|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
ไทยแอร์เอเชียวางแผนปีหน้า เล็งเพิ่มเครื่องบินและเส้นทางบินใหม่ๆ เผยปีนี้หนักรับ ผลกระทบจากปัจจัยลบเพียบ ต้องปรับลดรายได้ลง 15% และลดเป้า ผู้โดยสารลง เร่งหารายได้เสริมช่องทางอื่นๆ มาโปะรายได้แทน เผย สก๊อตกับโซล่าตรอนประเดิม ลงโฆษณาบนเครื่องบิน คาดรายได้ปีหน้าจากโฆษณา 50 ล้านบาท
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย แอร์ เอเชีย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) ในนาม "ไทย แอร์ เอเชีย" เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 2549 ว่า บริษัทฯมีแผนที่จะขยายธุรกิจเต็มที่ทั้งในด้านการขยายเส้นทางบินใหม่ๆและการเพิ่มจำนวนเครื่องบิน ซึ่งปีหน้าเตรียมนำเข้าเครื่องบินโบอิ้งใหม่อีกประมาณ 6-10 ลำ พร้อมกับการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆ ซึ่งจะอยู่ในรัศมีการบินไม่เกิน 3-3.5 ชั่วโมง จำนวน 5-6 เส้นทาง เช่น เส้นทางตอนใต้ของจีน เช่น เสิ่นเจิ้น กวางเจา คุนหมิง เป็นต้น และยังมีฮ่องกง ย่างกุ้ง อินเดียด้วย โดยในปีหน้า ตั้งเป้าหมายที่จะมีผู้โดยสารประมาณ 4 ล้านราย
สำหรับการดำเนินงานในปีนี้ เนื่องจากในปีนี้ภาวะทางด้านเศรษฐกิจ มีปัจจัยลบอย่างมากไม่ว่าจะเป็นราคา น้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ภัยธรรมชาติที่รุนแรง และเหตุการณ์ทางภาคใต้ และล่าสุดคือ เหตุการณ์อุทกภัยในจังหวัดทางภาคเหนือ ทำให้บริษัทฯต้องปรับลดตัวเลขรายได้และจำนวนผู้โดยสารลงเพื่อให้สอดรับกับความเป็นจริง
ทั้งนี้ เป้าหมายเดิมตั้งว่าภายในปีนี้จะมีตัวเลขผู้โดยสารมากถึง 2-2.3 ล้านคน แต่คาดว่าจะสามารถทำตัวเลขผู้โดยสารได้จริงประมาณ 1.8-2 ล้านคนเท่านั้น รวมทั้งรายได้ ที่เดิมตั้งไว้ 2,000 กว่าล้านบาท ก็จะต้องปรับลดลงประมาณ 15%
ขณะเดียวกัน ยังได้ปรับลดจำนวนเที่ยวบินลงบ้างในบางเส้นทาง เช่น ล่าสุด เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียง-ใหม่ จะลดลงเหลือเพียง 1 เที่ยวบินต่อวัน จากเดิมที่มีจำนวน 3 เที่ยวบิน ต่อวัน ในช่วงวัน 1-15 ตุลาคมนี้ แม้ว่าในปีนี้จะมีปัจจัยลบอย่าง มาก แต่คาดว่าภายในปีหน้าสถานการณ์ทุกอย่างน่าจะเริ่มดีขึ้นบ้าง โดยในเดือนหน้าสถานการณ์น่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนั้นแล้ว ปัญหาของการมีเครื่องบินที่บริการไม่เพียงพอ เนื่องจากบริษัทฯไม่ได้รับส่งมอบเครื่องบินใหม่ตามแผนงานที่กำหนดเอาไว้จำนวน 2 ลำ ได้ทัน จึงส่งผลกระทบต่อรายได้ เพราะทำให้แผนเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-ฮานอย ที่วางแผนจะเริ่มให้บริการได้ในวันที่ 17 ตุลาคมศกนี้ และเส้นทางบิน กรุงเทพฯ-พนมเปญ ที่วางแผนจะให้บริการช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ศกนี้ จำนวน 1 เที่ยวบินต่อวันทั้งสอง เส้นทาง ต้องเลื่อนออกไปอย่างน้อย 3 เดือน
จากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้บริษัทฯ ได้พยายามหาช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่ๆเข้ามาเสริม โดยเฉพาะการขายพื้นที่โฆษณาบนตัวเครื่องบิน ซึ่งได้แต่งตั้งให้บริษัท แมกซ์ เมเกอร์ จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงาน โดยปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแล้วจำนวน 2 รายคือ เครื่องดื่มรังนกและซุปไก่สก๊อตและบริษัทโซล่าตรอน จำกัด (มหาชน) นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการเจรจาอีกประมาณ 4 ราย ซึ่งบริษัทฯคิดค่าบริการในการโฆษณาของลูกค้าเป็นแบบแพกเกจมูลค่า 7 ล้านบาทต่อปี โดยคาดว่าการทำพื้นที่โฆษณาบนเครื่องบินนี้จะทำให้บริษัทฯมีรายได้เข้ามาประมาณ 30-50 ล้านบาทใน ปีหน้า นอกจากรายได้จากการโฆษณาแล้ว ยังได้เปิดพื้นที่ให้เช่าทาง ด้านการขนส่งสินค้ากับสายการบินลุฟท์ฮันซ่าด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯมีเป้าหมายที่จะทำรายได้จากการให้บริการต่างๆที่เข้ามาเสริมเป็นช่องทางใหม่นี้ในสัดส่วน 10-15% นอกจากการขายตั๋ว ที่ยังคงเป็นรายได้หลักกว่า 90% ในปัจจุบัน
นายทัศพลกล่าวถึงการเปิดสนามบินสุวรรณภูมิในปีหน้าด้วยว่า ขณะนี้ยังไม่มีความแน่ชัดจากทางภาครัฐในส่วนของการจัดการกับสายการบินต้นทุนต่ำว่าจัดพื้นที่ให้อย่างไร อย่างไรก็ตาม บริษัทฯก็พร้อมที่จะจ่ายค่าอัตราภาษีสนามบินเพิ่มอีก 15% ตามที่มีกระแสข่าวว่าจะเก็บเพิ่ม แต่ก็ยังเชื่อว่ายังไม่น่าจะปรับขึ้น เพราะว่าภาครัฐมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินของเอเชีย ซึ่งราคาค่าบริการนั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวด้วย
|
|
|
|
|