาคารยังมีช่องทาง ในการขยายสินทรัพย์ได้อีกมาก เนื่องจากธนาคาร มีฐานของเงินกองทุนที่เพียงพอที่จะดำเนินการได้

การมุ่งเน้นโครงการพิเศษสู่การเป็นธนาคาร เพื่อเศรษฐกิจชุมชน(Commercial Microbanking System)โดยจะพัฒนาโครงการต่างๆที่ได้ดำเนินการไม่ว่า โครงการ ธนาคารชุมชน ธนาคารอิสลาม หรือโครงการสินเชื่อเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(เอสเอ็มอี)โดยให้ระบบในการบริหารโครงการมีประสิทธิภาพสูงสุด

การปรับเปลี่ยนระดับของฐานลูกค้าขนาด ใหญ่ที่ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 60% ให้เป็นลูกค้าขนาดกลางและรายย่อยมากกว่าร้อยละ 50 (ณ สิ้น 30 มิ.ย. ธนาคารมียอดสินเชื่อลูกค้าขนาด ใหญ่ประมาณ 289.4 พันล้านบาทคิดเป็นร้อยละ 55.9 ของยอดสินเชื่อรวมทั้งหมด)

การปรับกระบวนการทำงานโดยลดหรือเลิกงานที่ไม่สร้างมูลค่าให้กับธนาคารหรืองานไม่สร้างเสริมปริมาณงานให้เกิดขึ้นในอนาคต และความมุ่งมั่นขององค์กรซึ่งเป็นแผนในระยะยาวที่จะต้องผลักดันให้เกิดขึ้น และพิจารณาเห็นว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของธนาคารคือ การเป็นธนาคารที่เสนอบริการได้หลายหลาย สะดวกสบาย ชำระง่าย ไม่เสียเวลา หรือที่เรียกว่า Convenience Bank สิ่งสำคัญธนาคารยังต้องสร้างบริการทางการเงินที่รวดเร็ว มีความแม่นยำและระดับราคาที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ การเข้าถึงประชาชนที่ต้องการสินค้าของธนาคารผ่านจุดบริการและเครือข่ายทางเทคโนโลยีที่ธนาคารมีครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยต้องยึดหลักการบริหารจัดการที่มีประสิทธิ-ภาพ โปร่งใส เสมอภาคเป็นหลัก

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าทิศทางธุรกิจ ของธนาคารโดดเด่นในหลายๆด้าน ไม่ว่าผลการ ดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาที่กำไรสุทธิสูงสุด 7,476 ล้านบาทสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ถึง 1,863 ล้านบาท มีรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ 14,763 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 2.63% เมื่อเทียบกับช่วงเดียว กันของปีก่อน มีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มอีก 848.88 ล้านบาท

ขณะที่ฐานเงินทุนของธนาคารมีความแข็ง แกร่งซึ่งความพร้อมในด้านนี้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจและความสามารถในการจ่าย เงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น โดย ณ 30 ก.ย.ที่ผ่านมาธนาคารมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 และเงินกองทุนรวมของธนาคารอยู่ในอัตรา 12.8% และ 13.9% และธนาคารยังใช้เงินทุนส่วนที่เกินไปซื้อคืนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นจากองทุนฟื้นฟูฯจำนวน 10,800 ล้านหน่วย และปรับโครงสร้างทุนโดยโอนทุนสำรองต่างๆทั้งหมดไปหักลดผลขาดทุนสะสม

ในส่วนการดำเนินธุรกิจธนาคารยังคงมุ่งมั่นในการขยายสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ โดยตัวเลขสินเชื่อ ณ สิ้นเดือนต.ค.อยู่ที่ 902,270 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากสิ้นเดือนก.ย. 894,276 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นประมาณเกือบ 8,000 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าที่ธนาคารสนับสนุนล้วนแต่มีความมั่นคงทั้งลูกค้าภาครัฐ ลูกค้ารายใหญ่ และลูกค้ารายย่อย โดยกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ชั้นนำส่วนใหญ่เป็น รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ และบริษัทย่อยของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมียอดสินเชื่อของกลุ่มลูกค้ารัฐวิสาหกิจที่ดีขึ้นตามลำดับ และยังไม่มีลูกค้ารายใดในกลุ่มนี้เป็นสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) เป็นต้น

อย่างไรก็ตามเป้าในการดำเนินการด้านสินเชื่อของธนาคารในปี 2545 ได้กำหนดนโยบายปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น 170,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ภาครัฐ 100,000 ล้านบาทและภาคเอกชน 70,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้นโยบายดังกล่าวรุดหน้าเกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ แต่กระนั้นในกระบวนการปล่อยสินเชื่อจำนวนมหาศาลและสูงสุดในระบบ ธนาคารก็ยังไม่ละทิ้งในการนำระบบการวิเคราะห์ ความเสี่ยงตามหลักสากลมาประยุกต์ใช้เพื่อมิให้สร้างความเสี่ยงต่อธนาคาร

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us