อินไซด์กองทุนรวมตลาดเงินเดือนกันยายน "วรรณทรัพย์เพิ่มค่า" ผลงานโดดเด่นเข้าตา โดยตั้งแต่ต้นปีให้ผลตอบแทนกว่า 2.41% ขณะที่ "กองทุนทหารไทยธนบดี" ยังคงครองความเป็นยักษ์ใหญ่พอร์ตกองทุนตลาดเงินมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกว่า 2.6 หมื่นล้านบาท ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีสูงกว่า 1.39%

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ผลสำรวจของ Lipper เกี่ยวกับผลตอบแทนจากการลงทุนของ กองทุนรวมตลาดเงินของบริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) ทั้งระบบ ณ วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา กองทุนที่ให้ผลตอบแทนโดดเด่น 10 อันดับแรกประกอบด้วย

อันดับหนึ่ง กองทุนรวมวรรณทรัพย์เพิ่มค่า ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ. วรรณ ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2.41%
อันดับสอง กองทุนรวมเอ็มเอฟซี เก้า-เก้า ฟันด์ บี ของบลจ. เอ็มเอฟซี ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 2.13%
อันดับสาม เป็นกองทุนมันนี่ ฟันด์ 3 ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ.บีโอเอ ให้ผลตอบแทนตั้งแต่จัดตั้งแต่ต้นปี 1.89%
อันดับสี่ กองทุนมันนี่ ฟันด์ 1 ของบลจ.บีโอเอ ให้ผลตอบ แทนตั้งแต่ต้นปี 1.82%
อันดับห้า กองทุนมันนี่ ฟันด์ 2 ของบลจ.บีโอเอ ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.76%
ส่วนอันดับหก กองทุนไอเอ็นจี แคช แมเนจ-เม้นท์ ภายใต้การบริหารจัดการของบลจ. ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.51%
อันดับเจ็ด กองทุนอยุธยาตราสารเงิน ของบลจ. อยุธยาเจเอฟ ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.44%
อันดับแปด กองทุนทหารไทยธนบดี ผลตอบแทน ตั้งแต่ต้นปี 1.39%
อันดับเก้า กองทุนทหารไทยธนรัฐ ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 1.34% ของบลจ. ทหารไทย
และอันดับ 10 กองทุนรวงข้าวบริหารเงิน ของบลจ.กสิกรไทย ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 0.89%

สำหรับกองทุนรวมตลาดเงินที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิภายใต้การบริหารจัดการสูงสุด ยังคง เป็นกองทุนทหารไทยธนบดี มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 26,404.64 ล้านบาท

รายงานข่าวกล่าวว่า กองทุนวรรณทรัพย์เพิ่มค่ามีสินทรัพย์สุทธิภายใต้การบริหารจัดการ ณ วันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา 366.30 ล้านบาท กองทุนรวมเอ็มเอฟซีเก้า-เก้า ฟันด์ บี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 510.76 ล้านบาท กองทุนมันนี่ ฟันด์ 3 มูลค่าทรัพย์สิน สุทธิ 512.14 ล้านบาท กองทุนมันนี่ ฟันด์ 1 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 669.67 ล้านบาท

สำหรับกองทุนมันนี่ ฟันด์ 2 มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 335.26 ล้านบาท กองทุนไอเอ็นจี แคช แมเนจเม้นท์ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 5,119.65 ล้านบาท กองทุนอยุธยาตราสารเงิน มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,531.08 ล้านบาท กองทุนทหารไทยธนบดี มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 26,404.64 ล้านบาท กองทุนทหารไทยธนรัฐ มูลค่า ทรัพย์สุทธิ 3,109.81 ล้านบาท และกองทุนรวงข้าวบริหารเงินมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 118.61 ล้านบาท

แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ให้ความเห็นว่า แนวโน้มการขยายตัวของ กองทุนรวมตลาดเงินคาดว่ายังคงมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่แนวโน้มดอกเบี้ยยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนหันมาพักเงินระยะสั้นในกองทุนตลาดเงิน เพื่อรอจังหวะดอกเบี้ยขึ้น ก่อนที่จะลงทุนในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม หลังการเกิดขึ้นของสถาบันประกันเงินฝากจะทำให้รูปแบบการลงทุนของนักลงทุนที่เป็นลูกค้าขนาดใหญ่ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการลงทุน โดยแนวโน้มในอนาคตการลงทุน ในบริษัทจัดการกองทุนจะเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ

"ธุรกิจจัดการลงทุนจะมีบทบาทมากขึ้น หลังจากมีการจัดตั้งสถาบันประกันเงินฝาก เพราะนักลงทุนที่เป็นลูกค้ารายใหญ่จะมีการปรับรูปแบบการลงทุน เนื่องจากการฝากเงินจะได้รับประกันเงินฝากบางส่วนเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าการฝากเงินย่อมมีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน หลังจากที่ก่อนหน้ารัฐบาลมีการค้ำประกันเงินฝากเต็มจำนวน" แหล่งข่าวกล่าว