Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์13 ตุลาคม 2548
ฝรั่งส่งซิกเทขายก่อนหยุดยาว โอกาสรายย่อยช้อนเก็บตุนหุ้น             
 


   
search resources

ศุภกร สุนทรกิจ
Stock Exchange




ถึงเวลาแต่งพอร์ตลงทุนใหม่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเทศกาลหยุดยาวมาเยือน "โหรหุ้นไทย" ทำนายเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับฐานอ่อนตัวลง เหมาะแก่การฉวยจังหวะเข้าเก็บหุ้นตุนไว้ยาวถึงปีหน้า มองตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยดี พีอีต่ำ แม้ดัชนีช่วงนี้จะแกว่งตัว แต่ปีนี้ก็ยังวิ่งต่อ ซึ่งเป็นแรงดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติไม่ขนเงินหนีในปลายปีนี้

นักวิเคราะห์มองว่าเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่นักลงทุนต่างชาติมีการจัดพอร์ตใหม่ หลังจากที่ระดมเก็บหุ้นมาตั้งแต่ต้นปี โดยตั้งแต่ มกราคม- 30 กันยายน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 119,000 ล้านบาทแล้ว และก่อนเทศกาลหยุดยาวจึงมีการขายเพื่อปรับพอร์ตทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์มีการแกว่งตัว เป็นจังหวะที่เหมาะสมในการเข้าซื้อหุ้นเก็บไว้

ศุภกร สุนทรกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี แนะกลยุทธ์การเลือกลงทุนเริ่มจากมองเป็นกลุ่มธุรกิจว่าในภาวะเช่นนี้กลุ่มธุรกิจไหนมีโอกาสเติบโต และกลุ่มธุรกิจไหนที่ได้รับผลกระทบ ก่อนจะลงลึกเลือกเป็นรายตัวซึ่งหมายถึงตัวที่มีพื้นฐานแกร่ง และมีราคาเหมาะสม

ในสถานการณ์นี้มองอนาคตและเห็นว่ากลุ่มธนาคารเริ่มจะกลับเข้ามาอีกครั้ง เป็นกลุ่มที่น่าสนใจเพราะมองถึงแนวโน้มปีหน้าที่โครงการเมกะโปรเจกต์ของภาครัฐจะเริ่มลงทุน จะเป็นแรงผลักให้เกิดการลงทุนในภาคเอกชนด้วยเช่นกัน นั่นหมายถึงธนาคารจะมีการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น นอกจากนี้ก็ให้มองกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอย่างกลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มพลังงาน กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

ดังนั้น การปรับพอร์ตการลงทุนช่วงนี้น่าจะมีความเหมาะสม เพราะเป็นช่วงที่นักลงทุนต่างชาติขายทำกำไรระยะสั้นเพื่อปรับพอร์ตกลุ่มการลงทุนทำให้ดัชนีแกว่งตัวจึงไม่ใช่สัญญาณการถอนเงินออกจากตลาดหุ้น ซึ่งถ้ามองถึงการลงทุนในตลาดหุ้นไทยแล้วความน่าสนใจยังมีอยู่ เนื่องจากราคายังไม่สูง โดยมีระดับราคาหุ้นเมื่อเทียบกับกำไร (พี/อี) ไม่ถึง 9 เท่า อีกทั้งกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโตแม้แนวโน้มจะชะลอตัวก็ตาม แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ให้ผลตอบแทนที่ดี และปีหน้าหน้ากำไรของบริษัทจดทะเบียนยังเติบโต 13%

นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญการลงทุน บอกว่า เนื่องจากพีอีตลาดหุ้นของไทยยังอยู่ในระดับต่ำถ้าซื้อหุ้นในจังหวะนี้และถือไว้ยาวโอกาสพลาดก็มีน้อย เพราะอย่างไรตามหลักแล้วถ้าราคาต่ำก็ต้องไล่ขึ้นไป แต่ถ้าซื้อตอนราคาสูงแนวโน้มขึ้นต่อก็อาจจะยาก และในตอนนี้พี/อีของไทยก็อยู่ที่ประมาณ 9 เท่า ในขณะที่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11 เท่า ดังนั้นแนวโน้มก็น่าจะขึ้นมากกว่าลง

สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นสิ่งที่เป็นแรงดึงดูดนอกจากพี/อีที่ต่ำก็คือกำไรบริษัทจดทะเบียน แต่เนื่องจากปีหน้าคาดกันว่าแนวโน้มกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนจะชะลอตัวลงซึ่งทำให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนไม่สูงมากนัก แต่ นิเวศน์ ก็บอกว่า โดยส่วนตัวที่ยังลงทุนอยู่ได้นั้นส่วนหนึ่งก็มากจาก พี/อี ที่ยังต่ำ เลือกหุ้นที่พื้นฐานดีและถือไว้ยาวซึ่งจะทำให้ผิดพลาดยาก

โดยภาพรวมแล้วโหรหุ้นส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นในสภาพตลาดหุ้นไทยว่ายังมีแรงดึงดูดที่น่าสนใจเข้ามาลงทุน และยังมีเหตุผลที่สมควรให้นักลงทุนต่างชาติยังไม่ทิ้งตลาดหุ้นไทย แต่กระนั้นก็ตามแนวโน้มของตลาดหุ้นไทยต่อไปคงพึ่งเม็ดเงินจากต่างชาติดันตลาดหุ้นไทยให้ขึ้นสูงนั้นคงทำได้ยากขึ้น ไพบูลย์ นลินทรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บล.ทิสโก้ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เนื่องจากที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยในสัดส่วนที่สูงแล้ว ประมาณ 32% ของมูลค่าตลาดรวม (มาร์เก็ตแคป) เพราะฉะนั้นถ้าตลาดหุ้นจะมีแรงขับได้ก็น่าจะมาจากเม็ดเงินในประเทศมากกว่า

อาจกล่าวได้ว่าแม้กำไรของบริษัทจดทะเบียนจะไม่สูงเหมือนปีก่อน ๆ ที่ผ่านมา แต่โดยรวมแล้วตลาดหุ้นไทยก็ยังไม่ไร้เสน่ห์จนต้องเมิน และนักลงทุนต่างชาติก็เห็นถึงข้อนี้ ทำให้เชื่อว่าสิ้นปีเม็ดเงินลงทุนต่างชาติก็ยังคงอยู่ในไทย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us