Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 ตุลาคม 2548
3 หุ้นรับเหมาวูบเจอข่าวปรับส่งงานช้า เพิ่มทุนพ่นพิษเค-เทค คาดหุ้นไดลูต50%             
 


   
www resources

โฮมเพจ อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์

   
search resources

อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเม้นต์, บมจ.
ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น, บมจ.
Construction
Stock Exchange




3 หุ้นรับเหมาโครงการยักษ์สนามบินสุวรรณภูมิ ITD-CK-STEC ร่วงหลังข่าวปรับ "ไอทีโอ" ล่าช้า บล.โกลเบล็ก ประเมินกระทบระยะสั้น ย้ำยังน่าลงทุนหวังผลอนาคตแสนล้าน เผย รับเหมาเร่งระดมทุนเงินทุน "เพิ่มทุน-กู้แบงก์-ตั๋วบีอี" ด้านบล.แอ๊ดคินซัน เผยการเพิ่มทุนของ "เค-เทค" อาจจะทำให้หุ้นไดลูต 50% เชื่อส่งผลดีหลังดีอีต่ำเพียง 1.7 เท่า

วานนี้ (11 ต.ค.) ความเคลื่อน ไหวของราคาหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับงานโครงการ ก่อสร้างสนามบินสุวรรณ หลังปรากฏข่าว เตรียมปรับเงินจากการ ส่งมอบงานล่าช้าของกิจการร่วมค้าไอทีโอ หรือ ITO ในส่วนของงานติดตั้งเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด ซีทีเอ็กซ์ ตามเงื่อนไขการก่อสร้างอาคาร โดยปรับวันละ 2.5 ล้านบาท และงานในส่วนของการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารและงานอาคารเทียบเครื่องบิน โดยปรับวันละ 2.5 ล้านบาท

ทั้งนี้ ค่าปรับในส่วนดังกล่าวเริ่มคิดตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.-10 ต.ค. หรือ 12 วัน เท่ากับ 60 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันยังไม่สิ้นสุดบริษัทยังคง จะต้องเร่งดำเนินงานให้เสร็จเร็วที่สุดเนื่องจากจะกระทบต่อรายได้และกำไรจากการดำเนินงาน

ขณะที่ดัชนีหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ปิดที่ 6,241.96 จุด ลดลง 14.26 จุด หรือ 0.09% มูลค่า การซื้อขาย 1,052.24 ล้านบาท

ทั้งนี้หุ้นที่มีการปรับตัวลดลงสูงสุดในกลุ่ม คือ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) ราคาปิดที่ 9.35 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 2.09% มูลค่าการซื้อขาย 120.26 ล้านบาท, บมจ.ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) ราคาปิดที่ 12.30 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 1.60% มูลค่า การซื้อขาย 35.86 ล้านบาท, บมจ. ช.การช่าง (CK) ราคาปิดที่ 13.30 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 61.36 ล้านบาท

ด้าน บมจ. เค-เทค คอนสตรัคชั่น (KTECH) ราคาปิดที่ 2.88 บาท ลดลง 0.58 บาท หรือ 16.76% มูลค่าการซื้อขาย 14.68 ล้านบาท จากข่าวการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีก 237,222,240 บาท ในราคาหุ้นละ 1 บาทโดยจะขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท ซึ่งจะทำให้ทุนจด ทะเบียนเดิมจำนวน 239,000,000 บาท ภายหลังเป็นทุนจดทะเบียน 476,222,240 บาท

อนึ่ง ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบมจ.เค-เทค คอนสตรัคชั่น ณ วันที่ 11 พ.ค. 48 อันดับ 1. นาย โนเรีย เดอร์ เคโวเคียน จำนวน 80,274,880 หุ้น สัดส่วน 34.16% อันดับ 2.นางสาวสุปรางภร ธรรมสุจริต จำนวน 35,000,000 หุ้น สัดส่วน 14.89 อันดับ 3. กองทุน เพื่อ การร่วมลงทุน จำนวน 35,000,000 หุ้น สัดส่วน 14.89% อันดับ 4. ดร. อดุล อมตวิวัฒน์ จำนวน 8,500,000 หุ้น สัดส่วน 3.62% อันดับ 5. CREDIT AGRICOLE INVESTOR SERVICES BANK จำนวน 5,330,200 หุ้น สัดส่วน 2.27% ขณะที่นายพายัพ ชินวัตร มีชื่ออยู่ในอันดับ 7 จำนวน 4,000,000 หุ้น สัดส่วน 1.70%

นายวรุฒม์ ศิวะศิริยานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ข่าวเกี่ยวกับการปรับบริษัท ก่อสร้างที่รับผิดชอบงานในสนามบินสุวรรณภูมิหลังการส่งมอบ งานไม่เป็นไปตามที่มีการกำหนดไว้ในเงื่อนไขของกิจการร่วมค้า ไอทีโอ ซึ่งบริษัทดังกล่าวถือหุ้น โดย บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) สัดส่วน 40% บริษัททาเกนะกะ (ประเทศญี่ปุ่น) สัดส่วน 30% และบริษัท โอบายาซิ (ประเทศญี่ปุ่น) สัดส่วน 30%

ทั้งนี้ ความกังวลในเรื่อง ดังกล่าวคงส่งผลกับหุ้นในกลุ่มเพียงระยะสั้น เนื่องจากความน่าสนใจของหุ้นในกลุ่มรับเหมาฯยังมีอีกมาก เนื่องจากโครงการเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาลยังมีอีกหลายโครงการ ซึ่งจะส่งผลชัดเจนกับบริษัทที่เกี่ยวข้องเพราะโครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างงานที่มีมูลค่าโครงการสูง

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบริษัทผู้รับเหมาคงต้องมีการปรับเปลี่ยนเรื่องแผนการบริหารจัดการเพื่อรองรับงานจำนวนมากที่จะได้รับต่อจากนี้ โดยเชื่อว่าความสามารถในการรับงานของบริษัทต่างๆในปัจจุบัน จะส่งผลให้มีการจ้างงานต่ออีกช่วง เนื่องจากไม่สามารถดำเนินงานในโครงการขนาดใหญ่ได้เพียงรายเดียว

"ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นคงไม่มาก เชื่อว่าคงกระทบแค่ช่วงสั้น แต่ความน่าสนใจของหุ้นในกลุ่มนี้ยังสูงเพราะเม็ดเงินในโครงการเมกะโปรเจกต์แต่ละปีหลายแสนล้าน ซึ่งบริษัทคงต้องรีบบริหารจัดการเพื่อให้มีความพร้อมในการรองรับงานให้ได้เต็มที่และเชื่อว่า การแบ่งงานไปยังซัปจะมีมาก เพราะบริษัทเดียวคงไม่สามารถรับงานได้ทั้งหมด" นายวรุฒม์กล่าว

สำหรับประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับแผนการรองรับงานในอนาคต คือ เรื่องเงินทุนของบริษัท ซึ่งบางบริษัทอาจจะมีการเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อรองรับงาน เหมือน กรณีบริษัท บมจ. เค-เทค คอนสตรัคชั่น นอกจากนี้บางบริษัทอาจ จะมีการกู้เงินจากธนาคาร หรือออกตั๋วแลกเงินระยะแรก

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด กล่าวว่า การปรับลดลงของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างวานนี้ เนื่องจากผลกระทบจากความกังวลหลังกิจการร่วมค้าไอทีโอ ถูกสั่งปรับหลังมีการส่งงานล่าช้ากว่าที่มีการกำหนด

ทั้งนี้ เชื่อว่าจำนวนเงินที่ถูกปรับคงไม่ส่งผบกระทบมากนัก และเนื่องจากบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ ถือหุ้นในกิจการร่วม ค้าไอทีโอเพียง 40% ซึ่งเท่ากับว่าความรับผิดชอบในจำนวนเงินดังกล่าวก็เพียง 40% ของจำนวนเงินทั้งจำนวน ซึ่งในส่วนของราคาหุ้นคงกระทบเพียงช่วงสั้นๆ เท่านั้น

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊ดคินซัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเพิ่มทุนของบมจ.เค-เทค คอนสตรัคชั่น อาจจะส่งผลทำให้ ราคาหุ้นในกระดานมีการปรับตัวลดลงได้ถึง 50% แต่ทั้งนี้หากพิจารณาในแง่ดีจะทำให้หนี้สินต่อทุนของบริษัทปรับลดลงจาก 2.33 เท่ามาอยู่ที่ประมาณ 1.7 เท่า   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us