ซิตี้เรียลตี้ ในเครือแบงก์กรุงเทพจับมือพันธมิตรเมืองผู้ดีอังกฤษ ลุย ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ
ทุ่มงบ 2,500 ล้านบาท เปิดโรงเรียนโชรส์เบอรี่ ในกรุงเทพฯ คาดเปิดการ เรียนการสอนได้ในเดือนกันยายนปีหน้า
ด้านแผน การลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รอจังหวะเหมาะ สม พร้อมลุยต่อทันที
นายชาลี โสภณพนิช กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซิตี้เรียลตี้ จำกัด บริษัทในเครือธนาคารกรุงเทพ
เปิดเผยถึงนโยบายการดำเนินงานของบริษัทว่า บริษัทมีแผนที่จะขยายไลน์ธุรกิจสู่ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ
ซึ่งได้จับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ คือกลุ่มโรงเรียนโซรส์เบอรี ประเทศอังกฤษ
เปิดโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพฯในประ เทศไทย มีจุดประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการ
ของผู้ปกครองที่ต้องการให้บุตรหลานเข้าเรียนที่โรง เรียนนานาชาติ รวมถึงผู้ที่ต้องการไปเรียนโรงเรียน
ในต่างประเทศด้วย
การจับมือกันครั้งนี้ ซิตี้เรียลตี้ จะเป็นผู้ลง ทุนด้านการเงินทั้งหมด
ซึ่งใช้เงินลงทุนรวมทั้งค่าก่อสร้างอาคารเรียน และที่ดิน คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น
2,000-2,500 ล้านบาท ส่วนพันธมิตรทางธุรกิจ จะให้โนฮาว ทั้งห้องแล็บทางวิทยาศาสตร์ที่ได้มาตร-ฐานเดียวกันกับที่โรงเรียนในประเทศอังกฤษศูนย์การเรียนการสอนสารสนเทศครบวงจรและทันสมัย
ศูนย์การเรียนการสอนศิลปะ ศูนย์การสอนดนตรี ศูนย์การสอนภาษาอังกฤษ หอประชุมขนาดใหญ่
800 ที่นั่ง รวมถึงการจัดหาอาจารย์ที่จะมาสอน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาจารย์ที่นำเข้ามาจากประเทศอังกฤษเกือบทั้งหมด
เพื่อให้การเรียนการสอนได้มาตรฐานเดียวกับที่โรงเรียนโชรส์เบอรี ประเทศอังกฤษ
ทั้งนี้ โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ใกล้สะพานสาทร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
พื้นที่ 22 ไร่ สามารถรองรับนักเรียนได้จำนวนมากกว่า 1,000 คน แต่ในปีการศึกษาแรกจะรับนักเรียนประมาณ
350 คนเท่านั้น อายุระหว่าง 3-18 ปี ซึ่งจะคัดเลือกผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุด
และมีอาจารย์ 35 คน ในช่วงปีแรก และจะเพิ่มเป็น 100 คน ภายใน 5 ปี อัตราค่าบำรุงการศึกษาอยู่ที่ประมาณ
250,000-400,000 บาทต่อปี ขึ้นอยู่กับระดับชั้นของเด็กนักเรียน
ความคืบหน้าด้านการดำเนินงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง กำหนดแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม
2546 และจะเริ่มติดตั้งอุปกรณ์การศึกษาในเดือนกรกฎาคม 2546 และเปิดสอนในเดือนกันยายนปีเดียวกัน
บริษัทคาดว่า นักเรียนที่เข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติจะเป็นเด็กไทยประมาณ
50% ส่วนที่เหลืออีก 50% เป็นเด็กจากชาติต่าง ๆ
สาเหตุที่บริษัทเลือกโรงเรียนโชรส์เบอรี ประเทศอังกฤษเป็นพันธมิตร เนื่องจากเห็นว่าเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในระดับนานาชาติ
ซึ่งมีชื่อเสียงมานานกว่า 450 ปี ซึ่งเมื่อโรงเรียนดังกล่าวมาตั้งอยู่ที่ประเทศไทย
ก็จะช่วยให้เด็กไทยมีโอกาสเรียนในสถาบันที่ดี และมีโอกาสก้าวเข้าสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้ง่ายขึ้น
อีกทั้งผู้ปกครองที่ต้องการ ให้บุตรหลานไปเรียนในต่างประเทศก็สามารถเข้าเรียนได้
ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายที่จะใช้ในการเรียน รวมถึงช่วยไม่ให้เงินตราไหลออกนอกประเทศ
ด้วย
นายชาลี กล่าวว่า เหตุผลสำคัญที่บริษัท ขยายธุรกิจสู่โรงเรียนนานาชาติ
เนื่องจากปัจจุบันปริมาณนักเรียนที่ต้องการเรียนในโรงเรียนนานาชาติ มีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งจากความต้องการของเด็กนานาชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย และเด็กนักเรียนไทยเอง
ซึ่งในปัจจุบัน มีนักเรียนประมาณ 20,000 คน แบ่งเป็นนักเรียนไทย 35% หรือประมาณ
7,000 คนและอีก 65% เป็นนักเรียนต่างชาติ หรือประมาณ 13,000 คน โดยคาดการณ์ว่า
ภายในระยะ 3 ปีข้างหน้า ในตลาดจะมีนักเรียนเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 คน
ส่วนโรงเรียนนานาชาติที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย มีทั้งหมด 58 แห่ง ใช้ระบบการศึกษาแบบอังกฤษ
46% แบบอเมริกัน 30% แบบนานาชาติ (IB) 6% และใช้การศึกษาแบบประเทศอื่นๆ เช่น
ญี่ปุ่นและเยอรมัน ประมาณ 16%
กรรมการผู้อำนวยการ กล่าวถึงผลการดำเนิน งานของซิตี้เรียลตี้ว่าปัจจุบัน
บริษัทมีรายได้หลักมาจากธุรกิจให้เช่า ซึ่งมาจากการให้เช่าอาคารสำนักงาน
ที่สาทร พื้นที่มากกว่า 40,000 ตารางเมตร บางกอก การ์เด้นท์ พื้นที่มากกว่า
30,00 ตารางเมตร และอาคารดิ เอ็มโพเรียม ซึ่งเป็นพื้นที่สำนักงานและเซอร์วิส
อพาร์ตเมนต์ จำนวนมากกว่า 40,000 ตารางเมตร คิดเป็นรายได้ประมาณปีละ 33-36
ล้านบาท
ส่วนแผนการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นั้น ขณะนี้หากโอกาสเอื้ออำนวยต่อการลงทุนก็พร้อมที่จะลงทุนต่อทันที
เพราะที่ดินสะสางรอการพัฒนาแล้ว เช่น ที่ดินบริเวณเดียวกับที่ตั้งโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่
เหลือพื้นที่อีก 10 ไร่ สามารถนำมาพัฒนาเป็นที่พักอาศัยได้