Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน15 พฤศจิกายน 2545
กว่าจะเป็นวันนี้ของทราฟฟิกคอร์นเนอร์ จากความแตกต่างสู่บริหารอย่างมืออาชีพ             
 


   
www resources

โฮมเพจ ทราฟฟิก คอร์เนอร์

   
search resources

ทราฟฟิกคอร์เนอร์ โฮลดิ้งส์, บมจ.
ยรรยง อัครจินดานนท์




"ทราฟฟิกคอร์นเนอร์" จากจุดเริ่มต้นของกลุ่มคนสายเลือดเดียวกัน สู่ธุรกิจสื่อโฆษณาครบวงจร นับถึงปัจจุบันทราฟฟิกคอร์นเนอร์กลายเป็นผู้ที่เข้าไปจัดการด้านการตลาด บริหารธุรกิจให้กับกิจกรรมที่หลากหลายไม่ว่า จะเป็นคอนเสิร์ต หรือสื่อสิ่งพิมพ์ ผู้บริหารหนุ่มเผยปรัชญาธุรกิจทำงาน ภายใต้แนวคิดสร้างความแตกต่าง ขายงานคุณภาพ

ยรรยง อัครจินดานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าทราฟฟิกคอร์นเนอร์เกิดจากการรวมตัวของคนที่มีความถนัดด้านวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อสิ่งพิมพ์มารวมตัวกันโดยมีเป้าหมายดียวกันคือเพื่อทำสื่อโฆษณาครบวงจรภายใต้สโสแกนที่ว่า "แรงบันดาลใจเหนือความคาด หมาย" เพราะอยากให้ลูกค้าได้ในสิ่งเกินความคาดหมาย ให้ลูกค้าเกิด ความพึงพอใจที่ต้องมาจากความเชื่อมั่นในองค์กรก่อนอื่น

กว่าจะถึงวันนี้ของทราฟฟิกคอร์นเนอร์ ผู้บริหารกิจการกล่าวว่า เราเริ่มต้นกับงานหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการจัดรายการฟุตบอล ดังๆ อย่างพรีเมียร์ลีก และบุนเดส-ลีก้านับเป็นเจ้าแรกที่ทำรายการฟุต-บอลทางโทรทัศน์แล้วมีกำไรและพัฒนารูปแบบรายการจากที่ชมได้อย่างเดียวมาเป็นการร่วมโหวตทาง โทรศัพท์ได้

"เราได้แนวคิดนี้มาจากความ ต้องการทำรายการที่ไม่เหมือนใคร เพราะถ้าจะทำข่าวก็คงสู่ ITV ไม่ได้ หรือจะไปทำละครก็คงสู้ช่อง 3 หรือ ช่อง 7 ไม่ได้ อีกเช่นกัน เราจึงต้อง หาช่องทางทำในสิ่งที่ยังไม่มีใครทำ" ยรรยง กล่าว

ธุรกิจวิทยุหลักของทราฟฟิกคอร์นเนอร์คือคลื่นลูกทุ่ง FM สเตอริโอกระจายเสียงตลอด 24 ชั่วโมงซึ่งเป็นคลื่นแรกในเมืองไทยซึ่งหลายคนคิดว่าเพลงลูกทุ่งเป็นภาพลักษณ์ของคนชั้นล่างแต่สิ่งที่ ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ทำคือปรับมุมมองเสียใหม่ เพราะเพลงลูกทุ่งเป็น ตลาดที่ใหญ่ ยอดขายเทปของค่าย ใหญ่ๆ อย่างแกรมมี่ที่ติดอันดับท็อป 5 ก็คือเพลงลุกทุ่ง แนวคิดการจัดตลาดสถานีวิทยุลูกทุ่ง FM จึงประสบสำเร็จเป็นอย่างสูง เรตติ้ง ของรายการสูงมากเพราะเราคิดที่นำ คลื่น AM และ FM มาผสมผสาน กันได้เพื่อตอบสนองความต้องการ ของทั้งผู้ฟังและสปอนเซอร์

"เรามีมุมมองในการปรับเปลี่ยนรูปแบบรายการไปตามกระแสความนิยมและไม่ยึดติดกับงานบริหารแบบเก่า"

อีกสายหนึ่งที่ทราฟฟิกคอร์นเนอร์เข้าไปบุกเบิกเป็นการเข้าไปบริหารกิจกรรมการตลาดและการจัดการของบริษัทอื่นๆ ด้วย ตามแนวคิดที่ว่าการทำกิจกรรมส่งเสริม การตลาดนั้นผู้บริหารยุคใหม่จะต้องมีความคิดและมองอะไรรอบด้านให้ครอบคลุมรอบด้านทั้งการบริหารงานโฆษณาที่ผ่านสื่อหรือการ สร้างกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของ บริษัทลูกค้าและผู้บริโภค

"คอนเสิร์ต" เป็นอีกหนึ่งในสายธุรกิจที่ ทราฟฟิกคอร์นเนอร์เข้า ไปบริหารแล้วมีกำไร โดยมีจุดเริ่มต้นของแนวคิดที่ว่าทำอย่างไรให้มีกำไร จะหารายได้ยังไง จะแก้ปัญหา หรือมีวิธีอะไรที่จะทำให้เรามีกำไรเพิ่ม เข้ามาอีกเช่น การทำคอนเสิร์ตใน เมืองไทยถ้าทำแนววัยรุ่นเพลงสมัย นิยมก็ไม่มีใครมาดูแน่เพราะเพลงแนวนี้ส่วนมากเป็นฟรีคอนเสิร์ต ผนวกกับค่ายเพลงส่วนใหญ่ต้องการโปรโมตเพลงเขาอยู่แล้วจัดคอน สิร์ตเก็บตังค์ไม่ได้แน่ การทำแนวเพลงแบบคุณภาพจึงมีความเป็นไปได้เพราะอำนาจซื้อมากกว่าเช่น เบิร์ดกับฮาร์ท นับเป็นคอนเสิร์ตที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเพราะเป็นคอนเสิร์ตที่หาดูได้ยาก ลูกค้าจึงพร้อมที่จะจ่ายเงินซื้อบัตรเข้าชม

อีกสายธุรกิจที่ทราฟฟิกคอร์นเนอร์ทำได้อย่างดีคือ สิ่งพิมพ์จากมุมมองที่ว่าคนไทยมีแนวโน้มในการอ่านหนังสือมาก ขึ้นความรู้ในหนังสือและความนิยมในหนังสือดีขึ้น

"อัตราการอ่านหนังสือของคน ไทยยังต่ำ หนังสือพิมพ์ที่เป็นอันดับ ที่ 1 อย่างไทยรัฐมียอดขายประมาณ 1 ล้านฉบับ ขณะที่หนังสือพิมพ์ที่สิงคโปร์ขายได้ 3 ล้านฉบับต่อจำนวนประชากร 3 ล้านคน เท่าที่ถามจากคนขายหนังสือพบว่าหนังสือเรียนและแมกกาซีนตลาดโตมากๆ แต่จะมีวิธีการนำเสนออย่างไรเพื่อไม่ให้ซีเรียสมากนัก"

นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้า ไปบริหารการตลาดให้กับหนังสือ พิมพ์มายาแชนแนล และในปัจจุบัน ก็มีการร่วมทุนกันอย่างเต็มที่ซึ่งหนังสือพิมพ์มายาแชนแนลนนี้ขาย ดีมากสู่หลักแสนฉบับภายในเวลา 6 เดือนโดยมีความถี่ออกอาทิตย์ละ 2 ฉบับเดือนละ 8 ฉบับ ซึ่งหลัง จากได้มายาแชนแนลมาอยู่ในเครือแล้ว ยังมีการขยายกิจการเพิ่มขึ้นคือออกแมกกาซีนอีก 3 ฉบับจะออกวางขายปีหน้าเป็นหนังสือพิมพ์ นิตยสารบอสส์ และ เอ็มทีวีแมกกาซีน

โดยภาพรวมคอนเซ็ปต์การบริหารกิจการของทราฟฟิกคอร์นเนอร์แล้ว จะอยู่บนแนวทางบริหาร การตลาดด้วยการร่วมทำงานกับลูกค้า เดินตามความต้องการร่วมกัน ช่วยคิดไอเดียต่างๆ ให้เพื่อให้ตรงกับจุดประสงค์ของลูกค้ามากที่สุด สร้างความแตกต่างและเพิ่มความน่าสนใจ

"เชื่อในเรื่องของการบริหารแบบใหม่เราจะคล้ายๆ BEC เพียง แต่เราไม่มีสถานีโทรทัศน์เราไม่อยาก ทำให้เหมือนกันเราจึงหลีกเลี่ยงที่จะ เป็นคู่แข่งกับธุรกิจอื่น เราจะขยายธุรกิจไปเรื่อยๆ สร้างมุมมองที่แตก ต่างจากคนอื่นและเน้นระบบการทำ งานร่วมกับลูกค้า รักษาลูกค้าเอา ไว้ ได้และเน้นคอนเซ็ปต์ที่ยืนยาวซึ่งทำให้บริษัททราฟฟิกเติบโตและยั่งยืน" เป็นแนวคิดที่ออกจากผู้บริหาร หนุ่มไฟแรงคนนี้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us