|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ฃมิสทินเตรียมทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาทขยายคลังสินค้าใหม่เพิ่มในปีหน้าหลังคลังเดิมเต็มรองรับไม่ไหว ชี้ปีหน้ายอดขาย มิสทินโตต่ำกว่า 10% ในรอบ 5 ปีจากต้นทุนการ ผลิตที่เพิ่มและศักยภาพในองค์กรพร้อมเตรียม โฟกัสสินค้ากลุ่ม "ฟรายเดย์" หนักขึ้นโดยตั้งเป้าโต 30% และเล็งปรับราคาขึ้นอีก 3-5% ล่าสุดกระตุ้นตลาดปีนี้เทงบกว่า 50 ล้านบาทเปิดตัว "ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี" เป็นพรีเซ็นเตอร์ คาดยอดขายสิ้นปีถึง 5,600 ล้านบาท
นายดนัย ดีโรจนวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบทเตอร์เวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงชั้นเดียว "มิสทิน" เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีหน้าว่า มิสทินเตรียมลงทุนกว่า 200 ล้านบาทในการขยายคลังสินค้าใหม่เพิ่มบริเวณย่านรามคำแหง โดยจะซื้อพื้นที่เพิ่ม 4 ไร่และสร้างอาคารแห่งใหม่เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดที่มีมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่พบว่าผู้หญิงไทยกว่า 88% จะใช้โลชั่นบำรุงผิวตลอดทั้งปี ดังนั้นปีหน้าบริษัทฯคาดว่ายอดขายกลุ่มสกินแคร์จะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของบริษัทฯแทนที่กลุ่มเมกอัพหรือมีรายได้กว่า 1 พันล้านบาท จากปัจจุบันมียอดขาย 600 ล้านบาท
บริษัทฯเตรียมปรับเพิ่มราคาสินค้าอีก 3-5% ในปีหน้าเนื่องจากต้นทุนหลายส่วนในทั้งองค์กรเพิ่มขึ้น 3% ซึ่งบริษัทฯพยายามเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารมากขึ้นตั้งแต่ในช่วงปีนี้เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตบางส่วน ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจดีหรือไม่ดียังมองว่าธุรกิจขายตรงยังเติบโตได้และตรงนี้ยังเป็นโอกาสสำหรับขยายตลาด ซึ่งจะมีผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ เข้ามา
ประกอบกับปีหน้าบริษัทฯเตรียมโฟกัสไปที่แค็ตตาล็อกฟรายเดย์มากขึ้น ซึ่งเป็นอีกธุรกิจหนึ่งของมิสทินที่นำเสนอสินค้าที่นอกเหนือ จากเครื่องสำอางมิสทิน อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า, ของเล่นเด็ก, ของใช้ และเครื่องครัว เป็นต้น โดยปัจจุบันมีซัปพลายเออร์ที่เข้าร่วมกว่า 300 ราย และสินค้าที่เข้าร่วมกว่า 2-3 พันรายการ โดยเป้า ยอดรายได้ของฟรายเดย์ปีหน้าคาดว่าจะโต 20% ส่วนปีนี้มีอัตราโต 30% จากปีที่แล้ว
ส่วนเป้ายอดขายปีหน้ามิสทินคาดว่าจะโตต่ำกว่า 10% ในรอบ 5 ปี เนื่องจากศักยภาพของ บริษัทฯเองที่คาดว่าจะโตน้อยและต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น รวมถึงภาวะเศรษฐกิจภายนอกที่จะส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคด้วย ดังนั้นในปีหน้าบริษัทฯเตรียมใช้งบทางการตลาดกว่า 400 ล้านบาทในการทำตลาดต่อเนื่องและยังคงใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นจุดขายเพราะว่าได้ผลดีต่อแบรนด์และยอดขาย ปัจจุบันมิสทินมีสมาชิก 6.3 แสนคน โดยยอดสมาชิกที่แอกทีฟคิดเป็น 55%
ล่าสุดบริษัทฯทุ่มงบประมาณกว่า 50 ล้านบาทในระยะเวลา 3 เดือน (ต.ค. -ธ.ค. 48) เปิดตัวผลิตภัณฑ์โลชั่น มิสทิน ไวท์ สปา สูตร ขาวพิเศษ พร้อมด้วยพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ "ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี" ซึ่งจะมีการสื่อผ่านภาพยนตร์ โฆษณาภายใต้ชื่อ "ซิลค์" และจะเริ่มออกอากาศ ในวันที่ 14 ต.ค.นี้ ขณะที่ยอดรายได้สิ้นปีของมิสทินคาดว่าจะมีรายได้กว่า 5,600 ล้านบาท และมีอัตราการโต 13% ซึ่งในช่วง 3 ไตรมาสแรกของมิสทินพบว่ายอดโตเกินคาดและไตรมาสสุดท้ายของปีซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลขายคาดว่าจะเป็นไปตามเป้า โดยปีหน้าคาดว่ายอดรายรวมยังโต 10%
ส่วนตลาดรวมธุรกิจขายตรงมีมูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นตลาดขายตรงชั้นเดียว 40% ซึ่งมิสทินเป็นผู้นำตลาดด้วยมาร์เกตแชร์ 65% ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้น 3-4% ขณะที่ตลาดรวมขายตรงปีนี้คาดการณ์ว่าจะโตไม่ถึง 10% จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีและมีปัจจัยลบมาก
|
|
|
|
|