|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
หม่อมอุ๋ย ระบุ 19 ต.ค.นี้แบงก์ชาติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย อีก 0.25-0.5% พร้อมพอใจผลการปรับขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์พาณิชย์ ระบุเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และสภาพคล่องที่ลดลง วางเป้าหมายคุมเงินเฟ้อปีหน้าอยู่ที่ระดับ 4-4.5% เพื่อดันดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวก ด้านกรุงไทย-กสิกรไทย-ไทยพาณิชย์ขยับดอกเบี้ย 0.25% มีผลวันนี้
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 19 ตุลาคมที่จะถึงนี้ จะทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรซื้อคืนระยะ 14 วัน(อาร์พี) อีก โดยจะพิจารณา จากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก แต่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ดังกล่าวยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะปรับขึ้น 0.25% หรือ 0.5%
"การปรับอัตราดอกเบี้ยคงดูหลายปัจจัย เพราะอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ก็มี 2 ขา คือ ดอกเบี้ยเงินกู้ และเงินฝาก รวมทั้งตลาดพันธบัตรของไทยในตอนนี้ ก็เริ่มขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีจำนวนพันธบัตรเพิ่มขึ้นมาก ทั้งพันธบัตรระยะสั้น และระยะยาวทำให้มีประชาชนเกี่ยวข้องมากขึ้น จึงต้องดูอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรประกอบด้วย" ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวสูงขึ้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ ธปท.ต้องดูแล โดยในปีหน้า ธปท.มองว่า อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ที่ 4-4.5% ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งในการกำหนดอัตราดอกเบี้ย นโยบายของ ธปท.ด้วย เนื่องจาก ธปท.ต้องการให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงเป็นบวกได้ภายในกลางปี 2549
ในส่วนของการทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ก็เป็นเรื่องที่ ธปท.คาดการณ์ไว้แล้ว และหากอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ในกลางปีหน้าจะปรับขึ้นไปอยู่ที่ 4% ตามที่ นายโฆษิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพกล่าวไว้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อผู้ฝากเงิน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาอัตราดอกเบี้ยถือว่าต่ำไปเมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ซึ่งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นที่เกิดขึ้นในตอนนี้ถือว่าเป็นเองที่เหมาะสมแล้ว และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ และสภาพคล่อง ที่ปรับตัวลดลง กรุงไทย-ไทยพาณิชย์ปรับดอกเบี้ยกู้และฝาก 0.25%
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารจะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ โดยเงินฝากประจำ 3 เดือน วงเงินต่ำกว่า 5 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 1.75% ต่อปี วงเงิน 5 ล้านบาทขึ้นไป จ่ายในอัตรา 2% ต่อปี เงินฝากประจำ 6 เดือน วงเงินต่ำกว่า 5 ล้านบาทจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2% ต่อปี วงเงิน 5 ล้านบาทขึ้นไป จ่ายในอัตรา 2.25% ต่อปี เงินฝากประจำ 12 เดือน วงเงินต่ำกว่า 5 ล้านบาท จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2.25% ต่อปี วงเงิน 5 ล้านบาทขึ้นไป จ่ายในอัตรา 2.50% ต่อปี เงินฝากประจำ 24 เดือน จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2.75% ต่อปี
สำหรับเงินฝากประจำ 36 เดือน และประจำ 48 เดือน ธนาคารยังคงจ่ายในอัตราเดิมคือ 3.25% ต่อปี และ 3.75% ต่อปี ในส่วนของเงินกู้ ธนาคารจะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประเภท MLR MOR และ MRR เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.25 ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ MLR ปรับเพิ่มเป็นร้อยละ 6.25 ต่อปี MOR ปรับเป็นร้อยละ 6.50 ต่อปี และ MRR ปรับเป็นร้อยละ 6.75 ต่อปี ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก 3 เดือน ดอกเบี้ย 3%
นอกจากนี้ ธนาคารได้ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก "กรุงไทยสมนาคุณ" สำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ ซึ่งเป็นเงินฝากประจำ 3 เดือน จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 3% ต่อปี ฝากขั้นต่ำ 1 หมื่นบาท โดยจะเริ่มรับฝากตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2548 เป็นต้นไป ที่ทุกสาขาทั่วประเทศ
"การออกผลิตภัณฑ์ในครั้งนี้ ธนาคารต้องการ แสดงความขอบคุณและตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจฝากเงินระยะยาว 48 เดือนกับธนาคาร โดย จะให้การดูแลเป็นอย่างดี ด้วยออกผลิตภัณฑ์และบริการที่ให้สิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม ในตลอดระยะเวลาที่ฝากเงินกับธนาคาร"
นายจงรัก บุญชยานุรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารเงิน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ประกาศปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อีก 0.25% พร้อมเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ประเภทลูกค้านิติบุคคลพิเศษ ที่ฝากต่อเนื่อง 7 วัน จ่ายอัตราดอกเบี้ย 1.75% โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เพิ่มประเภท 14 วัน และ 1 เดือนไปแล้ว เพื่อเสริมความ คล่องตัวของลูกค้าประเภทนิติบุคคลพิเศษ
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือน สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 1.50% เป็น 1.75% วงเงินฝาก ตั้งแต่ 5 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 10.0 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 1.75% เป็น 2.0%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 6 เดือน สำหรับ กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหา กำไร วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 1.75% เป็น 2.0% วงเงินฝากตั้งแต่ 5 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 10.0 ล้านบาท ปรับอัตรา ดอกเบี้ยเพิ่มจาก 2.0% เป็น 2.25%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหากำไร วงเงินฝากน้อยกว่า 3 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 2.0% เป็น 2.25% วงเงินฝากตั้งแต่ 5 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 10.0 ล้านบาท ปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 2.25% เป็น 2.50%
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 24 เดือน สำหรับ กลุ่มลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ไม่แสวงหา กำไร ทุกวงเงินฝากปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มจาก 2.50% เป็น 2.75%
นอกจากนั้นแล้ว ธนาคารได้พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อให้สอดคล้องกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่ได้ปรับเพิ่มไปก่อนหน้านี้ โดยอัตราดอกเบี้ยรายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เป็น 6.25% อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เป็น 6.50% และอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี (MRR) เป็น 6.75% ทั้งนี้มีผลตั้งแต่ 13 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
ธนาคารไทยพาณิชย์ ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ย เงินฝากประจำ 0.25% ต่อปี โดยเงินฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน และ 24 เดือน มีอัตราดอกเบี้ยขั้นสูงสุดที่ 2.25%, 2.50%, 2.75% และ 2.75% ตามลำดับ สำหรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำระยะยาว 36 เดือน ยังคงอัตราเดิมที่ 3.25% ต่อปี
ขณะเดียวกันได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมทุกประเภท 0.25% ต่อปี โดย MLR มีอัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี MOR มีอัตราดอกเบี้ย 6.50% ต่อปี และ MRR มีอัตราดอกเบี้ย 6.75% ต่อปี ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาด มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2548
|
|
 |
|
|