Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายสัปดาห์13 ตุลาคม 2548
Product Design นวัตกรรมผ่าทางตันตลาดสบู่ก้อน             
 


   
www resources

โฮมเพจ ยูนิลีเวอร์

   
search resources

ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง, บจก.
Personal cares




แม้ว่าภาพรวมของตลาดสบู่ก้อนจะเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 4,800 ล้านบาท ที่แบ่งเป็น ตลาดสบู่ก้อนสูงถึง 3,200 ล้านบาท ขณะที่ตลาดสบู่เหลวมีมูลค่าเพียง 1,600 ล้านบาท ส่งผลให้สบู่ก้อนยังเป็นตลาดที่ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ทว่า ข้อจำกัดด้านนวัตกรรมที่พัฒนาได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับสบู่เหลว ทำให้ตลาดสบู่ก้อนมีอัตราการเติบโตลดลง คงที่ และเข้าสู่ภาะวะหดตัวลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่สบู่เหลวมีการเติบโตสูงถึง 17% แม้ว่าผู้ประกอบการทั้ค่ายเล็ก ค่ายใหญ่จะพยายามกระตุ้นตลาดสบู่ก้อน ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ โดยเฉพาะการลด แลก แจก แถม ซึ่งในเชิงปริมาณ แน่นอนว่ามีอัตราเพิ่มขึ้น แต่หากวัดในเชิงมูลค่าอัตราการเติบโตย่อมลดลง

ในยุคที่พฤติกรรม และความต้องการของผู้บริโภคเป็นใหญ่ ทำให้ สินค้าที่ผลิตขึ้นจะต้องสอดคล้องไลฟ์สไตล์และตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคได้มากที่สุด ซึ่งจากการสำรวจ ผู้ใช้สบู่เหลว พบว่า ต้องการความสะดวก และนวัตกรรมใหม่ๆที่คาดว่าจะได้รับจากตัวสินค้า เช่น ผิวขาว ผิวกระชับ การทำสปาผิว ดังนั้น อาจเป็นไปได้ว่า นวัตกรรมจะเป็นกุญแจหลักในการผลักดันให้ตลาดมีการเติบโตเพิ่มขึ้น เช่น ค่ายจอห์นสันฯ เปิดตัวสบู่ก้อนที่มีส่วนผสมของมิลค์โปรตีน เพื่อขยายฐานผู้บริโภคจากกลุ่มเด็กไปสู่เซ็กเม้นต์สบู่เพื่อผิวงาม โดยชูจุดขายเรื่องผิวเนียนนุ่มเหมือนเด็ก หรือค่ายคอลเกต - ปาล์มโอลีฟ ที่เปิดตัวสูตรซันแคร์ ป้องกันแสงแดด และล่าสุดเปิดตัวสูตรดีโอ 12 สบู่ระงับกลิ่นกาย ซึ่งทำให้สบู่ก้อนของโพรเทคส์มีการเติบโต 3%

"การที่สบู่ก้อนกลับมาโตอีกครั้ง หลังจากที่หดตัวนานกว่า 3 ปี เพราะลักส์และโพรเทคส์ออกมากระตุ้นตลาด ทั้งออกนวัตกรรมใหม่ และการจัดกิจกรรมการตลาด" เป็นคำกล่าวของ นายมูกูล ดิออรัส ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสบู่ "โพรเทคส์"

สำหรับ นวัตกรรมของสบู่ ส่วนใหญ่จะมีให้เห็นในสบู่เหลวเป็นหลัก เนื่องจากการผสมสูตรเพื่อให้เกิดคุณสมบัติต่างๆทำได้ง่ายและสะดวกกว่า ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคขณะใช้ที่รู้สึกว่าความซึมซาบเข้าสู่ผิวย่อมมีมากกว่าสบู่ชนิดก้อน จึงอาจเป็นส่วนหนึ่งทำให้นวัตกรรมของสบู่เหลวได้การตอบรับมากกว่าสบู่ก้อน ที่ผ่านมาลูกเล่นด้านนวัตกรรมของสบู่ก้อนจึงไม่โดดเด่นมากนัก แม้ว่าจะมีการนำเสนอคุณสมบัติเช่นเดียวกับสบู่เหลว หรือออกนวัตรรมเปิดเซกเม้นต์ใหม่ก็ตาม เช่น ค่ายดอกบัวคู่ ที่เปิดตัว สบู่สูตรสมุนไพรที่ไม่เคยมีมาก่อนในไทย ภายใต้ชื่อ"MWNS SPORTS SOAP"(เอ็ม ดับเบิลยู เอ็น เอส สปอร์ต โซป) เพื่อเจาะกลุ่มนักกีฬา หรือผู้ที่ออกกำลังกาย และผู้ที่เสียเหงื่อเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ได้การตอบรับจากผู้บริโภคมากนัก ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า ราคาที่ค่อนข้างสูง และการทำตลาดที่ยังไม่สามารถทำให้ผู้บริโภคเห็นความแตกต่างของสบู่เพื่อคนเล่นกีฬากับสบู่ทั่วไปยังเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย

ดังนั้น การใส่นวัตกรรมในสบู่ก้อนจึงต้องสร้างความโดดเด่นและความแตกต่างให้ผู้บริโภคสามารถเห็นหรือสัมผัสได้ นอกเหนือจากการขายความคาดหวังด้านความรู้สึกเพียงอย่างเดียว ซึ่งสิ่งที่สามารถนำมาเป็นจุดขายและสามารถจับต้องได้ คือ ตัวก้อนสบู่

อันที่จริง ตัวสบู่ หรือ รูปลักษณ์ของสบู่ก้อนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นวงรีซึ่งเป็นความเคยชินของผู้บริโภค โดยรูปแบบดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อความเหมาะในการจับและกระชับมือ ที่ต่อมามีการพัฒนาดีไซน์ในรูปแบบต่างๆ เช่น ทรงสี่เหลี่ยม ที่อาจให้ความรู้สึกในเรื่องปริมาณ หรือทรงกลมที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่ในเรื่องรูปแบบของก้อนสบู่ แต่ยังไม่เคยมีใครหยิบเรื่องรูปทรงมาเกี่ยวโยงเป็นนวัตกรรมอย่างจริงจัง นอกจากการพัฒนาในด้านเนื้อผิวของสบู่ เช่น สบู่เปลือกมังคุด ที่มีการนำเปลือกมังคุดมาเป็นส่วนผสม ทำให้ผิวเนื้อสบู่ไม่เรียบเนียนเหมือนสบู่ทั่วไป ซึ่งอาจตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่รู้สึกว่าผิวสะอาด ชำระคราบเหงื่อไคลได้มากขึ้น หรือแบรนด์เบลล่า ดีน่า ที่ผลิตสบู่ผสมใยบวบในเนื้อสบู่สำหรับถูและขัดผิวในก้อนเดียวกัน ซึ่งทำได้แค่เพียงสร้างสีสันให้กับตลาดสบู่ก้อนเพียงชั่วคราวเท่านั้น

ล่าสุด ค่ายยักษ์อย่างยูนิลีเวอร์ พลิกโฉมตลาดสบู่ก้อนใหม่ ด้วยการเปิดตัวสูตร "เฟิร์มมิ่ง มาซซาจ" ในไทยเป็นแห่งที่ 2 ของโลกต่อจากบราซิล หลังจากทำการรีล้อนซ์สบู่ก้อนลักส์ครั้งใหญ่ทั่วโลก ด้วยการปรับโฉม สูตรของสบู่ และบรรจุภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด เมื่อมีนาคม 2548ที่ผ่านมา ส่งผลให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของลักส์ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 27% จากเดิม 26% และตลาดสบู่ก้อนเติบโตขึ้น 3% หลังจากที่ตลาดดังกล่าวหดตัวมากว่า 3 ปี

"ลักส์ เฟิร์มมิ่ง มาซซาจ" ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุด ที่นำเรื่องดีไซน์ของก้อนสบู่มาเป็นจุดขายครั้งแรก ด้วยการออกแบบเป็นสบู่ก้อนแบบมีปุ่มนวด ที่ให้คุณสมบัติในการกระชับผิว ซึ่งตรงกับแนวโน้มความต้องการของตลาด เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กระชับผิว ที่มีสบู่เหลวของ "บีไนซ์" เป็นผู้นำร่องจุดขายดังกล่าว ซึ่งการเปิดตัวครั้งนี้ลักส์จะเน้นเจาะกลุ่มคนเมืองอายุ 18 - 35 ปี ที่ชอบการบริหารผิวให้กระชับ จากเดิมที่เน้นกลุ่มอายุ 26 - 45 ปี ซึ่งตรงกับนโยบายของยูนิลีเวอร์ที่ต้องการปรับภาพลักษ์ให้แบรนด์ลักส์มีความทันสมัย เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น เห็นได้จากการเลือกพรีเซ็นเตอร์ของลักส์ในช่วงที่ผ่านมา เช่น อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ในการเปิดตัวสบู่ก้อนลักส์โฉมใหม่ ภายใต้แนวคิด "เสน่ห์...เกินยั้งใจ ทุกสัมผัส" ล่าสุด เปิดตัวนำ "แคท - แคทลียา อิงลิช" เป็นพรีเซ็นเตอร์สูตรเฟิร์มมิ่ง มาซซาจ ซึ่งมีอายุน้อยลงสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้หญิงวัยรุ่นได้มากกว่า จากเดิมที่จะเป็นหมิว - ลลิตา หรือ มาช่า วัฒนพานิช

สำหรับ การรุกตลาดของลักส์ครั้งนี้ นอกจากการรักษาและตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดสบู่ก้อนแล้ว ยูนิลีเวอร์ยังคาดว่า ลักส์ เฟิร์มมิ่ง มาซซาจ จะส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของสบู่ก้อน ลักส์ที่มี 27% ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอีก 1-2% จากตลาดสบู่โดยรวมมูลค่า 4,800 ล้านบาท ที่เป็นสบู่ก้อนมูลค่า 3,200 ล้านบาท รองลงมา คือ โพรเทคส์ 11 % ทั้งนี้ตลาดสบู่ก้อน แบ่งเป็น สบู่ธรรมดา 51% สบู่สุขภาพ 40% และสบู่เด็ก อีก 9% อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมคงไม่ใช่เพียงอย่างเดียวที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ แต่ต้องประกอบด้วยกลยุทธ์อื่น ไม่ว่าจะเป็น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การจัดแคมเปญสื่อสารกับผู้บริโภค รวมถึงกลยุทธ์ด้านราคา ทั้งนี้คงต้องจับตามองกันต่อไปว่า ดีไซน์ของก้อนสบู่จะสามารถนำมาพัฒนาเป็นนวัตกรรมใดได้อีกต่อไป หรือผู้ประกอบการจะจับพฤติกรรมของผู้บริโภคด้านใด มาตั้งเป็นโจทย์เพื่อพัฒนานวัตกรรมสบู่ก้อนให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในลำดับถัดไป   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us