Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน12 ตุลาคม 2548
คลังเล็งลดภาษีศุลกากร1.4พันรายการ หนุนเอสเอ็มอี เพิ่มความสามารถการแข่งขัน             
 


   
www resources

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

   
search resources

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
สมชัย สัจจพงษ์
Auditor and Taxation




คลังเล็งลดโครงการภาษีนำเข้าสินค้าวัตถุดิบสำหรับผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กว่า 1,400 รายการ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เพิ่มเอสเอ็มอีกลุ่มผลิตชิ้นส่วน ให้บีโอไอสรุปอีกรอบจันทร์หน้า ขณะที่สศค.เตรียมสรุปภายในสัปดาห์หน้า

นายสมชัย สัจจพงษ์ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ว่า ขณะนี้ สศค. และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม การลงทุน หรือบีโอไอ ได้หารือแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรนำเข้าสินค้าวัตถุดิบที่ใช้สำหรับการผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยทีมของ สศค. ได้ทำโมเดลในการปรับโครงสร้างภาษีให้บีโอไอนำกลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมและนำกลับมาเสนอในวันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม 2548 นี้

ทั้งนี้ โมเดลที่ สศค. ทำไว้ คือ จะแยกกลุ่มสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 1,692 รายการย่อย ออกเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย 1. กลุ่มวัตถุดิบ พื้นฐาน 2. กลุ่มวัตถุดิบ 3. กลุ่มสินค้า ประเภทชิ้นส่วนและส่วนประกอบ และ 4. กลุ่มสินค้าสำเร็จรูป ซึ่ง สศค. ต้องการให้มีการปรับภาษีนำเข้าสินค้า ใน 2 กลุ่มแรก ซึ่งมีอยู่ประมาณกว่า 1,400 รายการ ให้เป็น 0% ทั้งหมด

"เราทำตุ๊กตาไว้ให้เขาแล้ว โดย เราอยากให้ 2 กลุ่มแรก มีภาษีเป็น 0% แต่ก็ให้เขากลับไปดูข้อมูลเพิ่มเติมว่า สามารถทำได้หรือไม่ มีรายการใดบ้างที่เป็นปัญหา ก็ให้เขาแจ้งกลับมาอีกครั้งในวันจันทร์หน้า" นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับโครงสร้างภาษีในครั้งนี้ จะแก้ไขปัญหาความลักลั่นของโครงสร้างภาษีระหว่างสินค้าต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ซึ่งหลังการปรับโครงสร้างภาษีแล้ว จะทำให้เกิด ประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมกลุ่มนี้ใน 3 ด้านหลัก คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ผลิตสินค้าประเภทเครื่องใช้ฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอ็สเอ็มอี) ในประเทศให้มีมากขึ้น และ 3. ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตในภูมิภาค

ส่วนรายได้ภาษีที่ต้องสูญเสียจากการปรับโครงสร้างภาษีในครั้งนี้ คิดเป็นเม็ดเงินไม่สูงมาก และจะไม่กระทบต่อเป้ารายได้ภาษีของกรมศุลกากรในปีงบประมาณ 2549 นี้ อย่างไรก็ตาม ในการปรับโครงสร้าง ภาษี 3 กลุ่ม คือ กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มชิ้นส่วนและยานยนต์ และกลุ่มอาหารแปรรูป ที่มีพิกัดอยู่เกือบ 5,000 รายการนั้น ครอบคลุมรายได้นำเข้าภาษีของกรมศุลกากรเกือบทั้งหมด ซึ่งภายใน 15 ปี รายได้ภาษีศุลกากรที่จัดเก็บอยู่ประมาณ 1 แสนล้านบาท ในปัจจุบันจะหายไปทั้งหมด

สำหรับการดำเนินการปรับโครงสร้างภาษีศุลกากรครั้งนี้ สืบเนื่องจากนายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้กำชับให้มีการศึกษาโครงสร้างภาษีอย่างเร่งด่วน หลังจากที่ประเทศสหรัฐฯ ได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนที่จะให้มีการลดภาษีศุลกากรขาเข้าให้เหลือ 0% ภายในปีค.ศ. 2015 หรือ พ.ศ. 2558 ขณะที่สหภาพยุโรปเองเห็นด้วยกับจุดยืนดังกล่าวแล้ว แต่จะต้องมีการทบทวนอีกครั้ง ดังนั้นประเทศไทยเองจะต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างเพื่อเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us