หุ้นอสังหาฯคึกคักรับเขตเศรษฐกิจพิเศษสุวรรณภูมิ "เคเอ็มซี" นำทีมพุ่งสุด 16% ตามด้วย STP&I 6% สวนทางดัชนีหุ้นไทยทรุดต่อ รายย่อยขอรอฝรั่งปรับพอร์ตให้เสร็จ ส่วนโบรกเกอร์บัวหลวง ยังเชื่อดัชนีสิ้นปี 730 จุด เดือนพ.ย.ลุ้นต่างชาติหวนซื้อหุ้นอีกครั้ง ด้านผู้ประกอบการอสังหาฯ เตือน นักลงทุนอย่าซื้อที่เก็งกำไร เหตุโครงการยังไม่ชัดเจน รมว.คมนาคม ระบุนครสุวรรณภูมิ เทียบชั้นปกครองแบบ "เทศบาล" การท่าฯเตรียมเวนคืนที่ดิน กทม.ค้านนครสุวรรณภูมิ

วานนี้(18 ต.ค.)หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เคลื่อนไหวคึกคักทันทีเมื่อเปิดตลาดหลักทรัพย์ฯช่วงเช้า จากกระแสข่าวรัฐบาลเตรียมสร้างเมืองใหม่ "นครสุวรรณภูมิ" ให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ส่งผลราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีแลนด์แบงก์(ที่ดิน) ตลอดจนโครงการที่พักอาศัยในย่านสุวรรณภูมิต่างปรับตัวขึ้นคึกคักสวนทิศทาง ภาวะตลาดฯโดยรวม โดยดัชนีหุ้นไทยแม้สามารถ ยืนเหนือระดับ 700 จุดได้ในช่วงแรกแต่ปรับลดลงมาปิดที่ 695.18 จุด ลดลง 1.10 จุด หรือ 0.16% มูลค่าการซื้อขาย 11,374.77 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,177.34 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 234.07 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิ 943.27 ล้านบาท

ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มอสังหาฯที่ปรับขึ้นได้แก่ บมจ. กฤษดามหานคร (KMC) ปิดที่ 3.92 บาท เพิ่มขึ้น 0.54 บาท หรือ 15.98% มูลค่าการซื้อขาย 90.92 ล้านบาท, บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI) ปิดที่ 2.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 6% มูลค่าการซื้อขาย 15.45 ล้านบาท, บมจ.เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ (KC) ปิดที่ 1.54 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 5.48% มูลค่าการซื้อขาย 28.62 ล้านบาท,

บมจ.ศุภาลัย (SPALI) ปิดที่ 2.06 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท หรือ 1.98% มูลค่าการซื้อขาย 8.54 ล้านบาท, บมจ.ไรมอน แลนด์ (RAIMON) ปิดที่ 1.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 1.61% มูลค่าการซื้อขาย 3.6 ล้านบาท

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเพกซ์ จำกัด กล่าวว่า ช่วงเช้าวานนี้ดัชนีปรับขึ้นหลังราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้น ทำให้มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มพลังงานก่อนที่ราคาน้ำมันจะปรับลดลงซึ่งส่ง ผลทำให้มีแรงขายเข้ามาอย่างหนักในหุ้นกลุ่มพลังงาน

ทั้งนี้ หุ้นในกลุ่มธนาคารกลับมาเป็นกลุ่มที่พยุง ตลาด เนื่องจากมีการคาดการณ์ผลประกอบการที่จะทยอยประกาศออกมาจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในขาขึ้น อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ในส่วนของนักลงทุนต่างชาติจะมีการปรับพอร์ตการลงทุนไปจนถึงปลายเดือนนี้ จึงส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายไม่มากนัก ซึ่งนักลงทุนที่เน้นการลงทุนระยะสั้นควรจะรอจังหวะที่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง

เตือนนายทุนอย่าซื้อที่เก็งกำไร

นายบัญชา ยินดี ที่ปรึกษาบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการที่ราคาหุ้นระหว่างวันของกลุ่มบริษัทอสังหาฯปรับตัวขึ้น คาดว่าเป็นไปตามกลไกของตลาด และนักลงทุนมีมุมมอง ต่อบริษัทอสังหาฯที่ลงทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ รวมถึงรัฐบาล มีแนวคิด จะผลักดันให้กลายเป็นนครสุวรรณภูมิที่มีศักยภาพสูงเทียบเท่ากับต่างประเทศ ซึ่งผลประโยชน์ของการพัฒนาเมือง กำลังส่งผลดีต่อไปยังการขยายความเจริญเติบโตไปถึงชลบุรี, พัทยา และระยอง ที่เศรษฐกิจภายในจะขยายตัวมากขึ้น

"สิ่งที่ต้องมองกันต่อไป คือ ระบบการจัดการของนครสุวรรณภูมิที่จะออกมาเป็นอย่างไร รูปแบบการจัดตั้งเป็นจังหวัดแห่งใหม่จะมีรูปโฉมอย่างไร ซึ่งเท่าที่ติดตามข่าวเห็นว่าทางกลุ่มกรุงเทพฯไม่ยอมรับแนวคิดดังกล่าว" นายบัญชากล่าว

สำหรับของโครงการของบริษัท กฤษดามหานครฯ ปัจจุบันมีประมาณ 10 โครงการ อยู่ในบริเวณรอบนอกสุวรรณภูมิ ซึ่งจะเป็นโครงการเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ราคาเฉลี่ย 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งความต้องการยังมีอยู่ แต่หากจะวิเคราะห์ถึงการดูดซับ การขายได้มากหรือน้อยแค่ไหน ยังไม่สามารถระบุชัดเจนว่าเฉลี่ยต่อเดือนดีขึ้นแค่ไหน

นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทเค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ หรือ KC กล่าวว่า การจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น เป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความ ร่วมมือจากหลายๆฝ่าย ทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า การท่องเที่ยว ต้องมีการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค รองรับ ใช้ระยะเวลานาน ซึ่งที่ผ่านมามีประเทศจีนที่มีเขตเศรษฐกิจพิเศษมากที่สุดในรอบ 10-20 ปีที่ผ่าน มา อย่างไรก็ตาม การสร้างเขตดังกล่าวจะต้องวางผังเมืองเพื่อรองรับก่อนที่จะเกิดเมือง แต่ที่ผ่านมาใช้ระบบสร้างไปก่อนผังเมืองตามมาทีหลัง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ส่วนภาวะหุ้นของ KC ที่เพิ่มขึ้นนั้นเชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากกระแสข่าว ทั้งราคาหุ้นของบริษัทที่ผ่านมาก็ต่ำกว่าราคาพื้นฐานอยู่แล้ว ปัจจุบัน KC เองมีโครงการที่อยู่ในย่านสุวรรณภูมิถึง 10 โครงการ

ข้อดีของการเกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษคือ ต้องเกิดแน่และเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไปคาดหวังว่า มันจะดีเกินไปอย่างที่มีการพูดว่าราคาที่ดินจะพุ่งขึ้นเป็น 100 เท่านั้นคงไม่ใช่ เพราะการสร้างเมืองต้องใช้ระยะเวลา แค่ลงทุน 1 แล้วได้ 2 ก็ถือว่าดีมากแล้ว

ด้านนายสืบวงษ์ สุขะมงคล ประธานกรรมการ บริษัท แพทโก้ แลนด์ จำกัด กล่าวว่า การกำหนดให้ สนามบินสุวรรณภูมิเป็นเขตปกครองท้องถิ่นรูปแบบ พิเศษ (นครสุวรรณภูมิ) และเป็นจังหวัดที่ 77 ของประเทศ ถือเป็นเรื่องดี ซึ่งหลายฝ่ายก็พยายามจะผลักดันให้เกิด เพราะหากสามารถเกิดได้จริง จะมีการ ควบคุมงานด้านสถาปัตยกรรมและกฎระเบียบต่างๆ ได้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดชุมชมแออัดได้ยาก อีกทั้งความปลอดภัยก็จะมีสูง ขณะเดียวกัน ราคาที่ดินใน บริเวณรอบนครสุวรรณภูมิก็จะพุ่งสูงขึ้นอีกในอนาคต ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผังสีของที่ดินแต่ละแปลงด้วย จากปัจจุบันราคาที่ดินจะอยู่ที่ประมาณไร่ละ 2-10 ล้านบาทขึ้นไป

"หากมีการซื้อที่ดินแล้วต้องมีการพัฒนาจริงด้วย ไม่ใช่ซื้อเพื่อการเก็งกำไร เพราะนั่นหมายถึงว่าจะเกิดภาวะฟองสบู่กลับมาอีกครั้งได้ ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้ประกอบการบ้านจัดสรรเข้ามาพัฒนาโครงการในบริเวณนี้กันมากขึ้น แต่ก็ต้องระวังการเกิดโอเวอร์ซัปพลายด้วย" นายสืบวงษ์ กล่าว "ทักษิณ"ย่องดูความคืบหน้าก่อสร้าง

เตรียมประชุมติดตามความคืบหน้า 25 ต.ค.

นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการประชุมเกี่ยวกับตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษอีกครั้งในวันที่ 25 ต.ค.นี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมในการเปิด สนามบินสุวรรณภูมิอย่างเต็มรูปแบบในกลางปี 2549

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งนครสุวรรณภูมิเป็นจังหวัดที่ 77 ว่า ในหลักการแล้วอยากให้เป็นจุดที่มีการพัฒนาเร็ว เพื่อ ให้สอดคล้อง เพราะเป็นพื้นที่ชานเมืองแต่เป็นหัวใจของ ศูนย์กลางการขนส่งหรือระบบลอจิสติก (Logistic) เพราะมีระบบไอซีดีหรือรางรถไฟไปยังนิคมอุตสาหกรรม แหลมฉบัง และสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เชื่อมกันหมด จึงต้องมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบและจัดตั้งขึ้นเป็นระดับนคร ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับกรุงเทพฯ 2 และจะเรียนรู้จากกฎหมายที่มีอยู่ สิ่งไหนที่ดีก็จะนำมา สิ่งไหนที่ควรปรับเปลี่ยนก็จะต้องมาปรับเปลี่ยนที่นี่ เพื่อจะสร้างสถานที่ดังกล่าวให้ดีที่สุด เพราะมีขนาดพื้นที่เท่ากับประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถพัฒนาให้เจริญได้และแบ่งเบาความหนาแน่น ของประชากรในกรุงเทพฯ ทั้งนี้ สนามบินสุวรรณภูมิ จะถือเป็นแม่เหล็กหลัก แต่ก็มีองค์ประกอบหลายอย่าง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว ดังนั้น เมืองนี้ก็จะเป็นเมืองพิเศษที่น่าอยู่

ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างเป็นพ.ร.บ.เมื่อร่างเสร็จเรียบร้อยก็จะจัดทำประชาพิจารณ์จากประชาชน และเมื่อทำประชาพิจารณ์เสร็จแล้วจะนำร่างพ.ร.บ. ดังกล่าวเสนอเข้าสู่สภาเพื่อให้มีผลบังคับใช้ แต่จะมีบทเฉพาะกาลรองรับในส่วนของการเมืองท้องถิ่นทั้งส.ก.และส.ส.ก็จะให้ดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะหมดวาระ แต่จะเน้นเรื่องการวางผังเมือง การจัดระบบการก่อสร้างและระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับเป็นพิเศษ ให้มีระบบถนน ประปา ไฟฟ้า เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็จะค่อยผ่องถ่ายระบบการปกครองท้องถิ่น

"นครสุวรรณภูมิ" สุดท้ายแค่ "เทศบาล"

นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่า การกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การผลักดันให้มีการสร้างนครสุวรรณภูมิว่าเป็นนโยบายของรัฐบาลหลังจากการสร้างสนามบินสุวรณภูมิด้วยจำนวนเงินมหาศาล พื้นดินและพื้นที่รอบๆ สนามบินจำเป็นต้องเร่งการพัฒนาอย่างเร่งด่วน โดยการเร่งส่งเสริมการลงทุน ซึ่งปกติตามกฎหมายการส่งเสริมการลงทุน รูปแบบนี้ยังไม่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องชัดเจน การกำหนดพื้นที่ให้เป็นนครสุวรรณภูมิก็เพื่อนำกฎหมาย ของการนิคมอุตสาหกรรมมาใช้ เพื่อให้คนมาลงทุนโดยรอบนอกของสุวรรณภูมิเจริญอย่างรวดเร็ว เพื่อ ดึงดูดนักลงทุนให้ไปลงทุนที่นั่น ถ้าไม่ดึงดูดนักลงทุนโดยการกำหนดพื้นที่ขึ้นมาการวางผังต่างๆจะยากลำบาก

"ขั้นปกครองคงไม่พิเศษแตกต่างจากเทศบาลอื่นๆ เพียงแต่ว่าพื้นที่ตรงนี้คาดว่าจะมีการลงทุนสูงจึงอาจจะมีการจำลองรูปแบบเหมือนเทศบาลนครใหญ่ๆเท่านั้นเอง" รมว.คมนาคมกล่าว

การท่าฯเตรียมเวนคืนที่ดิน

นายสมชัย สวัสดิผล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า จะมีการเจรจาขอซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างพื้นที่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 0.534 ตร.กม. สำหรับอาคารที่พักอาศัยด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือและตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 4.802 ตร.กม.และพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในเรื่องเสียงน้อย ที่สุด คือด้านทิศเหนือและทิศใต้ รวม 13.404 ตร.กม. หากเปิดสนามบินแล้วเกิดเสียงรบกวนจะพิจารณาจ่าย ค่าชดเชยให้เจ้าของซึ่งสร้างก่อนปี 2544 ส่วน การจัดการสิ่งแวดล้อมด้านน้ำ มีการขุดขยายคลอง โดยรอบเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำเชื่อมิ.ย.49 เปิดได้

นายสมชัยกล่าวว่า การก่อสร้างสนามบินขณะนี้มีความคืบหน้ามากขึ้น ผู้รับเหมาเริ่มทยอยส่งมอบ งานบางส่วน โดยงานอาคารผู้โดยสารและอาคารเทียบ เครื่องบินของกลุ่มไอทีโอฯ นั้นอยู่ระหว่างการตรวจรับงานโดยบริษัท ทีเอสซี ซึ่งจะสรุปเป็นรายงานเสนอ ให้พีเอ็มซีและกรรมการตรวจการจ้างต่อไป ส่วนงานที่น่าเป็นห่วงยังคงเป็นทางยกระดับหน้าอาคารผู้โดยสาร ซึ่งสัญญากำหนดแล้วเสร็จตั้งแต่ 22 ส.ค. 2548 โดยผู้รับเหมาจะเร่งรัดให้เสร็จใน 15 ธ.ค. 2548 นี้โดยเบื้องต้นได้มีการหักเงินค่างานเป็นค่าปรับที่ทำงานล่าช้าแล้ว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในเดือนม.ค. 2549 จะสามารถประกาศยืนยันว่าในเดือนมิ.ย. 2549 จะเปิดสนามบินอย่างเป็นทางการได้หรือไม่

กทม.ค้านนครสุวรรณภูมิ

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลจะจัดตั้งนครสุวรรณภูมิโดยนำเอาพื้นที่โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งรวมเอาพื้นที่บางส่วนของเขตประเวศและเขตลาดกระบังไปรวมอยู่ด้วยนั้น วานนี้(18 ต.ค.) ที่ประชุมคณะผู้บริหารกทม.มีมติร่วมกันที่ไม่เห็นด้วย กับการตั้งเขตการปกครองพิเศษนี้ขึ้นมาเพราะมีผลกระทบต่อด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเห็นได้ว่าการสร้างสนามบินในเมืองใหญ่มักจะสร้างนอกเมืองเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และในทางสากลจะไม่พัฒนาพื้นที่โดยรอบสนามบินอยู่แล้วเพราะจะมีผลกระทบตามมาหลายด้าน อีกทั้งการที่จะสร้างเมือง ตรงนี้ก็จะไปปิดกั้นพื้นที่รับน้ำซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในบริเวณดังกล่าวและโดยรอบได้

"ผมว่างบที่รัฐบาลจะใช้ในการพัฒนานคร สุวรรณภูมิให้เทียบเท่าสิงคโปร์ หรือฮ่องกงนั้นรัฐบาล ใช้งบประมาณแพงเกินไปตั้ง 5 แสนล้านบาทซึ่งกทม. จะใช้งบประมาณเพียง 36,000 ล้านบาทในการพัฒนาพื้นที่ส่วนนี้และกทม.เองก็มีแผนพัฒนาพื้นที่ ดังกล่าวรองรับอยู่แล้วซึ่งเป็นแผนพัฒนากรุงเทพมหานคร เพื่อเมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืนซึ่งจะเชื่อมพื้นที่ส่วนนี้เข้ากับสนามบินสุวรรณภูมิอยู่แล้วจึงไม่เห็นความ จำเป็นที่จัดตั้งเป็นมหานครสุวรรณภูมิขึ้นมาแต่อย่างใด"

นายอภิรักษ์ กล่าวด้วยว่า ในวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม 2548 นี้ตนจะจัดประชุมใหญ่เพื่อรับฟังความ คิดเห็นของประชาชนโดยจะเชิญประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ส.ส. ส.ก. ส.ข. นักวิชาการต่างๆ เข้ามาร่วมประชุมด้วย นอกจากนี้ยังจะเปิดเว็บไซต์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเพิ่มเติมอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะเปิดได้สัปดาห์นี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ประชุมหารือเสร็จเรียบร้อยแล้วจะทำหนังสือคัดค้านไปยังกระทรวงมหาดไทยต่อไป