Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน11 ตุลาคม 2548
พายัพ-จึงรุ่งเรืองกิจพัวพัน กลเกมไล่ราคา4หุ้นร้อน             
 


   
search resources

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ
Stock Exchange
พายัพ ชินวัตร




เผย 4 หุ้นร้อน อีสเทิร์นไวร์-ซาฟารี-แอ๊ดคินซัน-แอ๊ดคินซันวอร์ 4-บีเอ็นที ล้วนมีขาใหญ่พัวพันการเมืองถือหุ้นใหญ่ "พายัพ ชินวัตร" "จึงรุ่งเรืองกิจ" แม่เหล็กเรียกรายย่อยเข้าติดพันราคาหุ้นพุ่ง โดยเฉพาะแอ๊ดคินซัน เป้าหมายเดินเกมล่อรายย่อยหวังปล่อยของแพงแต่ถ้าติดเองเปลี่ยน แผนเข้าเทกโอเวอร์ "กิตติรัตน์" ยันมี 10 หุ้นจาก 480 หุ้นใน ตลท. ที่มีขาใหญ่เงินหนาคุมเกม

กลุ่มทุนการเมืองที่รุกถือหุ้นกิจการในตลาดหลักทรัพย์ฯถูกจับตามองอีกครั้ง เมื่อราคาหุ้นที่กลุ่มทุนการเมืองและนักการเมืองเข้าไปลงทุนถือหุ้นกลับมาร้อนแรงหวือหวา ที่สำคัญเมื่อกลุ่มดังกล่าว ขยับขยายไปลงทุนในหุ้นตัวอื่นตัวใดเพิ่ม หุ้นตัวนั้นมีอันต้องราคาวิ่งกระฉูด จนกล่าวกันว่า หน่วยงาน กำกับดูแลทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จากนี้ไปคงอยู่ในสภาพที่อยากจะรับมือกับกลเกมการหาผล ประโยชน์จากตลาดหลักทรัพย์ฯของกลุ่มทุนการเมืองที่มีฐานะเป็นนักลงทุนรายใหญ่เงินหนา

"ผู้จัดการรายวัน" รวบรวมการถือครองหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯของกลุ่มทุนการเมือง และนักลงทุนรายใหญ่ที่พัวพันกับกลุ่มการเมือง ซึ่งพบ ว่ามีจำนวน ถึง 20 บริษัท โดยในจำนวนนี้มี 4 หุ้น ที่มีความเคลื่อนไหวร้อนแรงและผันผวนสูงเป็นระยะๆ จนตลาดหลักทรัพย์ฯต้องใช้มาตรการห้าม ซื้อขายแบบหักกลบ(เน็ตเซตเทิลเมนต์) และเงินกู้(มาร์จิ้น) กับหุ้น และใบสำคัญแสดงสิทธิ์ในหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) สกัดความร้อนแรง

ทั้งนี้หุ้นร้อนแรงดังกล่าวพบว่า มีชื่อนายพายัพ ชินวัตร นักการเมืองและน้องชายนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และกลุ่มตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจ ของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรมเข้าไปถือหุ้นใหญ่ด้วย

1) หุ้นบมจ.บีเอ็นที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ (BNT) ณ 28 มิ.ย. มี นายพายัพ ชินวัตร ถือหุ้น ในลำดับที่ 3 สัดส่วน 4.38% ซึ่งก่อนหน้านี้ตกเป็น ข่าวพัวพันกับกลุ่มปิคนิคคอร์ปอเรชั่น (PICNI) ทำให้ราคาทรุดลงไปแต่ตลอดทั้งปี 2548 ราคาเพิ่ม ขึ้น 6.38% โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 1.40 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ 0.40 บาท

2) หุ้นบล.แอ๊ดคินซัน (ASL) ณ 11 เม.ย. มี นายพายัพ ชินวัตร ถือหุ้นในลำดับที่ 5 สัดส่วน 2.41% ราคาหุ้นร้อนแรงเป็นพักๆ โดยตลอดปี 2548 ราคาปรับขึ้น 24.16% โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 10.50 บาท และต่ำสุดอยู่ที่ 5.75 บาท โดยเฉพาะในส่วนของ ASL-W4 ซึ่งร่ำลือว่ามีนักลงทุนรายใหญ่เข้าไปร่วมลุยด้วย ราคาร้อนแรงกว่าจนขณะนี้ยังอยู่ในช่วงที่ ตลท.ใช้มาตรการห้ามซื้อขายด้วยเน็ตฯและมาร์จิ้นอยู่ 30 วัน (5 ต.ค. - 16 พ.ย.)

3) บมจ.อีสเทิร์นไวร์ (EWC) ที่ล่าสุดมี นาย โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ได้เข้าไปถือหุ้นใหญ่ 17% จน ราคาหุ้นที่เคยทรุดลงไปที่ 11 บาทตีกลับขึ้นมาแตะ 28 บาทเมื่อไม่นานนี้ ราคาวิ่งจน ตลท.ขยายมาตรการห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้นอีก 30 วัน (5 ต.ค. -16 พ.ย. )
4)บมจ.ซาฟารี ปรากฏว่า ณ 25 พ.ค. มีกลุ่ม ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจเข้าไปถือหุ้นใหญ่ โดยนายทวีฉัตร จุฬางกูร 9.25%, นางหทัยรัตน์ จุฬางกูร 1.60%, นาณัฐพล จุฬางกูร 1.25% และนายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ 0.63% โดยราคาหุ้นปี 2548 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.82 บาท หรือ 26.11% โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 4.98 บาท และราคาต่ำสุดอยู่ที่ 2.90 บาท ลุย ASL-W4 ถ้าติดก็เทกฯ

สำหรับหุ้น ASL และ ASL-W4 ขณะนี้เป็น ที่ร่ำลือกันมากว่า กลุ่มทุนการเมืองและนักลงทุนรายใหญ่ที่เป็นเครือข่ายวางแผนเข้าไปซื้อและไล่ราคาโดยหวังจะออกของด้วยการปล่อยข่าวดีออกมา

แหล่งข่าวจากโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า ASL-W4 ราคาปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นและเป็นการซื้อขายด้วยกระจุกตัวจนทำให้ ตลท.ใช้มาตรการสกัดความร้อนแรง โดยห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้น โดยมีการปล่อยข่าวว่า กลุ่ม "เสี่ย พ." กับ "เสี่ย ส." เข้ามาร่วมไล่ราคาหุ้น โดยระบุกันว่า "เสี่ย ส." คือ นายสอง วัชรศรีโรจน์ อดีตนักลงทุนรายใหญ่ชื่อดัง

"เกมนี้ถ้านักลงทุนรายย่อยเข้าไปไล่ซื้อหุ้นตาม นักลงทุนรายใหญ่ทั้งสองกลุ่ม ก็พร้อมที่จะขาย ทำกำไรออกมา แต่ถ้าไม่มีนักลงทุนเข้าไปไล่ซื้อ ASL-W4 ตามนักลงทุนรายใหญ่ก็จะปรับแผนโดย จะทยอยซื้อเพิ่มขึ้นอีก เพื่อแปลงสภาพวอร์แรนต์เป็นหุ้นสามัญ หวังถือหุ้นใหญ่ และจะส่งตัวแทนเข้ามาเป็นผู้บริหารใน บล.แอ๊ดคินซันต่อไป"

ด้านแหล่งข่าวจากโบรกเกอร์อีกราย กล่าวว่า ASL-W4 มีกลุ่มทุนการเมืองและเครือข่ายเข้าไปลุย ซื้อขายเป็นเกมการหาเงินจากตลาดหุ้น แต่ในส่วน ที่ระบุว่า "เสี่ย ส." คือ นายสอง วัชรศรีโรจน์ นั้นเชื่อว่าเป็นการปล่อยข่าวลือ เพราะปัจจุบันนายสอง หลังจากที่เคยถูกกล่าวหาในคดีสร้างราคาหุ้น ในอดีตก็ค่อนข้างเก็บตัว และไม่ใช่นักลงทุนรายใหญ่เงินหนาเหมือนในอดีตที่พร้อมจะเสียหายได้อีกแล้ว
นางอาภา คิ้วคชา ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บล.แอ๊ดคินซัน เปิดเผยว่า เชื่อว่ามีนักลงทุนเข้ามาสร้างราคา ASL-W4 อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่รู้ว่านักลงทุนดังกล่าวเป็นผู้ใดเนื่องจากจะต้องรอให้มีการ ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นในวันที่ 15 ธ.ค. 48 เสียก่อน และจะต้องรอดูว่ามีผู้มาใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนต์ให้เป็นสามัญว่าเป็นผู้ใดโดยกำหนดวันที่แปลงสภาพวันที่ 16 ม.ค. 49

แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถตอบได้ว่า กลุ่มที่เข้ามาสร้างราคา ASL-W4 จะเป็นกลุ่มเดียว กับนักลงทุนที่เก็งกำไรในหุ้นซาฟารีเวิลด์ด้วยหรือไม่ นอกจากนี้นับตั้งแต่ ตลท.ห้ามไม่ให้ซื้อขายด้วย เน็ตฯและมาร์จิ้น ASL-W4 นั้น ปรากฏว่า ตลท. ก็ยังไม่ได้มีการขอข้อมูลการซื้อขายมายังบริษัทแต่อย่างใด

"ก่อนหน้านี้เคยมีการปล่อยข่าวลือในห้องค้า ว่าบริษัทได้ขายใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ของ บล.เอเพกซ์ไปได้แล้ว จึงทำให้เข้ามาเก็ง กำไรในหุ้น ASL ซึ่งในความจริงยังไม่ได้ขายใบอนุญาตเลย และเมื่อมีการปล่อยข่าวดังกล่าวทำให้ บริษัทต้องหยุดดำเนินการต่างๆ เกี่ยวกับการขายใบ อนุญาตเพื่อให้ทุกอย่างนิ่งก่อน" นางอาภากล่าว

แกะรอย "เสี่ย พ.-ส."

สำหรับอักษรย่อ "เสี่ย พ." กับ "เสี่ย ส." ที่กล่าวขานกันมากในตลาดหุ้นไทย นั้นล่าสุดพบว่า "เสี่ย ส." มีถึง 2 คนด้วยกัน โดย "เสี่ย ส." แรกนั้นปรากฏว่าพัวพันรายการข่มขู่นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ สำนักงาน ก.ล.ต.

แหล่งข่าวจากวงการโบรกเกอร์ เปิดเผยว่า กรณีจดหมายพร้อมลูกกระสุนปืนที่ส่งไปข่มขู่นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. และนางนวลพรรณ ล่ำซำ นั้นมาจากผู้เสียผลประโยชน์จากกรณีหุ้นปิคนิค ไม่ใช่กรณี BNT เพียง อย่างเดียว เนื่องจาก ก.ล.ต. โดยนายธีระชัย สั่งให้ปิคนิคแก้ไขงบการเงิน จนทำให้ปิคนิคไม่สามารถ เพิ่มทุนได้ทันเวลาประกอบกับเป็นช่วงเวลาที่ตลาด หุ้นซบเซาทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาสภาพคล่องได้ทันเวลา นำไปสู่ปัญหาการไม่สามารถชำระคืนหนี้ เงินกู้ระยะสั้น หรือ ตั๋วแลกเงินบีอีได้ และ ก.ล.ต. ยังออกมากล่าวโทษ 2 ผู้บริหารปิคนิคตามมาภายหลัง

เมื่อ ตลท.อนุญาตให้หุ้นปิคนิคซื้อขายได้เมื่อ ได้เคลียร์ปัญหาเรื่องงบการเงิน ความเสียหายเกิด ขึ้นกับหุ้นปิคนิค โดยราคาหุ้นได้ปรับลดลงจากที่เคยอยู่เหนือระดับ 10 บาท ก็ลงมาเคลื่อนไหวที่ 2-3 บาท ขณะนั้นมีการคำนวณความเสียหายจากมูลค่าหุ้นปิคนิคที่หายไปตกประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

ดังนั้นผู้อยู่เบื้องหลังรายการข่มขู่นายธีระชัยจึงเป็น "เสี่ย ส." ที่เสียหายจากกรณีหุ้นปิคนิค เพียงแต่ "เสี่ย ส." เป็นคนใกล้ชิดนักการเมืองและพัวพันกับ "เสี่ย พ."เท่านั้น

ขณะที่ "เสี่ย ส." คนที่สอง ที่ว่ากันว่า เป็นคู่หูร่วมกับ "เสี่ย พ." ซื้อขายหุ้นร่วมกันตัวจริง ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นบิ๊ก บมจ.อีเอ็มซี (EMC) คนหนึ่ง และเคยถือหุ้นใน บมจ.ซิโน-ไทย รีซอร์เซส ดีเวลลอปเม้นท์ (STRD)ด้วยกัน ความใกล้ชิดในการซื้อขายหุ้นค่อนข้างมาก ถึงขั้นมีห้องบัญชาการอยู่ในตัวอาคารเดียวกัน "โต้ง" ยันมี 10 หุ้นขาใหญ่คุม

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยมีนักลงทุนราย ใหญ่ซึ่งมีเงินทุนจำนวนมากเข้ามาซื้อขายหลายครั้ง กลายเป็นลูกค้ารายใหญ่ของโบรกเกอร์ ซึ่งทำให้โบรกเกอร์มีความเกรงใจเมื่อมีจัดสรรหุ้นอะไรโบรกเกอร์ก็จะหาหุ้นให้นักลงทุนรายใหญ่ก่อน

ปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนมี 480 บริษัท โดยเป็นหุ้นที่มีความเสี่ยงราคาเคลื่อนไหวหวือหวา และมีนักลงทุนรายใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องไม่เกิน 10 บริษัท คือหุ้นที่ตลาดหลักทรัพย์มีการขึ้นเครื่อง- หมายห้ามเน็ตฯและมาร์จิ้น ซึ่งนักลงทุนควรที่จะระมัดระวัง

"พวกนี้เรียกว่าขาใหญ่ อย่าเรียกว่ามาเฟียเลย ยอมรับว่าในตลาดหุ้นไทยมีขาใหญ่ที่มีเงินเยอะเข้ามาซื้อขายหลายครั้ง มีผลต่อราคา แต่ก็อยากให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่านักลงทุนรายใหญ่ จะไม่ส่งผลกระทบตˆอระบบโดยรวม เพราะ ตลท. มีวิธีในการดูแลปกป้องระบบไม่ให้ได้รับผลกระทบจากขาใหญ่ โดยการห้ามเน็ตเซตเทิลเมนต์ และห้ามมาร์จิ้น โดยจะช่วยในเรื่องป้องกันความ เสี่ยงการชำระราคาหลักทรัพย์ฯซึ่งก่อนหน้าตลาดหลักทรัพย์ฯก็มีการให้วางหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ นักลงทุนโดยรวมนั้นก็รู้ว่าหุ้นตัวไหนที่มีความไม่ปกติก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบ"

ทั้งนี้ คงไม่มีมาตรการอะไรมากไปกว่านี้ ถ้าไปห้ามไม่ให้นักลงทุนมีการซื้อขายก็เป็นไปไม่ได้ เพราะนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นก็หวังที่จะทำให้ราคามีการเคลื่อนไหว

"การที่มีผู้ใหญ่ เช่น ก.ล.ต.มีการกำชับมาก็จะต้องมีการสำรวจการปฏิบัติงาน ต้องดูว่ามีประเด็นอะไรที่ต้องทำเพิ่มเติมจากราคาหุ้นผันผวน ซึ่งตนเองก็อยากให้ผู้ใหญ่ ผู้ลงทุน มีความสบายใจ เพียงแต่การทำงานของ ตลท.นั้นก็จะถูกใจคนบางกลุ่ม แต่ก็จะไม่ถูกใจคนอีกกลุ่มหนึ่ง"   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us