"เอสซี แอสเสท"ใต้ปีกชินวัตร ดึงลูกหม้ออีสเทิร์นสตาร์ "สหัส ตันติคุณ" รั้งเก้าอี้กรรมการผู้อำนวยการ แทน "สุรเธียร จักรานนท์" หลังปล่อยเก้าอี้ร้างนานกว่า 4 เดือน

เก้าอี้กรรมการผู้อำนวยการ บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือชินวัตร ถูกปล่อยทิ้งร้างมานานหลังการลาออกของ สุรเธียร จักรานนท์ มือขวาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มชินวัตรที่ตัดสินใจทิ้งพอร์ตอสังหาริมทรัพย์มูลค่านับหมื่นล้านบาทของตระกูลชินวัตรไปตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา โดยปล่อยให้บุษบา ดามาพงศ์ ภรรยา บรรพต ดามาพงศ์ ในฐานะพี่สะใภ้ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ดูแลธุรกิจแต่เพียงลำพัง

นับเป็นระยะเวลานานกว่า 4 เดือนที่ บุษบา ต้องรับหน้าที่ควบคุมหางเสือ สอดส่องดูแลธุรกิจทั้งหมดของ เอสซี แอสเสทฯ โดยปราศจากมืออาชีพด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอยให้คำแนะนำเหมือนที่ผ่านมา ท่ามกลางความสงสัยและเคลือบแคลงใจกับสาเหตุที่แท้จริงในการลาออกจากรั้วชินวัตรของ สุรเธียร ที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ในขณะที่เก้าอี้ยังว่างอยู่ บุษบา ก็ดึง "สหัส ตันติคุณ" เข้ามาสวมแทนเก้าอี้เดิมของ สุรเธียร โดยแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา

บุษบา กล่าวว่า สหัส เป็นมืออาชีพที่คร่ำหวอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาเป็นเวลานาน และเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งด้านความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในการทำงานที่ยาวนาน เหมาะสมที่จะเป็นผู้ดูแลพอร์ตสินทรัพย์ของบริษัทที่มีอยู่กว่า 5,000 ล้านบาท

สหัส ตันติคุณ คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มานานกว่า 12 ปี นับตั้งแต่ร่วมงานกับ บมจ.ธารารมณ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ในช่วงปี 35-46 จนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งถึง 4 ตำแหน่ง โดยมีตำแหน่งสูงสุดคือ กรรมการผู้จัดการ หลังจากนั้นจึงหันมาทำธุรกิจส่วนตัว ภายใต้ชื่อบริษัท รสิกา ซึ่งยังคงดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เหมือนเดิม จนกระทั่งย้ายมาร่วมงานในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บมจ.อิสเทิร์นสตาร์ ในช่วงเดือนมี.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนได้รับการทาบทามให้มาร่วมงานกับ เอสซี แอสเสทฯ ในฐานะมือปืนรับจ้าง

อย่างไรก็ตาม การแต่งตั้ง สหัส เข้าดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ผ่านขั้นตอนการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหา ซึ่งพิจารณาคัดเลือกผู้มีความรู้ความสามารถในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้เข้ามาร่วมงาน โดยให้ความไว้วางใจ สหัส ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในทุกๆ ด้านของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นอกจากประสบการณ์ที่ยาวนานแล้ว สหัส ยังมีพื้นฐานการศึกษาด้านวิศวกรรม และด้านการเงิน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

สหัส กล่าวว่า หลังจากเข้ารับตำแหน่งใน บมจ.อิสเทิร์นสตาร์ได้เพียงไม่นานก็ได้รับการทาบทามจาก เอสซี แอสเสทฯ จึงตัดสินใจลาออกจาก บมจ.อิสเทิร์นสตาร์ มาร่วมงานกับ เอสซี แอสเสทฯ ด้วยเหตุผลที่ว่าได้รับการติดต่อทาบทามให้ร่วมงาน ทำให้อยากรู้จัก เอสซี แอสเสทฯ มากขึ้น จึงอยากร่วมงานด้วยเพราะเป็นบริษัทที่มีลักษณะและรูปแบบการทำงานที่ชัดเจน มีวัฒนธรรมการทำงานที่เข้มแข็ง และมีสไตล์การทำงานแบบคนรุ่นใหม่

โดยการเข้าร่วมงานกับ เอสซี แอสเสทฯ ไม่มีเงื่อนไขหรือสัญญาว่าจะต้องกำหนดวาระดำรงตำแหน่งกี่ปี ทั้งนี้ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งนั้นเป็นเรื่องของผลงานว่าจะสามารถสร้างผลงานได้ตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้หรือไม่ ซึ่ง สหัส ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องเงื่อนไขด้านผลงาน แต่กล่าวว่าหากประเมินจากผลการทำงานแล้วพบว่าไม่ดีตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ก็จะพิจารณาตัวเอง

อย่างไรก็ตาม สหัส บอกแต่เพียงว่าสิ่งแรกที่ต้องเร่งปรับปรุงหลังเข้ารับตำแหน่งคือ แก้ไขปัญหาความล่าช้าในการเปิดการขายโครงการใหม่ ภายหลังจากโครงการบางกอก บูเลอวาร์ด แจ้งวัฒนะ ต้องล่าช้าออกไปเป็นต้นปีหน้า จากเดิมที่กำหนดเปิดขายในช่วงไตรมาส4ของปีนี้ เนื่องจากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในโครงการยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ต้องสูญเสียโอกาสในการขาย