ภาพรวม
สิ่งเดียว ที่ "แปซิฟิก อินเตอร์เน็ต" (Pacific Internet) กำลังแสวงหาจากตลาดเอเชียก็คือ ทอง
แปซิฟิก อิน เตอร์เน็ตเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตรายใหญ่รายหนึ่งในสิงคโปร์
และมีคู่แข่ง สำคัญคือ "สิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชัน" (Singapore Telecommunication)
แปซิฟิก อินเตอร์เน็ต มีลูกค้าอยู่ทั้งในออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย และ
ฟิลิปปินส์ บริษัทเป็นเจ้าของ "แปซิฟิก ซูเปอร์เน็ต" (Paci&ic Supernet)
ซึ่งเป็นผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตอีกรายหนึ่งในฮ่องกง นอกจากนั้น ยังถือหุ้น
40% ใน "แปซิฟิก อินเตอร์เน็ต ฟิลิปปินส์" และถือหุ้น 15% ใน "1-เน็ต สิงคโปร์"
ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายอินเตอร์เน็ตควา มเร็วสูง ของสิงคโปร์
บริการของแปซิฟิก อินเตอร์เน็ต มีทั้งบริการ อีเมล เว็บไซต์ส่วนบุคคล บริการข่าวสาร
นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจบริการที่ ปรึกษาผ่านอินเตอร์เน็ต การจัดทำเว็บไซต์
และการโฆษณาในห้างสรรพสินค้าระบบออนไลน์ บริษัทให้ความสำคัญกับธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ
เป็นพิเศษในขณะที่การแข่งขันเข้มข้นขึ้นทุกขณะ
แปซิฟิก อินเตอร์เน็ตมีสมาชิกอยู่ราว 240,000 ราย โดยมี "เซมบ์คอร์ป เวนเจอร์"
(SembCorp Ventures) ถือหุ้น 42% ส่วนอีก 14% อยู่ในมือของ "เอสไอเอ็ม เวนเจอร์"
ในเครือของ "สิงคโปร์ อินเตอร์ เนชันแนล มีเดีย" ทั้งนี้ เซมบ์คอร์ป เวนเจอร์เป็น
กิจการในเครือของ "เซมบาวัง คอร์ปอเรชัน" (Sem bawang Corporation) แต่ทั้งเซมบาวัง
และ เอสไอเอ็ม ก็อยู่ในเครือของ "เทมาเสค โฮลดิงส์" (Temasek Holdings) ซึ่ง
เป็นโฮลดิ้ง คอมปะนี ที่ควบคุมโดยรัฐบาลสิงคโปร์
ความเป็นมา
แปซิฟิก อินเตอร์เน็ ต มีชื่อเดิมว่า "เซมบาวัง มีเดีย" (Sembawang Media)
ต่อมาได้ร่วมทุนกับ "เอสที คอมพิวเตอร์ ซิสเต็ม แอนด์ เซอร์วิส" และ "เอสไอเอ็ม
เวนเจอร์" จัดตั้งกิจการ "พีไอซี" ขึ้น เมื่อ ค.ศ.1995
หลังจากนั้น เซมบาวัง มีเดียก็เพิ่มสัดส่วน การถือครองหุ้นกิจการของพีไอซีจาก
50% เป็น 75% และ ซื้อหุ้นราว 50% ของ "เซมบาวัง แพคแมน" (Sembawang PacMann)
ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ ซูเปอร์เน็ตในฮ่องกงด้วย
ปี 1997 พีไอซี เริ่มให้บริการอินเตอร์เน็ตในฟิลิปปินส์ ปีต่อมารัฐบาล
สิงคโปร์ได้ยกเลิกข้อกำหนดในเรื่องจำนวน ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต โดยยอมให้มีการแข่งขันเพิ่มขึ้น
เซมบาวัง มีเดีย เปลี่ยนชื่อเป็นแปซิฟิก อินเตอร์เน็ต หลังจาก ที่โอนย้าย
กิจการในส่วน ที่เกี่ยวข้องกับอินเตอร์เน็ต (ยกเว้นพีไอซม) ไป ที่ "เซมบ์เวนเจอร์"
ต่อมา แปซิฟิก อินเตอร์เน็ตก็ซื้อหุ้น 50% คืนจาก "ฮ่องกง ซูเปอร์เน็ต" ( ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นแปซิฟิก
ซูเปอร์เน็ต) และ ซื้อหุ้น 40% ของ "ไพรม์เวิลด์ ดิจิตอล ซิสเต็ม"
ปีที่แล้ว แปซิฟิก อินเตอร์เน็ต นำกิจการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
และขยายฐานเข้าสู่ออสเตรเลีย โดยการ ซื้ อกิจการผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตถึงสี่ราย
และยังมีกิจการร่วมทุนอีกแห่งหนึ่งในอินเดียด้วย แปซิฟิก อิน เตอร์เน็ตยังซื้อหุ้นส่วน ที่เหลือคืนจากแปซิฟิก
ซูเปอร์เน็ต ด้วย