Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน17 ตุลาคม 2548
เปิดพอร์ตขาใหญ่หุ้นจอง9เดือน ไร้เงา"เสี่ยแตงโม""อัศวิน"ขึ้นแชมป์             
 


   
search resources

Stock Exchange




เปิดพอร์ตขาใหญ่ที่ลงทุนในหุ้นจองในช่วง 9 เดือนปีนี้ "อัศวิน ลีลายนะ" ใช้เงินลงทุนมากสุด 32 ล้านบาทในหุ้น 4 บริษัทอินโดรามา-เอ็มซีเอสสตีล-เพิ่มสินสตีลเวิคส์-โซลาร์ตรอน ส่วน "เสี่ยปู่-สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล" ตามติดใช้เงินลงทุน 31 ล้านบาท แต่ไร้เงาเสี่ยแตงโม-สมเกียรติ วงศ์คุณทรัพย์ นักลงทุนหาดใหญ่

จากการรวบรวมข้อมูลของหนังสือพิมพ์ "ผู้จัดการรายวัน" เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นจองของนักลงทุนรายใหญ่ในช่วง 9 เดือนแรก ปีนี้ นับตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2548 ซึ่งเป็นข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พบว่านักลงทุนรายใหญ่ที่ลงทุนในหุ้นจองมากสุด ได้แก่ นายอัศวิน ลีลายนะ ซึ่งลงทุนใน 4 บริษัทคิดเป็น มูลค่าเงินลงทุนจำนวน 32.33 ล้านบาท

สำหรับ 4 หุ้นจองที่นายอัศวิน ลงทุน ประกอบด้วยหุ้นบริษัท อินโด รามา โพลีเมอร์ส (IRP) โดยลงทุนจำนวน 980,000 หุ้น หรือ 0.27% มูลค่า เงินลงทุน 4.8 ล้านบาท, หุ้นบริษัทเอ็มซีเอสสตีล (MCS) เข้าลงทุน 2 ล้านหุ้นหรือ 1.43% มูลค่าเงินลงทุน 4.8 ล้านบาท, หุ้นบริษัทเพิ่มสินสตีลเวิคส์ (PERM) จำนวน 5 ล้านหุ้นหรือ 5% มูลค่าเงินลงทุน 17.50 ล้านบาท และหุ้นบริษัทโซลาร์ตรอน (SOLAR) เข้าลงทุน 795,200 หุ้นหรือ 0.99% มูลค่าเงินลงทุน 6.36 ล้านบาท

ส่วนอันดับรองลงมาได้แก่ "เสี่ยปู่" หรือนายสมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล ซึ่งได้รับการจัดสรรหุ้นจองถึง 5 บริษัท คิดเป็นจำนวนเงินลงทุน 31.11 ล้านบาท

หุ้นจอง 5 บริษัทจะประกอบด้วยหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร (PHATRA) ถือหุ้น 125,200 หุ้น หรือ 0.22% มูลค่าเงินลงทุน 3.88 ล้านบาท, หุ้นบริษัทบางสะพาน บาร์มิล (BSBM) ได้รับการจัดสรรจำนวน 800,000 หุ้น หรือ 0.31% มูลค่าเงินลงทุน 3.04 ล้านบาท, หุ้นบริษัท สยาม อินเตอร์มัลติมีเดีย (SMM) จำนวน 2 ล้านหุ้นหรือ 2.16% มูลค่า เงินลงทุน 5.3 ล้านบาท, หุ้นบริษัทโกลว์พลังงาน (GLOW) จำนวน 766,000 หุ้น หรือ 0.15% มูลค่าเงินลงทุน 18.38 ล้านบาทและหุ้นบริษัทสาลี่อุตสาหกรรม (SALEE) ได้รับการจัดสรรจำนวน 176,000 หุ้นหรือ 0.51% มูลค่าเงินลงทุน 508,640 บาท

นายวัชระ แก้วสว่าง ซึ่งถือเป็น นักลงทุนรายใหญ่ของ บล.เอเซียพลัสได้รับการจัดสรรหุ้นจำนวน 2 บริษัทคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 14.59 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นบล.บัวหลวง (BLS) จำนวน 216,000 หุ้นหรือ 0.54% มูลค่าเงินลงทุน 2.59 ล้านบาท และหุ้นบริษัทโกลว์พลังงาน ได้รับการจัดสรรจำนวน 5 แสนหุ้นหรือ 0.10% มูลค่าเงินลงทุน 12 ล้านบาท

นายยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม ถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่อีกคน ในช่วง 9 เดือนแรกที่ผ่านมาได้รับการจัดสรรหุ้นเพียง 2 บริษัทเท่านั้นคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 13.62 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นบริษัท ซุปเปอร์บล็อก (SUPER) จำนวน 1.25 ล้าน หุ้นหรือ 1.21% มูลค่าเงินลงทุน 6.12 ล้านบาท,หุ้น บล.ภัทรได้รับการจัดสรรหุ้น 2 ล้านหุ้นหรือ 0.54% มูลค่าเงินลงทุน 7.5 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีนายไพฑูรย์ เตชดนัย ได้รับการจัดสรรจำนวน 1 บริษัท คือบริษัท อินโดรามา โพลีเมอร์ส ได้รับการจัดสรรจำนวน 1.29 ล้านหุ้นหรือ 0.41% มูลค่าเงินลงทุน 4.83 ล้านบาท และนายกมล เอี้ยวศิวิกูล ผู้บริหารบริษัทไมด้า แอสเซท ซึ่งถือเป็นนักลงทุนรายใหญ่อีกคนได้รับการจัดสรรหุ้นจองเพียง 1 บริษัทได้แก่หุ้น บล.บัวหลวง จำนวน 120,100 หุ้น หรือ 0.30% มูลค่าเงินลงทุน 1.44 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาการลงทุนของนักลงทุนรายใหญ่ในปีนี้เมื่อเทียบกับในช่วงอดีตที่ผ่านมาพบว่าการลงทุนในหุ้นจองของนักลงทุนรายใหญ่ลดลงอย่างมาก

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ กล่าว ว่า สาเหตุที่นักลงทุนรายใหญ่ลงทุนในหุ้นจองน้อยลง เพราะในช่วงที่ผ่าน มาหุ้นจองส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนที่ต่ำ และหลายบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว ราคาปรับตัวลงมาต่ำกว่าจอง จึงทำให้ นักลงทุนเลือกที่จะซื้อเมื่อเข้ามาซื้อขายแล้ว ประกอบกับนักลงทุนรายใหญ่หลายรายที่ชะลอการซื้อขายหุ้น ในช่วงที่สภาพตลาดหุ้นไม่ดี จึงทำ ให้ไม่ค่อยได้รับการจัดสรรหุ้นจองมากเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

อนึ่งหุ้นใหม่ในปี 2548 ที่เข้า มาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แล้วราคาปรับตัวลดลงมาต่ำกว่าจองในวันแรก ซึ่ง ทำให้นักลงทุนที่ได้รับการจัดสรรได้รับความเสียหายนั้นจะประกอบด้วย หุ้นบริษัทยานภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) (YNP)ราคาจอง 13.40 บาทราคาปิด วันแรก 13.20 บาทต่ำกว่าจอง 1.49%

หุ้นบริษัทซุปเปอร์บล็อก จำกัด (มหาชน) (SUPER) ราคาจอง 4.90 บาทราคาปิดวันแรก 4.86 บาท ต่ำกว่าจอง 0.82%,หุ้นบริษัทโกลว์พลังงาน จำกัด (มหาชน) (GLOW) ราคาจอง 24 บาทราคาปิดวันแรก 22.50 บาทต่ำกว่าจอง 6.25%

หุ้นบริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) (PHATRA) ราคาจอง 31 บาทราคาปิดวันแรก 29.50 บาท ต่ำกว่าจอง 4.84%, หุ้นบริษัทเอ็มซีเอส สตีล จำกัด (มหาชน) (MCS) ราคา จอง 2.40 บาทราคาปิดวันแรก 2.22 บาทต่ำกว่าจอง 7.50% และหุ้นบริษัท อินโดรามา โพลีเมอร์ส จำกัด (มหาชน) (IRP)ราคาจอง 3.75 บาทราคาปิดวันแรก 3.52 บาทต่ำกว่าจอง 6.13%

ทั้งนี้จากการลงทุนของนักลงทุน รายใหญ่จะเห็นได้ว่าการลงทุนของนายสมพงษ์ อาจจะได้รับผลตอบแทน ไม่มากนัก เพราะหุ้นที่ลงทุน 5 บริษัท ปรากฏว่าราคาต่ำกว่าจอง 2 บริษัทคือ หุ้นบล.ภัทร และหุ้นบริษัท โกลว์ พลังงาน ส่วนอีก 3 บริษัทนั้นราคาสูง กว่าจองไม่มากนักทั้งบริษัทบางสะพานบาร์มิล, สยามอินเตอร์มัลติมีเดียและบริษัทสาลี่อุตสาหกรรม   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us