|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
"อาซาฮี" ทุ่ม 150 ล้านบาท เปิดศึก 4 อีเวนต์คอนเซ็ปต์ "คิดในแบบที่แตกต่าง" ปีหน้า นำร่องผุดกลยุทธ์มิวสิกมาร์เกตติ้งนำทาง ดึง "โดม-ปกรณ์ลัม" จัดงานเทศกาลดนตรีฉีกกฎ ปิดถนนข้าวสาร 2 วัน กระตุ้นยอดขายโค้งท้าย พร้อมเร่งเครื่องขยายหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด ปีหน้าแชร์พุ่ง 10% ส่วนอีก 3 ปี ผงาดขึ้นเบอร์สองครองแชร์ 30%
นายครรชิต สิงห์สุวรรณ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีแอนด์เอ ดิสทริบิวชั่น จำกัด ผู้ดูแลการตลาด เบียร์อาซาฮี เปิดเผยถึงแผนการทำตลาดเบียร์อาซาฮีภายหลังจากที่บริษัทได้รีแบรนด์จากเบียร์เจเทรนด์ สู่เบียร์ระดับอินเตอร์เนชั่นแนลว่า จะเน้นตอกย้ำภาพลักษณ์ให้มีความโดดเด่นและแตกต่างจากเบียร์ อื่นอย่างชัดเจนภายใต้คอนเซ็ปต์ "คิดในแบบที่แตกต่าง" หรือ "Think Difference" นำร่องด้วยการทุ่มงบ 10 ล้านบาท ภายใต้กลยุทธ์มิวสิกมาร์เกตติ้ง ดึง "โดม-ปกรณ์ลัม" ศิลปินตัวแทนของคนที่มีความคิดแบบที่แตกต่างสร้างสรรค์ผลงานของตนเอง พร้อมวงดนตรีแนวอินดี้ 5 วงจากญี่ปุ่น และแบล็คเฮด กรู๊ปไรเดอร์ จัดงาน Asahi Music Fest :Taste Of Synth หรืองานเทศกาล ดนตรีฉีกกฎ ปิดถนนข้าวสาร 2 วัน ระหว่างวันที่ 29-30 ตุลาคมนี้
จากนั้นจะนำ "โดม-ปกรณ์ลัม" ทัวร์คอนเสิร์ต 3 เดือนหรือกระทั่งปลายปีนี้ ส่วนในปีหน้าบริษัทยังได้เตรียมจัดกิจกรรมในลักษณะอื่น โดยยึดคอนเซ็ปต์ "คิดในแบบที่แตกต่าง" อาทิ สปอร์ตมาร์เกตติ้ง เป็นต้น ซึ่งจะแบ่งเป็น 4 กิจกรรมต่อเนื่องตลอดทั้งปีโดยจะเปลี่ยนในทุกไตรมาส ซึ่งปีหน้าบริษัทใช้งบการตลาด 150 ล้านบาท อีกทั้งยังได้วางแผนขยายตลาดต่างจังหวัดให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายในหัวเมืองใหญ่ เช่น พัทยา เชียงใหม่ ขอนแก่น ภูเก็ต ฯลฯ ภายใต้หน่วยรถแคชแวนกระจายสินค้าให้ครอบคลุมร้านค้า โดยคาดว่าในปีนี้สัดส่วนจากต่างจังหวัดจะเพิ่มจาก 20% เป็น 40% ส่วนกรุงเทพฯ 80% เป็น 60% และตั้งเป้า 4 ปีบริษัทจะสามารถกระจาย สินค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
"เรายังได้ปรับกลยุทธ์ใหม่ คือ เน้นสร้างภาพลักษณ์และทัศนคติของการใช้ชีวิตที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าพรีเมียมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก รวมทั้งจัดกิจกรรมร่วมกับร้านค้า ซึ่งคาดว่าจะทำให้เกิดการสวิตชิ่งจาก เดิมที่เป็นกลุ่มลูกค้าไฮเนเก้นให้หันมาดื่มเบียร์อาซาฮีมากขึ้น"
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทรุกจัดกิจกรรมการตลาดภายใต้แนวคิด ในแบบที่แตกต่าง คาดว่าภาพลักษณ์ เบียร์อาซาฮีจะมีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งบริษัทวางกลุ่มเป้าหมายอายุ 21-29ปี จากที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของอาซาฮียังไม่มีความชัดเจนในเรื่องกลุ่มเป้าหมาย และตั้งเป้าว่า ในปีหน้านี้อาซาฮีจะมีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 10% หรือมียอดขาย 1,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 2-3% ในตลาดเบียร์พรีเมียมมูลค่า 9,000 ล้านบาท และในอีก 3 ปีข้างหน้านี้ตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 30% โดยขึ้นมาเป็นเบอร์สองของตลาดอย่างชัดเจน จากปัจจุบันเบอร์สองจะมีทั้งเบียร์คลอสเตอร์, อาซาฮีและเบียร์นำเข้าซึ่งมีส่วนแบ่งไล่เลี่ยกัน ส่วนผู้นำตลาดอย่างเบ็ดเสร็จเป็นไฮเนเก้น ครองส่วนแบ่ง 90-92%
สำหรับในช่วงสิ้นปีนี้ซึ่งเป็นฤดูกาลการขายของเบียร์ บริษัทได้เตรียมแผนกระตุ้นยอดขาย โดยจะเน้นใช้พรีเมียมโปรโมชันเป็นหลัก และจะมีอาซาฮีแอมบาสเดอร์สาวสุดเซ็กซี่ 400 คน พร้อมทั้งผู้ที่ชนะการประกวด "มิส อาซาฮี" มากระตุ้น ยอดขาย ส่วนเบียร์การ์เด้นในช่วง ปลายปีนี้ได้เตรียมจัดไว้ 12 แห่งใน กรุงเทพฯ เช่น เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา ลานสยามดิสคัฟเวอรี่ และอีก 10 แห่งในภาคตะวันออก โดยคาดว่า ยอดขายเบียร์สดปีนี้ราว 20 ถังต่อวัน เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 16 ถังต่อวัน
แนวโน้มตลาดเบียร์มูลค่า 80,000 ล้านบาทในปีหน้านี้ คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่มากนักคือ แค่ 5% เนื่องจากมาตรการภาครัฐที่เข้มงวด ไม่ว่าจะเป็นห้ามโฆษณา ใน ระหว่าง 05.00 -22.00น. การรณรงค์ เมาไม่ขับ และจำกัดเวลาจำหน่าย อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ภาครัฐมีเงื่อนไขห้ามให้ผู้มีชื่อเสียงมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำให้ล่าสุดบริษัทมีแผน จะจัดการประกวดมิสอาซาฮี เซ็กซี่ต่อเนื่องทุกปี จากนั้นจะนำผู้ชนะเลิศจากการประกวดซึ่งมีสัญญากับทางบริษัท 1 ปี มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทั้งนี้ เพื่อสร้างตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
สำหรับผลประกอบการปีนี้คาดว่าจะเกินเป้าหมายที่วางไว้จาก 350 ล้านบาท เป็นทะลุ 370 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเบียร์อาซาฮีมียอดขายถึง 300 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบยอดขายปีนี้และปีที่แล้วถือว่ามีอัตราการเติบโต 100% จากในปีที่ผ่านมามียอดขาย 180 ล้านบาท
|
|
|
|
|