Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 พฤศจิกายน 2545
แบงก์ต่างชาติรุกสินเชื่อบุคคล             
 


   
search resources

Banking




แบงก์ต่างประเทศแห่ขยายสินเชื่อ บุคคลอย่างหนักหลังเจอกม.คุมเข้มบัตรเครดิต สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด โอดลำบากหนักจากข้อบังคับดอกเบี้ยบัตรไม่เกิน 18% เหตุต้นทุนสูง ด้านไทยทนุไม่หวั่นแจงเดินตามกฎ รวมทั้งไม่เน้นสินเชื่อบัตรเครดิต ขณะที่บริษัทบัตรกรุงไทยเล็งเริ่มสินเชื่อบุคคลต้นปีหน้า

แหล่งข่าวจากธนาคารไทยทนุ(DTDB)เปิดเผยว่า ธนาคารคงไม่ได้รับผลกระทบจากการออกกฎกระทรวงการคลังเพื่อมาควบคุมบัตรเครดิต เนื่องจากปัจจุบันธนาคารดำเนินการตามกฎระเบียบ ทุกอย่าง อีกทั้งธนาคารไม่ได้เน้นการขยายบัตรเครดิตแต่ให้ความสำคัญกับการขยายสินเชื่อบุคคล ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้ระบบธนาคารพาณิชย์ทั้งธนา- คารพาณิชย์ไทยและธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศจะมีการแข่งขันของสินเชื่อบุคคลอย่างรุนแรง เพราะผลกระทบจากข้อกำหนดในเรื่องบัตรเดรดิต

"ที่ผ่านมาธนาคารไทยทนุไม่ได้เข้าไปเล่นเรื่อง บัตรเครดิตเหมือนธนาคารอื่นจึงไม่ได้รับผลกระทบจากกฎเกณฑ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งปัจจุบันธนาคารก็คิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 18% และคุณสมบัติผู้มีบัตรยัง อยู่ที่ 1.5 หมื่นบาท แต่เป็นห่วงเรื่องสินเชื่อบุคคลจะมีคนเข้ามาแข่งขันสูง โดยเฉพาะธนาคารต่างประเทศที่คิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตสูงจะต้องปรับตัวเองโดยเน้นสินเชื่อบุคคลมากขึ้น"

ทั้งนี้การที่ธนาคารพาณิชย์จะหันมาหารายได้จากสินเชื่อบุคคลมากขึ้น เนื่องจากยังไม่มีข้อกำหนด เรื่องอัตราดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ตามหากมีการแข่งขันสูงผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นคือลูกค้าผู้ขอสินเชื่อ เพราะทุกธนาคารจะต้องลดดอกเบี้ยเพื่อดึงดูดลูกค้า

แหล่งข่าวจากธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด นครธน(SCNB)กล่าวว่า ธนาคารได้รับผลกระทบจาก การกำหนดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตไว้ไม่เกิน 18% เนื่องจากปัจจุบันธนาคารคิดดอกเบี้ยสูงกว่าระดับดังกล่าว เพราะมีต้นทุนการดำเนินธุรกิจที่สูง

อย่างไรก็ตาม ธนาคารคงต้องปรับตัวในการดำเนินธุรกิจโดยลดงบประมาณด้านกิจกรรมที่จะตอบแทนลูกค้าบัตร รวมทั้งลดการขยายฐานบัตรเครดิตลง และจะให้ความสำคัญกับสินเชื่อบุคคลมากขึ้น ซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าเพราะยังไม่มีการตีกรอบดอกเบี้ย

"หากมีการประกาศใช้ข้อบังคับการคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิตไม่ให้เกิน 18% ธนาคารจะได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะปัจจุบันดอกเบี้ยของธนาคารอยู่ในระดับ 20 กว่า% ซึ่งการคิดดอกเบี้ยที่สูงเนื่องจาก ธนาคารมีต้นทุนการดำเนินธุรกิจมากมีข้อด้อยเรื่องสาขาจึงต้องจ้างพนักงานขายมาก อีกทั้งมีผลตอบ แทนด้านกิจกรรมการตลาดให้กับลูกค้ามาก ซึ่งต่อไป นี้คงต้องลดกิจกรรมตอบแทนลูกค้าลงเพื่อให้เหมาะสมกับต้นทุน"

นายนิวัตติ์ จิตตาลาน กรรมการผู้จัดการ บริษัทบัตรกรุงไทย(KTC) กล่าวว่า บริษัทได้ยกเลิกการอนุมัติบัตรเครดิตสำหรับลูกค้าที่มีเกณฑ์รายได้ต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาทลงทันทีตั้งแต่วันที่ทางการประกาศกฎข้อบังคับออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี(7 พ.ย.)

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ ทางการเงินให้เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.5 หมื่นบาท โดยในปีหน้าจะออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ส่วนบุคคลแบบเฉพาะเจาะจง เช่น สินเชื่อสำหรับการศึกษา สามารถกู้ยืมภายในระยะเวลา 3 เดือน เนื่องจากบริษัทมีฐานข้อมูลลูกค้ากลุ่มรายได้ดังกล่าว อยู่และประเมินแล้วว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่พอจะรับได้

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us