Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 ตุลาคม 2548
ธอส.ดิ้นหาเงินทุนปล่อยสินเชื่อบ้าน หวังขอกู้ออมสินปีละ3หมื่นล้านบาท             
 


   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารอาคารสงเคราะห์

   
search resources

ธนาคารอาคารสงเคราะห์
Real Estate
Loan




ธอส. ดิ้นหาเงินทุนปล่อยกู้สินเชื่อบ้าน คลังจับออมสินปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ สรุปรายละเอียดวงเงินสัปดาห์หน้า "ขรรค์" แย้มต้องการเงินทุนอายุ 3 ปี จากออมสินปีละ 30,000 ล้านบาท ขณะที่ออมสินฟันธงคงเป็นไปได้ยาก เหตุเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ระดมเงินฝากลำบาก และหวั่นผลกระทบความสามารถในการทำกำไร ด้านธอส.เล็งปรับขึ้น ดอกเบี้ยอีกระลอก

นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะกำกับดูแลธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารออมสิน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเรื่อง การจัดการเงินทุนเพื่อปล่อยกู้สินเชื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. ว่า ที่ประชุมมีข้อสรุปร่วมกันที่ต้องการให้ธนาคาร ออมสินจัดหาเงินทุนระยะยาวให้กับธอส. เนื่องจากธนาคารออมสินมีจุดเด่นและความถนัดในเรื่องจากการระดมเงินฝาก ขณะที่เงินฝากของธอส. ส่วนใหญ่จะเป็นเงินฝากระยะสั้น ซึ่งไม่สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจหลักในการปล่อยสินเชื่อ ที่อยู่อาศัยระยะยาว

สำหรับแผนระยะยาวนั้น ธอส. จะต้องบริหารจัดการแหล่งที่มา และการใช้ไปของเงินทุนให้สอด คล้องกัน ซึ่งทางเลือกหนึ่งก็คือ การ นำนวัตกรรมทางการเงินเข้ามาช่วย เช่น การแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) ซึ่งจากการหารือเบื้องต้น ธอส.จะมีการทำซีเคียวริไทเซชัน โดยใช้สินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารเป็นหลักทรัพย์ จำนวน 20,000 ล้านบาท หรือประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นสกุลเงินดอลลาร์จำหน่ายในต่างประเทศในช่วงกลางปีหน้า

นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ปัจจุบันวงเงินการปล่อยสินเชื่อของธนาคารอยู่ในระดับสูง โดยในเดือน กันยายน มียอดสินเชื่อถึง 13,000 ล้านบาท และเดือนสิงหาคม มียอด สินเชื่อ 13,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 3 เดือนหลังของปีคาดว่าวงเงินสินเชื่อก็จะอยู่ในระดับหมื่นล้านบาท

"ปัจจุบันธนาคารมีปัญหาเรื่อง เงินกู้และเงินฝากที่ไม่สอดคล้องกัน เนื่องจากเป็นช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ไม่ฝากเงินออมทรัพย์ระยะยาว เพราะหวังว่าอัตราดอกเบี้ยจะขยับขึ้นอีก ขณะที่เงินกู้ส่วนใหญ่จะเป็นสินเชื่อคงที่ระยะ 3 ปี ดังนั้น ธนาคารจึงต้อง การเงินทุนที่มีอายุ 3 ปี เพื่อนำมาใช้ปล่อยกู้ในส่วนดังกล่าว"

อย่างไรก็ตาม การหารือกันใน ครั้งนี้ ยังไม่ได้ลงรายละเอียดวงเงิน และส่วนต่างที่ธอส.จะต้องจ่ายให้กับธนาคารออมสิน โดยรมช.คลังให้กลับไปสรุปในรายละเอียดเพื่อนำกลับมาหารือกันอีกครั้งภายในสัปดาห์หน้า แต่เบื้องต้นธอส.มีแผนอยู่ในใจว่า ต้องการวงเงินจากออมสินปีละ 30,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ จะมีการทำซีเคียว-ริไทเซชัน ซึ่งนอกจากวงเงิน 20,000 ล้านบาท หรือ 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่จะออกเป็นสกุลเงินดอลลาร์ขายในต่างประเทศแล้ว จะมี การทำซีเคียวริไทเซชันวงเงินอีกประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท จำหน่ายในประเทศด้วย โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการหาที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งธนาคารกำลังเร่งเรื่องการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เพื่อเคลียร์บัญชีของธนาคารก่อนที่จะให้บริษัทจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ มาทำเรตติ้ง ตราสารที่จะนำออกโรดโชว์ที่ฮ่องกง ในเดือนมกราคม 2549 นี้

ด้านนายวรวิทย์ ชัยลิปมนตรี รองผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน กล่าวว่า ธนาคารมีเงินฝากระยะสั้น อายุต่ำกว่า 3 ปีประมาณ 70% ของเงินฝากทั้งหมด แต่สภาพคล่องของ ธนาคารมีอยู่ประมาณ 50,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สูงมากนัก เมื่อ เทียบกับสินทรัพย์ที่มีอยู่ประมาณ 600,000 ล้านบาท ดังนั้น การดึง สภาพคล่องที่มีอยู่ไปให้ ธอส.ใช้สำหรับปล่อยสินเชื่อโดยตรง อาจส่งผลกระทบต่อธนาคารได้ เพราะออมสินเป็นรัฐวิสาหกิจที่ต้องถูกประเมินผลการดำเนินงาน หากมีการปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำให้ ธอส.ก็จะทำให้ความสามารถในการทำกำไรน้อยลง ซึ่งทำให้ผลการประเมินออกมาไม่ดีได้

อย่างไรก็ตาม ออมสินคงจะเข้า ไปช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่จะต้องมีการหารือในรายละเอียดอีกมาก โดยเฉพาะใน เรื่องของอัตราดอกเบี้ยและรูปแบบของการหาแหล่งเงิน รวมถึงเงื่อนไข ต่างๆ หากธอส. รับได้ ธนาคารออมสิน ก็พร้อมจะระดมทุนให้ แต่วงเงินจำนวน 30,000 ล้านบาท นั้น คงเป็นไปได้ยาก เพราะขณะนี้เป็นช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และในตลาดมีระดับการแข่งขันในเรื่องอัตราผลตอบแทนระดมเงินฝาก ค่อนข้างสูง

นายขรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธอส.อยู่ระหว่างพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของธนาคารขึ้นอีกรอบ หลังจากได้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2548 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 3.5% 4.5% และ 5.5% สำหรับอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ระยะ 3 ปี 4 ปี และ 5 ปี ตามลำดับ ซึ่งถือเป็นการปรับครั้งที่ 2 ในรอบปีนี้

โดยการที่ต้องปรับดอกเบี้ย เพราะต้นทุนดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ ในระดับสูง โดยต้นทุนเงินกู้อายุ 6 เดือนของธนาคารอยู่ที่ 3.5% ทำให้ ส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.5% จากที่เคยอยู่ในระดับ 2% ก่อนหน้านี้   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us