|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คุณหญิงชฎา ชี้แบงก์ชาติต้องขึ้นดอกเบี้ยอาร์/พี สูงกว่า 0.25% หากต้องการให้แบงก์พาณิชย์ขยับดอกเบี้ยอีกระลอก ขณะที่ 3 แบงก์ ทยอย ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ "นครหลวงไทย" ประกาศขึ้น ทั้งเงินฝากและเงินกู้อีก 0.25% ส่วนธนาคารกรุงศรีอยุธยา ปรับดอกเบี้ยฝากประจำ อย่างเดียว มีผลตั้งแต่วันนี้ ขณะที่ "ธนชาต" ขยับฝากประจำตั้งแต่ 3 เดือนถึง 36 เดือน ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับตัวขึ้นสูงสุดในระบบธนาคารพาณิชย์
หลังจากที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาส่งสัญญาณอย่างชัดเจนว่า ในการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 19 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ธปท.จะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรซื้อคืนระยะ 14 วัน (อาร์/พี) อีก โดยจะพิจารณาจากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังกล่าวยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับขึ้น 0.25% หรือ 0.50%
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB กล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ ว่า ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าธนาคารจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากอีก 0.25% เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อใดนั้นจะต้อง รอดูผลกระทบจากการปรับดอกเบี้ยครั้งนี้ก่อน รวมถึงแนวโน้มการส่งสัญญาณอัตราดอกเบี้ยของธปท.
"ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่อัตราดอกเบี้ย ต่ำสุด และมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราดอกเบี้ยคงต้องปรับขึ้นไปอีกระยะหนึ่งจน กว่า จะรู้ว่าจุดที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน"คุณหญิงชฎา กล่าว
อย่างไรก็ตาม หากธปท. ต้องการ ให้ธนาคารพาณิชย์ปรับอัตราดอกเบี้ย เร็วขึ้น ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ ธปท.อาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยซื้อคืน พันธบัตรระยะเวลา 14 วัน หรืออาร์/พี ขึ้นมากกว่า 0.25% แต่คาดว่าคงจะไม่เกิน 0.50% ขณะนี้อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยออมทรัพย์จะต้องมีส่วนต่างที่เหมาะสมระหว่างดอกเบี้ยออมทรัพย์กับดอกเบี้ย เงินฝากประจำ 3-6 เดือน
นายอรุณ จิรชวาลา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCIB กล่าวว่า ธนาคารได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอีก 0.25% เพื่อให้สอดคล้องกับภาวการณ์ทางการเงินปัจจุบัน และเป็นการรักษาฐานลูกค้าเงินฝากของธนาคาร โดยได้ปรับขึ้นในประเภทเงินฝากประจำ 3 เดือน จากเดิมอัตราดอกเบี้ย 1.50% เป็น 1.75% เงินฝากประจำ 6 เดือน จากเดิม 1.75% เป็น 2.00% เงินฝากประจำ 12 เดือน จากเดิม 2.00% เป็น 2.25%
ขณะที่เงินฝากประจำ ประเภท 24 เดือน ได้ปรับจากเดิมอัตราดอกเบี้ย 2.75% เป็น 3.00% ส่วนอัตราดอกเบี้ย เงินฝากประจำประเภท 36 เดือน ยังคงอัตราเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คือ 3.50% ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันนี้ (14 ต.ค.) เป็นต้นไป
ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้น ได้ปรับขึ้นเฉพาะ MLR และ MOR อีก 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) ปรับจากเดิม 6.25% เป็น 6.50% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีแบบเบิกเกินบัญชี (MOR) เดิม 6.50% ปรับเป็น 6.75% ส่วนอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เท่ากับ 6.75% ไม่เปลี่ยนแปลง
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY แจ้งว่า ธนาคารได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำประเภท 3 เดือน ปรับเป็น 1.75-2.50% จากเดิม 1.50-2.25% เงินฝากประจำประเภท 6 เดือน 2.00-2.75% จากเดิม 1.75-2.50% เงินฝากประจำประเภท 12 เดือน 2.25-3.00% จากเดิม 2.00-2.75% เงินฝากประจำประเภท 24 เดือน 2.75-3.50% จากเดิม 2.50-3.25%
ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคาร ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) อยู่ที่ 6.50% อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ 6.75% และอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ 6.75% โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เช่นเดียวกัน
ด้านธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ NBANK แจ้งว่า ธนาคารได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก โดยมีผลตั้งแต่วานนี้ (13 ต.ค.) ประกอบด้วย เงินฝากประจำ 3 เดือน จำนวนเงินฝากน้อยกว่า 1 ล้านบาท จากเดิม 1.75% เป็น 2.00% เงินฝากตั้งแต่ 1 ล้าน แต่ไม่ถึง 5 ล้าน จากเดิม 2.00% เป็น 2.50% เงินฝากตั้งแต่ 5 ล้านขึ้นไป จากเดิม 2.25% เป็น 2.75%
เงินฝากประจำ 6 เดือน จำนวน เงินฝากน้อยกว่า 1 ล้านบาท จากเดิม 2.00% เป็น 2.25% ตั้งแต่ 1 ล้าน แต่ไม่ถึง 5 ล้าน จากเดิม 2.25% เป็น 2.75% เงินฝากตั้งแต่ 5 ล้านขึ้นไป จาก 2.50% เป็น 3.00% เงินฝากประจำ 12 เดือน เงินฝากน้อยกว่า 1 ล้านบาท จากเดิม 2.25% เป็น 3.00% ตั้งแต่ 1 ล้าน แต่ไม่ถึง 5 ล้าน จาก 2.50% เป็น 3.00 % เงิน ตั้งแต่ 5 ล้านขึ้นไป จากเดิม 2.75% เป็น 3.00%
เงินฝากประจำ 24 เดือน น้อยกว่า 1 ล้านบาท จากเดิม 2.75% เป็น 3.25% ตั้งแต่ 1 ล้าน แต่ไม่ถึง 5 ล้าน จาก 3.00%เป็น 3.25% ตั้งแต่ 5 ล้านขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยคงเดิม 3.25% เงินฝากประจำ 36 เดือน น้อยกว่า 1 ล้านบาท จากเดิม3.25% เป็น 3.75% ตั้งแต่ 1 ล้าน แต่ไม่ถึง 5 ล้าน จาก 3.50% เป็น 3.75% เงินฝากตั้งแต่ 5 ล้านขึ้นไป อัตราดอกเบี้ยคงเดิม 3.75% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์คงเดิมที่ 1.50%
สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินฝากและเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ ดังกล่าว เป็นการปรับเพื่อให้สอดคล้อง กับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในช่วงขา ขึ้น รวมทั้งเป็นการปรับขึ้นตามธนาคาร พาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ได้ประกาศปรับไปก่อนหน้านี้ คือ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อเป็น การรักษาฐานลูกค้าเงินฝากไว้
|
|
|
|
|