จัสมิน อินเตอร์เนต เปิดแผนธุรกิจปี 49 ผู้บริหารเผยนับจากนี้ต่อไปมุ่งธุรกิจที่ทำแล้วต้องมีกำไรเป็นหลัก ชู 3 โปรดักต์เด่นเป็นตัวสร้างรายได้ อย่างโซลูชันเชื่อมโยงข้อมูลทั่วประเทศ คาด รายได้ในปี 49 เพิ่มเป็น 500 ล้านบาท จากสิ้นปี 48 ที่ 420 ล้านบาท พร้อมมองทางออกกรณีการถือหุ้นของ การสื่อสาร หลังหมดสัญญาอาจตั้งโอนลูกค้าให้บริษัทใหม่ทำตลาดแทน

นายสมศักดิ์ พัฒนะเอนก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนต จำกัด ผู้ให้ บริการอินเทอร์เน็ตภายใต้ชื่อ Ji-NET กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจว่า นับจากนี้ไปจะมุ่งสร้างรายได้ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเร่งสร้างรายได้ ที่จะก่อให้เกิดกำไรเป็นหลัก โดยมองว่าการขยายตัวหรือเติบโตในแง่องค์กรมากๆ แต่ไม่มีกำไรเป็นสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ จัสมิน อินเตอร์เนตยังมีภารกิจที่ต้องสะสางให้เสร็จคือ เรื่องการถือหุ้นของการสื่อสารที่มีอยู่ในจัสมิน อินเตอร์เนต ทางเลือกจัสมิน

นายสมศักดิ์กล่าวว่า เรื่องการถือหุ้นใน จัสมิน อินเตอร์เนต ของ กสท 32% ปัจจุบันยังไม่ลงตัวในเรื่องทางออก โดยภายใต้ข้อตกลงเมื่อมีการเติบโตหรือขยายธุรกิจสัดส่วนการถือหุ้นนี้ต้องเติบโตตามไปด้วย ทำ ให้เกิดภาระกับจัสมินที่แบกหุ้น 32% ของ กสท ติดตัวไปด้วยเพราะเป็นการถือหุ้นลม ความต้องการของจัสมินคือลบสัญญาข้อนี้ ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการตกลงใน เรื่องวงเงินที่ กสท ต้องการ ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นสัญญาสัมปทานประมาณกลางปีหน้า จัสมินมีความต้องการให้ลักษณะการถือหุ้นของ กสท เหมือนการถือหุ้นโดยทั่วไปคือมีการ นำเงินมาลงทุน

อย่างไรก็ตาม ทางออกของจัสมินหากกสท ยังถือหุ้นอยู่ในบริษัทเดิมเมื่อหมดสัญญาสัปทาน คือการตั้งบริษัทใหม่และโอนลูกค้าจากจัสมิน อินเตอร์เนตคือ Ji-NET เดิม มาไว้ในบริษัทใหม่ ส่วนจัสมิน อินเตอร์เนตเดิมก็ลดขนาดลง โดยมองความพร้อมว่า บริษัท อคิวเม้นท์น่าจะเข้ามาดูแลและให้บริการลูกค้าในส่วนนี้ได้

"หากต้องการมีการตั้งบริษัทใหม่หรือโอนงานให้อคิวเม้นท์ สิ่งที่ต้องทำคือการสร้าง แบรนด์ของสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่อยากทำ แต่ก็คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบเพราะธุรกิจ นี้ลูกค้าติดกับพนักงานหรือการให้บริการด้านการขยายมากกว่าการติดกับแบรนด์สินค้า จึงคาดว่าจะ ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำตลาดลูกค้าต่อไปในอนาคต"

ทิศทางต่อไปกำไรเป็นหลัก

ผู้บริหาร จัสมิน อินเตอร์เนต กล่าวว่า จากแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ว่านับจากนี้ไปธุรกิจที่ทำต้องมีกำไร เริ่มจากการทำการตลาดร่วมกับเว็บไซต์ต่างๆ มากยิ่งขึ้นในลักษณะของการนำโปรดักต์ต่างๆขององค์กรเข้าไปทำการตลาดร่วมกัน

สิ่งที่จัสมิน อินเตอร์เนตจะทำในปี 2549 คือลดการใช้จ่ายด้านการตลาดลงประมาณ 7-8% จากปี 2548 ที่วางงบด้านการตลาดไว้ที่ประมาณ 30 ล้านบาท พร้อมกับการลดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด จัสมิน อินเตอร์เนตก็หันไปบุกสร้างรายได้ในธุรกิจที่ไม่ต้องใช้การลงทุนเป็นตัวเงินมากนัก อย่างเว็บไซต์ Koolhitz.com ที่ปัจจุบันอยู่ในระหว่างทดลองและคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ประมาณเดือนหน้า
Koolhitz.com เป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการผู้เล่นอินเทอร์เน็ตทั่วไป เน้นการให้บริการดาวโหลดของแปลกใหม่ อย่างรายการตลก ตลกแบบคาเฟ่ที่นำมาตัดเป็นตอนๆ หรือวิดีโอ ที่หาดูได้ยาก โดยมีพาร์ตเนอร์หลักคือ อาร์.เอส. โปร-โมชั่น

ธุรกิจที่ 2 ที่จัสมินคาดว่าจะเป็นตัวที่ทำรายได้ให้อย่างมากในปีนี้คือ "BRAN-CHCONNEXT" หรือการให้บริการเป็นโซลูชันครบวงจรเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลที่ใช้งานได้ทั้งวอยซ์และเดต้าไปพร้อมกัน ให้กับลูกค้าที่มีความจำเป็นในการ เชื่อมโยงข้อมูลกับสาขาต่างๆที่มีอยู่ทั่วประเทศ

ปัจจุบันลูกค้าที่มีความต้องการเชื่อมโยงข้อมูลกับสาขาต่างๆทั่วประเทศมีหลากหลาย เช่น ธุรกิจประกันภัย โรงแรมจากจำนวนลูกค้าในปัจจุบันประมาณ 800 ราย คาดว่าจะเพิ่มเป็น 4,000 รายในปี 2549 โดยคาดว่าธุรกิจนี้จะทำรายได้ให้แก่บริษัท ประมาณ 25% จากปัจจุบันที่ทำรายได้ให้ประมาณ 15%

"ความยากของธุรกิจประเภทนี้อยู่ที่การขายความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า การมีแบ็กอัพที่ดีให้ลูกค้าเกิดความน่าเชื่อถือในเรื่องการบริการ ทั้งต้องให้หลักประกันกับลูกค้าได้ เช่น 1 ปีเอาต์ออฟบริการได้กี่ชั่วโมง โดยจัสมินเองให้ความมั่นใจลูกค้า ได้ถึง 99.89% จากประสบการณ์ในธุรกิจนี้มากว่า 4 ปี”

สิ้นสุดปี 2548 จัสมิน อินเตอร์เนตคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 420 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จาก ADSL ประมาณ 30% จากลูกค้าองค์กรประมาณ 30% จากลูกค้าธุรกิจ "BRANCHCONNEXT"ประมาณ 15% และจากไดอัพประมาณ 25% ส่วนในปี 2549 คาดว่ารายได้รวมของธุรกิจจะเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท โดยมี "RANCHCONNEXT" ป็นตัวชูโรงในการสร้างรายได้และกำไรให้ธุรกิจ
ธุรกิจที่ 3 ที่จัสมันตั้งเป้าเป็นตัวชูโรงในการทำกำไรคือ สตาร์คอนเน็กซ์ เป็นการให้บริการเชื่อมโยงผ่านดาวเทียมกับองค์กร อย่าง อบต. โรงพยาบาล โรงเรียน ซึ่งที่ผ่านมาอัตราค่าบริการประเภทนี้สูงมาก แต่ปัจจุบันอัตราค่าบริการถูกลงจาก 7,000-8,000 บาท ลงมาเหลือประมาณ 2,000-3,000 บาท

"ตลาดธุรกิจนี้กำลังขยายตัวอย่างมาก 3 เดือน ที่ผ่านมาจัสมินทำตลาดได้ลูกค้าประมาณ 1,000 จุด หรือมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 30-40% จากตลาด รวมในประเทศปี 2548 ทั้งหมดประมาณ 3,000 จุด และคาดว่าปี 2549 จะทำตลาดได้ประมาณ 3,000 จุด จากตลาดรวมประมาณ 10,000 จุด โดยคาดว่าจากอัตราค่าบริการที่ถูกลงจะส่งผลให้เกิดการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น โดย อบต. อนามัยจังหวัด หรือหน่วยราชการท้องถิ่นก็สามารถใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น"

ผู้บริหารจัสมิน อินเตอร์เนตกล่าวว่า ปัจจุบันการแข่งขันในเรื่องธุรกิจอินเทอร์เน็ตมุ่งแข่งขันกันที่ราคาเป็นส่วนมาก โดยเฉพาะในตลาดราชการที่บางโครงการมีการตัดราคากันต่ำกว่าต้นทุน แต่ตลาด ราชการก็ไม่ได้เป็นตลาดหลักของจัสมินอยู่แล้ว โดย มองว่าการแข่งขันเรื่องราคานี้จะยังคงมีให้เห็นในปีหน้าอีกต่อไป โดยในส่วนของจัสมินจะหันมามุ่งสร้าง รายได้ในธุรกิจที่ทำกำไรให้เป็นหลักอย่าง "BRAN-CHCONNEXT" มากกว่า

ในส่วนแผนการเข้าตลาดหลักทรัพย์ ผู้บริหาร กล่าวว่า มองในแง่ความพร้อมของธุรกิจแล้วมีความ พร้อมอย่างมากทั้งในแง่รายได้ และกำไร ซึ่งปัจจุบัน จัสมิน อินเตอร์เนตเป็นไอเอสพีรายเดียวที่มีกำไรติดต่อกันเป็นเวลา 4 ปีมาแล้ว หรือแม้แต่คุณสมบัติของบริษัท ที่เหลือก็เพียงสร้างความเข้าใจ ในทิศทางของธุรกิจที่ต้องทำให้เป็นแผนงานที่ชัดเจนและเป็นที่ทราบของคนทั่วไป