"ภาพยนตร์คือซอฟท์แวร์ โรงภาพยนตร์คือ ฮาร์ดแวร์สองสิ่งนี้ "จะต้องพัฒนาไปด้วยกันธุรกิจโรงภาพยนตร์ไม่เคยทำมีการทำมาเก็ตติ้ง หรือพีอาร์ทั้งสิ้น แต่สมัยนี้เราต้องมีการให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ชมว่าโรงภาพยนตร์ระบบใหม่เหล่านี้เป็นอย่างไร" วิชัย พูลวรลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอนเตอร์เทนเมนต์ โกลเดน วิลเลจ หรืออีจีวีกล่าว

ปัจจุบันระบบการสร้างภาพยนตร์ได้พัฒนาไปในหลายอย่างทั้งในระบบภาพและระบบบันทึกเสียง ส่วนในเรื่องของโรงภาพยนตร์แล้วดีจีวีมี 3 แนวทางการพัฒนาโรงภาพยนตร์

1 ระบบการฉายจะต้องทันสมัยตามรสนิยมของคนดู ซึ่งจะเห็นได้จากการเป็นผู้นำในการนำเสนอระบบมัลติเพล็กซ์ในเมืองไทย

2 การบริการที่สะดวกสบายให้กับคนดู เช่น ระบบการจำหนายบัตรโดยใช้คอมพิวเตอร์ และการรับจองบัตรทางโทรศัพท์ เพียงแต่แจ้งเลขที่บัตรประชาชน หรือเลขที่บัตรเครดิตจำนวนที่นั่ง และรอบที่ต้องการ สามารถจองได้ก่อนล่วงหน้า 21 วัน แล้วมารับบัตรที่จองไว้อย่างน้อยก่อนเวลาฉาย 30 นาที ระบบที่ใช้เป็นระบบ CAT SYSTEM ซึ่งเป็นระบบที่บริษัท วิลเลจ โรดโชว์ บริษัทที่เป็นหุ้นส่วนร่วมทุนในอีจีวีเคยใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมาแล้วกับโรงภาพยนตร์ร่วม 200 แห่ง

นอกจากนี้บริษัทจะเสนอบริการทางด้านอื่นๆ เช่น ร้านอาหาร แมคโดนัลด์ เคนตั้กกี้ ร้านคอมพิวเตอร์เกมส์ และร้านขายของที่ระลึก อีกทั้งได้ติดตั้งวิดีโอ วอลล์ กว่า 32 เครื่อง ให้ผู้มาชมได้ชมตัวอย่าง

การออกบัตรสมาร์ท การ์ด ซึ่งสามารถชมภาพยนตร์ได้ 10 ที่นั่ง และให้ส่วนลด 20% จากราคาบัตรปกติ เมื่อถูกใช้ครบ 10 ครั้งสามารถนำมารีชาร์จ หรือต่ออายุบัตรได้ 6 ครั้ง และยังสามารถให้ใครใช้ก็ได้

สมาร์ท การ์ด มีต้นทุนใบละร้อยกว่าบาท บัตรนี้แต่ละชุดจะพิมพ์รูปภาพของภาพยนตร์ดังๆ เช่น พิมพ์รูปจากเรื่องไลอ้อนคิง เป็นการเพิ่งมูลค่าให้แก่บัตร

3 การนำเสนอตัวสินค้าที่มีคุณภาพ วิสูตรเปิดเผยว่า ได้มีการผูกพันธมิตรทางธุรกิจกับทางบริษัทสร้างภาพยนตร์และบริษัทที่นำเข้าภาพยนตร์จากต่างประเทศ อาทิ บริษัท ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น กรุ๊ป บริษัท สหมงคลฟิล์ม เมเจอร์กรุ๊ป และเอเพ็กซ์ การผูกพันธมิตรสามารถนำเสนอภาพยนตร์ที่มีคุณภาพมาเสนออย่างทั่วถึงและทันสมัย

ส่วนสำคัญที่สุดของระบบมัลติเพล็กซ์ก็คือ การลงทุนในเรื่องของระบบเสียงและระบบการฉายในโรงภาพยนตร์ ระบบเสียงอย่าง SRD และ DTS รวมทั้งระบบการสร้างโรงภาพยนตร์ THX

SRD (Special Recording Digital) พัฒนาโดยกลุ่มของ FOX WARNER ถือว่าเป็นระบบที่ดีที่สุด เป็นการบันทึกเสียงบนแถบเสียงซึ่งอยู่ในฟิล์มเลย การฉายภาพยนตร์จะดำเนินไปพร้อมกันกับเสียงที่ออกมา ถ้าฉายในโรงภาพยนตร์ที่ไม่มีระบบนี้ฟิล์มตัวนี้ เสียงที่ออกมาก็จะเป็นระบบ ดอลบี้ สเตอริโอธรรมดา แต่ถ้าเป็นระบบดิจิตอลก็จะชัด ให้อารมณ์ความรู้สึกที่กว้าง

DTS เป็นดิจิตอลเหมือนกันแต่ใช้ CD ROM เปิดไปกับภาพยนตร์ พัฒนาโดย บริษัท ยูนิเวอร์แซล ใช้บันทึกเสียงเรื่องแรกคือ จูราสสิค พาร์ค และได้รับรางวัลออสการ์สาขาการบันทึกเสียงยอดเยี่ยม ระบบนี้ขายดีมากในช่วงนั้นที่สำคัญคือ โรงภาพยนตร์จะต้องมีเครื่องไม้เครื่องมือเพื่อที่จะใช้ระบบที่เขาบันทึกมาในการผลิต เพื่อให้คนดูได้รับอรรถรสอย่างเต็มที่

การบริการด้วยระบบเสียงคุณภาพที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดระบบหนึ่งของโลกคือ ระบบ THX (Tomilinson Hol-Man Experiment) ระบบนี้เป็นระบบที่ได้รับการพัฒนาร่วมกันระหว่าง จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับภาพยนตร์ เรื่องสตาร์วอร์ กับ ทอมสินสัน ฮอลมอน วิศวกรด้านเครื่องเสียง พบว่าผู้ชมในโรงภาพยนตร์นั้นไม่สามารถได้ยินเสียงทั้งหมดที่บันทึกไว้ในระหว่างการถ่ายทำภาพยนตร์ในสตูดิโอ ระบบนี้ทำให้ระบบเสียงในโรงภาพยนตร์เป็นระบบเสียงสมบูรณ์แบบที่ให้เสียงเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง มีระบบป้องกันเสียงสะท้อนของโรงภาพยนตร์ ระบบนี้ได้รับการติดตั้งในโรงภาพยนตร์กว่า 750 แห่งทั่วโลก นับว่าเป็นระบบเสียงที่สมบูรณ์และดีที่สุดในโลก

เมื่อมีโรงภาพยนตร์ที่มีคุณภาพเช่นนี้แล้ว ในอนาคตผู้ชมจะมีโอกาสชมภาพยนตร์ที่เรียกว่า Exclusive อย่างที่เฮนรี่ ทราน ผู้บริหารบริษัท เมเจอร์ บอกว่าเขามี The Abyss ที่เจมส์ คาเมรอน สร้างเป็นฉบับตัดต่อใหม่ มีฉากที่เพิ่มเข้าไปใหม่อีกครึ่งชั่วโมง ซึ่งเคยถูกตัดทิ้งไปไม่ได้ฉาย ฉบับนี้เป็นฉบับที่สร้างมาเพื่อฉายในโรงระบบ THX โดยเฉพาะเลย หรืออย่างภาพยนตร์เรื่อง Fantasia ของวอลท์ ดิสนีย์ ก็เช่นกัน ซึ่งผู้ชมก็จะได้อรรถรสสมบูรณ์เต็มที่ถ้าชมในโรงภาพยนตร์ระบบ THX

ถ้าจะเปรียบเทียบแล้ว อาจเปรียบเทียบการดูภาพยนตร์เหมือนกับการฟังเพลง ถ้าผู้ผลิตบันทึกมาในแบบที่ไม่ใช่สเตอริโอ การฟังจากเครื่องเสียงธรรมดาหรือเครื่องเสียงชั้นดี ค่าก็คงเท่ากันเหมือนกับภาพยนตร์ สมัยก่อนที่ดูโรงภาพยนตร์ไหนก็เหมือนกัน

แต่ถ้าผู้สร้างบันทึกเสียงด้วยระบบดิจิตอล การฟังจากคอมแพ็คดิสค์ก็ย่อมจะดีกว่าฟังจากเทปคลาสเส็ทธรรมดาซึ่ง DTS และ SRD ก็คือ ระบบการบันทึกเสียงของภาพยนตร์ ในระบบดิจิตอล การได้ชมในโรงภาพยนตร์ที่มีระบบนี้ย่อมจะได้อรรถรสที่ดีกว่าการไปชมจากโรงภาพยนตร์ธรรมดา

ยิ่งไปกว่านั้นถ้าได้ฟังจากแผ่นคอมแพคดิสค์ในห้องเพื่อการฟังเพลงย่อมจะดีไปกว่าการไปฟังในห้องธรรมดาอย่างแน่อน ระบบ THX ก็สร้างมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ

ซึ่งไม่เพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้นที่เริ่มมีระบบมัลติเพล็กซ์แต่เทคโนโลยีนี้ได้รุกคืบไปที่ประเทศจีน ด้วยการร่วมลงทุน 100 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ระหว่างนักลงทุนชาวจีนกับเจ้าของกลุ่มโรงภาพยนตร์อันดับ 4 ของสหรัฐ โดยมีเป้าหมายในการตั้งโรงภาพยนตร์ 150-200 โรง ภายใน 5 ปี