Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน6 พฤศจิกายน 2545
ซีพีขายทิ้งเทสโก้โลตัส-แม็คโคร สยบข่าวอุ้มยักษ์ค้าปลีก             
 


   
search resources

ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น, บมจ.
เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม, บจก.
สยามแม็คโคร, บมจ.




เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ สยบข่าวอุ้มค้าปลีกข้าม ชาติ ขายทิ้งหุ้นเทสโก้โลตัส และแม็คโคร เหลือเพียงเซเว่นอีเลฟเว่น เท่านั้น พร้อมเดินหน้าขยายสาขาโลตัสในจีนเพิ่ม ด้านก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ยันไม่เคยเอาเปรียบทางการค้าด้วยการเก็บค่าสินค้าแรกเข้า ที่ผ่านมาเรียกเก็บเพียงค่าใช้จ่ายในการนำสินค้าเข้าแทรก ในชั้นวางสินค้าเท่านั้น

นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากกรณีที่นาย ธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานเครือซีพี ได้ให้ความเห็นกรณีการกีดกันทางการค้ากับบริษัทค้าปลีกข้ามชาติ ว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ประเทศไทยต้องเสียภาพลักษณ์ในการชักชวนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งอยากให้สื่อมวลชน รัฐบาล รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องในวงการค้าปลีกได้หันมาพิจารณาถึงผลประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการขยายธุรกิจของยักษ์ค้าปลีกข้ามชาติดูบ้าง ซึ่งการให้ความเห็นในครั้งนี้ส่งผลให้หลายฝ่ายมองว่า นายธนินท์ เข้า ข้างบริษัทค้าปลีกข้ามชาติ และออกมาพูดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ทางธุรกิจ เพราะมีหุ้นอยู่ในเทสโก้ โลตัส และแม็คโคร ซึ่งกำลังถูกเป็นเป้าโจมตีจากวงการค้าปลีกในปัจจุบัน

ทั้งนี้ นายก่อศักดิ์ ได้เสนอไปยังนายธนินท์ เพื่อให้ขายหุ้นในส่วนที่เหลืออยู่ในเทสโก้ โลตัสและแม็คโครออกไป เนื่อง จากปัจจุบันมีหุ้นอยู่ใน 2 กลุ่มธุรกิจนี้ไม่มาก และการมีหุ้นอยู่ทำให้ถูกมองว่าการออกมา แสดงความเห็นในแต่ละครั้ง เพื่อปกป้องผล ประโยชน์ทางธุรกิจ ซึ่งแท้จริงแล้วต้อง การให้ความเห็นในภาพรวมที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศมากกว่า

ขายหุ้นเทสโก้โลตัส ที่เหลืออยู่ไม่ถึง 1%

นายก่อศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มซีพี มีหุ้นอยู่ในบริษัท เอกชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเต็ม จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของเทสโก้ โลตัส ไม่ถึง 1% โดยเมื่อปี 2540 ซึ่งเป็นปีที่กลุ่มเทสโก้ เข้ามาซื้อกิจการโลตัสต่อจากกลุ่มซีพี ทางซีพีได้ขายหุ้นให้เทสโก้ไป 75% ส่วนในสัดส่วนที่เหลืออยู่ เป็นของเซเว่นอีเลฟเว่นประมาณ 10% และอีก 15% เป็นของบริษัทในเครือซีพี

หลังจากนั้นบริษัทในเครือซีพีรวมทั้งเซเว่นฯ ก็ได้ทยอยขายหุ้นที่เหลือยู่ในบริษัทเอกชัยฯ ออกไป จนล่าสุดมีเพียง เซเว่นฯที่เหลือหุ้นอยู่ไม่ถึง 1% คาดว่าน่าจะมีมูลค่าไม่ถึง 300 ล้านบาท ซึ่งภายใน 2 เดือนนี้จะขายหุ้นออกไปทั้งหมด เพื่อไม่ให้ ซีพีมีหุ้นอยู่ในเทสโก้ โลตัสอีก

นอกจากนี้ ทางซีพี ยังเตรียมจะขายหุ้นในบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์ค้าส่งแม็คโคร โดยปัจจุบันกลุ่มซีพี โดยบริษัท ซีพีเอฟ อินเวสเม้นท์ จำกัด ถือหุ้นอยู่ในสยามแม็คโคร 13.44% มีจำนวนหุ้น 23,250,062 หุ้น ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับสอง รองจากบริษัท สยาม แม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ที่ถือหุ้นอยู่ 47.45%

นายก่อศักดิ์ กล่าวว่า การตัดสินใจขายหุ้น แม็คโครออกไปในครั้งนี้ เนื่องจากธุรกิจของแม็คโครในต่างประเทศ ได้ขายให้แก่กลุ่มเมโทร ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรของแม็คโคร ที่ถือหุ้นไขว้กันในหลายธุรกิจ ส่วนธุรกิจของแม็คโคร ในเอเชียนั้นยังไม่มีการขายให้แก่กลุ่มเมโทร หากแม็คโครเอเชีย ซึ่งเป็นผู้ดูแลธุรกิจของห้างแม็คโครในเอเชียทั้งหมดต้องการจะขายหุ้นออก ไป ทางกลุ่มซีพีก็จะขายหุ้นในส่วนที่เหลืออยู่ออกไปด้วย

"สมัยก่อนซีพีมีหุ้นในแม็คโคร 30% แต่ก็ทยอยขายออกไปบ้างแล้ว และผมเคยเจรจาเพื่อ ขอซื้อหุ้นแม็คโครในเมืองไทยมาเป็นของกลุ่มซีพีทั้งหมด แต่การเจรจาไม่บรรลุข้อตกลงเนื่อง จากแม็คโครเอเชียต้องการขายทั้งแพกเกจ คือ ขายกิจการแม็คโครในเอเชียทั้งหมด ซึ่งทางกลุ่ม ซีพี ไม่ต้องการที่จะซื้อกิจการในประเทศอื่นๆ"

ดังนั้น ทำให้หลังจากที่ซีพีขายหุ้นใน 2 ธุรกิจนี้ออกไปแล้วก็จะเหลือธุรกิจค้าปลีกในไทย เพียงอย่างเดียว คือ ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งเป็น ธุรกิจที่ทำกำไรให้แก่กลุ่มซีพี โดยมีแผนจะขยาย สาขาเพิ่มในปี 2546 อีกวันละ 1 สาขา หรือ ประมาณ 300 สาขาทั่วประเทศ โดยในสิ้นปีนี้ เซเว่นฯจะมีสาขากว่า 2,100 สาขา มีรายได้ 24,000 ล้านบาท และในสิ้นปี 2546 จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 2,400 สาขา และคาดว่าจะมีรายได้ 30,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้หลายปี ซีพี เคยมีธุรกิจ ซูเปอร์มาร์เก็ตในชื่อซันนี่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5-6 สาขา แต่ได้ทยอยปิดกิจการไป เกือบหมดแล้ว และเหลืออยู่เพียง 1 สาขาในต่างจังหวัด

"การตัดสินใจขายหุ้นของเทสโก้ โลตัสและแม็คโคร เพื่อให้ภาพลักษณ์ของท่านประธานธนินทร์ สามารถให้ความเห็นเรื่องค้าปลีก ได้อย่างมีจุดยืน โดยไม่ต้องถูกมองจากสายตาของคนทั่วไปว่าพูดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง และขอยืนยันว่าไม่ได้ขายเพราะช็อตเงินแต่อย่างใด ทุกวันนี้ฐานะทางการเงินของซีพียังแข็งแรง แต่ขายเพื่อนำเงินที่ได้ไปลงทุนในธุรกิจ อื่นๆที่จำเป็นมากกว่า" นายก่อศักดิ์ กล่าว

เดินหน้าขยายโลตัส-เซเว่นฯในจีน

นายก่อศักดิ์ กล่าวว่า นโยบายของนายธนินทร์ ประธานเครือซีพี ต้องการขยายธุรกิจค้า ปลีกในประเทศจีนเป็นหลัก คือ โลตัส ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ซึ่งซีพีเข้าไปขยายสาขาเมื่อประมาณ 5-6 ปีที่ผ่านมา จนปัจจุบันมีสาขา 11 แห่ง ที่เซี่ยงไฮ้ และหางโจว ส่วนในปีหน้าทางรัฐบาลจีนได้ให้ ไลเซ่นในการขยายสาขาเพิ่มอีก 6-7 สาขา ในเมือง หนานจิง ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลเจียงซู และในมณฑลเจ้อจิง ซึ่งแต่ละมณฑลมีประชากรประมาณ 40 ล้านบาท ทั้งนี้กลุ่มซีพีสามารถขยายสาขาในมณฑลทั้งสองนี้ในเมืองใดก็ได้ สำหรับการขยายสาขาของโลตัส ในจีน จะมีพื้นที่ตั้งแต่ 8,000 ตารางเมตร จนถึง 16,000 ตารางเมตร ซึ่งในบางสาขาจะเพิ่มพื้นที่ร้านค้าย่อย ให้เหมือนกับในเมืองไทยด้วย โดยการขยายสาขา แต่ละแห่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 300-400 ล้านบาท

ต่อข้อถามที่ว่าทางกลุ่มเทสโก้สนใจจะซื้อกิจการ"โลตัส"ของกลุ่มซีพีในจีนด้วยหรือไม่ นาย ก่อศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มเทสโก้ ไม่สนใจเนื่องจากทางการของจีนควบคุมเรื่องไลเซ่นในการขยายสาขา ที่จะต้องรักษาสมดุลทางธุรกิจให้แก่กลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซีพี คาร์ฟูร์ วอลล์มาร์ท หรือกลุ่มอื่นๆ แต่หากเทสโก้ สนใจที่จะเข้าไปขยายธุรกิจในจีนเอง ก็ไม่สามารถใช้ชื่อของโลตัสได้ เนื่องจากเป็นลิขสิทธิ์ของกลุ่มซีพี

นอกจากนี้ทางกลุ่มซีพี ยังเตรียมจะขยายธุรกิจร้านเซเว่นฯในจีนอีกด้วย ซึ่งทางบริษัทแม่ของเซเว่นฯในสหรัฐได้ให้ไลเซ่นการขยายธุรกิจเซเว่นฯแก่กลุ่มญี่ปุ่น ในเมืองปักกิ่งไปแล้ว ส่วน ของกลุ่มซีพี กำลังรอการอนุมัติจากบริษัทแม่ว่า จะให้ไลเซ่นในการขยายสาขาที่เมืองใดต่อไป เซเว่นฯไม่มีปัญหาค้าปลีก

นายก่อศักดิ์ ได้กล่าวถึงปัญหาค้าปลีก ที่ ทางกระทรวงพาณิชย์ กำลังพิจารณาถึง 4 ยักษ์ค้าปลีกข้ามชาติว่าทำการค้าไม่เป็นธรรมนั้น ตนไม่อยากให้สื่อมวลชนเอาเซเว่นฯเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

"ตลอดเวลาของการพูดถึงปัญหาค้าปลีก เซเว่นฯมักถูกพลอยฟ้าพลอยฝน ทั้งๆที่ไม่มีซัปพลายเออร์ของเซเว่นฯรายใดร้องเรียนไปที่กระทรวงพาณิชย์เลย ทุกคนอยากค้าขายกับเซเว่นฯ พอถึงสิ้นปีเรามีกำไร ซัปพลายเออร์ก็มีกำไร ยิ่งเรากำไรมากซัปพลายเออร์ก็กำไรมากไปด้วย ดังนั้น จึงไม่มีใครคิดว่าเราจะเอาเปรียบซัปพลายเออร์"

นายก่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า จุดยืนของร้าน เซเว่นฯ ไม่เคยขายสินค้าแข่งกับใคร โดยเฉพาะไม่ เคยขายสินค้าตัดราคา สินค้าในร้านขาย เต็มราคา และอาจแพงกว่าที่อื่นๆด้วยซ้ำ แต่เราให้บริการถึงหน้าบ้านและตลอด 24 ชั่วโมง แต่กลับถูกมองว่ากำลังจะทำลายร้านโชวห่วย ซึ่งที่จริงกฎหมายก็ไม่ได้ปิดกั้นห้ามไม่ให้โชวห่วยเปิด 24 ชั่วโมง แต่ก็ไม่มีใครเปิดขายกันเอง

นอกจากนี้อยากให้หันมาพิจารณาถึงร้านก๋วยเตี๋ยวรถเข็นที่ขายอยู่หน้าร้านเซเว่นฯด้วยว่า ทุกวันนี้คนกลุ่มหนึ่งมีรายได้จากการอาศัยหน้าร้านเซเว่นฯ ขายอาหารตอนดึก หากให้เซเว่นฯปิด ร้านตอนกลางคืน คนกลุ่มนี้ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย และกลุ่มที่จะได้รับความเดือดร้อนก็คือ คนที่ทำงานตอนกลางคืน จะหาซื้อสินค้าหรืออาหารจากไหนได้

ไม่เคยเรียกเก็บค่าแรกเข้า

นายก่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับที่พูดกันถึง เรื่องการเรียกเก็บค่าสินค้าแรกเข้า หรือ ค่า Entrance Fee นั้น ที่ผ่านมาเซเว่นฯไม่เคยเรียกเก็บ จากซัปพลายเออร์ แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการนำสินค้าเข้าแทรกในชั้นวางสินค้า (Sloting Fee) ซึ่ง ต้องมีกระบวนการตั้งแต่การจัดพื้นที่ชั้นวางสินค้า ใหม่หมดกว่า 2,000 สาขา การจัด Lay Out ในศูนย์กระจายสินค้าใหม่การเปลี่ยนแปลงระบบข้อมูลการตลาดทั้งหมด รวมถึงการเก็บคืน สินค้าที่ถูกทดแทนจากทุกร้านสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ ซัปพลายเออร์จะได้รับประโยชน์จากการกระจายสินค้าไปถึงมือผู้บริโภคอย่างทั่วถึง โดยผ่านเครือข่ายร้านเซเว่นฯกว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งดีกว่าการทุ่มทุนโฆษณา และที่สำคัญเซเว่นฯไม่เคยเอาส่วนลดที่ได้จากซัปพลาย เออร์ไปลดราคาสินค้าเพื่อขายแข่งกับโชวห่วย

"การเก็บค่านำสินค้าเข้าแทรกในชั้น เราทำมาตั้งแต่แรกแล้ว และเป็นเงื่อนไขเดียวกันทั่วโลก แต่ว่าซัปพลายเออร์แต่ละรายจะเสียไม่เท่ากับขึ้น อยู่กับประเภทของสินค้า และจำนวนสาขาที่วางจำหน่าย ซึ่งผมอยากจะย้ำว่าการเรียกเก็บค่าอะไรก็ตาม มันมีเหตุผลที่สามารถตรวจสอบได้ ไม่ใช่เงินกินเปล่าหรือแป๊ะเจี๊ยะที่ทุกคนรังเกียจเก็บโดยที่ซัปพลายเออร์ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย"

ส่วนเปอร์เซ็นต์จากยอดขายนั้น เป็นสิ่งที่ซัปพลายเออร์เป็นผู้ตั้งเป้ายอดขายให้แก่เซเว่นฯ โดยหากขายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดก็จะแบ่งเปอร์เซ็นต์จากการขายให้ ซึ่งก็มีซัปพลายเออร์ไม่กี่รายที่ให้เงินในส่วนนี้

"ในความเห็นของผม รัฐบาลไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ให้เซเว่นฯเรียกเก็บค่าใช้จ่ายในการนำสินค้าเข้าแทรกในชั้นวางสินค้า ซึ่งจริงๆแล้วมันก็คือค่าใช้จ่ายในการขนสินค้าออกจากร้านนั้นเอง เนื่องจากมันมีค่าใช้จ่ายและเป็นความพอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย

ถูกขอร้องให้บริการงานลูกเสือโลก

สำหรับการจัดงานวันลูกเสือโลก ที่จะมีขึ้น ในวันที่ 28 ธ.ค.นี้ โดยจะมีลูกเสือจากประเทศต่างๆ รวมทั้งผู้ปกครองเข้าร่วมงานประมาณ 20,000 คน โดยที่ผ่านมาเซเว่นฯได้รับการติดต่อ จากตัวแทนของทางราชการ เพื่อให้เซเว่นฯจ่ายค่า สิทธิประโยชน์ เพื่อแลกกับการเข้าไปเปิดร้านเซเว่นฯ ขายสินค้าให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งเซเว่นฯได้ ปฏิเสธมาแล้ว 2 ครั้ง

แต่ในปีนี้ ทางซีพี ได้รับการร้องขอจากรัฐบาล ให้เซเว่นฯเข้าไปเปิดให้บริการเนื่องจากไม่ สามารถหารายอื่นเข้ามาให้บริการได้ทัน ซึ่งบริษัท ก็ยินดีแม้รู้ว่าจะต้องขาดทุนจากงานนี้ก็ตาม

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us