ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเดิม โชว์ผลงานไตรมาส 3 กำไรสุทธิกว่า 5.2 พันล้าน บาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 45% ขณะที่งวด 9 เดือน กำไรสุทธิรวม 1.4 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 5% เหตุปีก่อนมีกำไรจากการลงทุนสูงกว่า 5 พันล้านบาท ด้านผู้บริหารพอใจผลงาน แจงสินเชื่อขยายตัว 6.1% จากเป้าทั้งปี 6.8% และหนี้เน่าลดเหลือ 6.7 หมื่นล้านบาท หรือ 11.3%
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยถึงผลประกอบการ ในไตรมาสที่ 3 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2548 ว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิจำนวน 5,272 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,000 ล้านบาท หรือจากไตรมาสก่อน 23.4% และเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 45.0% โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากมาจากทั้งดอกเบี้ย เงินปันผล และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 13.1% และ 23.9% ตามลำดับ
ขณะที่ผลการดำเนินงานสะสมรวม 9 เดือน กำไรสุทธิ 14,483 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียว กันของปีก่อน 5.73% จากที่มีกำไรสุทธิ 15,364 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อนมีกำไรจากเงินลงทุนสูง ถึง 5,658 ล้านบาท แต่หากพิจารณาเฉพาะกำไรจากผลการดำเนินงาน (ไม่รวมกำไรจากเงินลงทุน และสำรองค่าเผื่อหนี้สูญ) เพิ่มขึ้นถึง 27.0% จาก 11,506 ล้านบาท ในปีก่อนเป็น 14,610 ล้านบาทในปีนี้ เป็นผลจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากทั้งจากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลที่เพิ่มขึ้น 25.3% และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (ไม่รวมกำไรจากเงินลงทุน) เพิ่มขึ้นถึง 30.9%
"ผลงานในไตรมาส 3 น่าพอใจมาก กำไรสุทธิเพิ่มจากไตรมาสก่อนถึง 1,000 ล้านบาท เพราะการ ขยายตัวของรายได้ในทุกด้าน สินเชื่อสุทธิยังคงเติบโต จากสิ้นปี 2547 ถึง 6.1% จากเป้าหมายทั้งปี 6.8% ทำให้ ดอกเบี้ยรับจากสินเชื่อปรับตัวดีขึ้น และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยดีขึ้นในทุกด้าน แม้ว่าค่าใช้จ่ายจากการดำเนิน งานจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่สามารถควบคุมให้อัตราส่วนค่า ใช้จ่ายต่อรายได้ต่ำกว่า 50% ได้" คุณหญิงชฎากล่าว
ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ไตรมาสที่ 3 ลดลง 4,104 ล้านบาท คงเหลือ 67,523 ล้านบาท หรือ 11.3% เป็นผลจากการปรับโครงสร้าง หนี้ และการตัดหนี้สูญ ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญในไตรมาส 3 นี้จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นการตั้งสำรองเป็นการทั่วไป
ด้านนายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลประกอบการของธนาคารเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งในปัจจุบันธนาคารมีความแข็งแกร่งในด้านเงินกองทุน และสามารถทำกำไรที่ดีขึ้นเป็นลำดับจากการทำงานร่วมกันของทั้งกลุ่มการเงินไทยพาณิชย์
สำหรับรายละเอียดของผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 นั้น ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้สินเชื่อจำนวน 8,298 ล้านบาท เพิ่มขึ้นไตรมาสก่อน 865 ล้านบาท เนื่องจากการขยายตัวของสินเชื่อและอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยสินเชื่อที่สูงขึ้น และธนาคารยังมีรายได้ดอกเบี้ยรับพิเศษจากการปรับโครงสร้างหนี้ประมาณ 200 ล้านบาท ส่วนรายได้ดอกเบี้ยระหว่างธนาคารเพิ่มขึ้น 40 ล้านบาท จากดอกเบี้ยระหว่างธนาคารที่ปรับสูงขึ้น และรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลรับจากเงินลงทุนมีจำนวน 1,150 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 393 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินปันผลรับจากกองทุนรวมวายุภักษ์จำนวน 267 ล้านบาท
ด้านดอกเบี้ยจ่ายของธนาคารจำนวน 1,596 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 87 ล้านบาท หรือ 5.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมาจากเงินฝากที่เพิ่มขึ้นและการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคาร ทั้งนี้รายได้ ดอกเบี้ยและเงินปันผลที่ปรับตัวดีขึ้นมากกว่าดอกเบี้ย จ่ายที่เพิ่มขึ้น ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 3.53% จาก 3.09% ในไตรมาสก่อน ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2548 ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 3.29%
ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่มาจากการดำเนิน งานไตรมาส 3 มีจำนวน 3,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก ไตรมาสก่อน 120 ล้านบาท หรือ 3.6% เนื่องจากรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น อีกทั้งรายได้จากการปริวรรตและส่วนแบ่งรายได้จากบริษัท ขณะที่รายได้ ค่าธรรมเนียมและบริการมีจำนวน 2,431 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 93 ล้านบาท หรือ 4.0% ซึ่งมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมสินเชื่อ และรายได้จากธุรกิจบัตรสำหรับรายได้จากธุรกิจ Bancassurance
ขณะที่ค่าใช้จ่ายที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยมีจำนวน 5,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 11.9% โดยเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้น 364 ล้านบาท หรือ 25.0% ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอาคาร และอุปกรณ์เพิ่มขึ้น จำนวน 17 ล้านบาท หรือ 1.5% สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานของธนาคารเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนที่มีอัตราส่วน 48.9% เป็น 49.9% ในไตรมาสนี้ ส่วนงวด 9 เดือนแรกของปี 2548 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงาน เท่ากับ 49.6%
"ธนชาต" คงดอกเบี้ยเงินกู้เท่าแบงก์ใหญ่
นางนุสรา รุนสำราญ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ ธนาคารธนชาตยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ถึงแม้ว่าธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะทยอยปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปัจจุบันอัตรา ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมของธนาคารธนชาตเท่ากับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมลูกค้าชั้นดี (MLR) ยังคงอยู่ที่ระดับ 6.25% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ระดับ 6.50% แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารรอดูสถานการณ์แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดอย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ในวันที่ 19 ต.ค.นี้
|