TA เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน"ไทยสมาร์ทคาร์ด" 10.76% หลังจากที่ผู้ถือหุ้นเดิมคือซีพี
เซเว่น อีเลฟเว่น สละสิทธิ์ในการใช้สิทธิ์ หวังเพิ่มช่องทางและโอกาสในการทำธุรกิจในอนาคต
โดยจะใช้เงินทุนหมุนเวียนในการซื้อหุ้นดังกล่าวจำนวน 42.50 ล้านบาท
นายอธึก อัศวานันท์ รองประ ธานกรรมการ และหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกฎหมาย
บริษัท เทเลคอมเอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ TA แจ้งว่าบริษัทฯ จะเข้าทำการ
ลงทุนในหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด ในสัดส่วนร้อยละ
10.76 ของหุ้นที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุน อันจะส่งผลให้บริษัทฯ
มีศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจเพิ่มขึ้น
เนื่องจาก บริษัทไทยสมาร์ท คาร์ด ทำการออกหุ้นเพิ่มทุน และบริษัท ซี.พี.
เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) ได้สละสิทธิในการใช้สิทธิ ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม
ทั้ง TA และ บริษัท ซี.พี. เซเว่นอีเลฟเว่น ต่างก็มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่รายเดียวกัน
คือ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือ CP
โดย TA จะเข้าทำการลงทุน ในหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ บริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด
จำกัด จำนวน 4,250,000 หุ้น (มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท) ในราคาหุ้นละ
10 บาท รวมเป็นเงิน 42,500,000 บาท คิดเป็นอัตราส่วนร้อยละ 10.76 ของหุ้น
ที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด (ภายหลังการเพิ่มทุน)
โดยหุ้นดังกล่าว เป็นหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือจากการ จองซื้อของผู้ถือหุ้นเดิม
คือ บริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหา-ชน) โดย TA จะใช้เงินทุนหมุนเวียน
ในการซื้อหุ้นของ ไทยสมาร์ทคาร์ด ในครั้งนี้
บริษัท ไทยสมาร์ทการ์ด จำกัด ดำเนินธุรกิจเป็นศูนย์กลางให้บริการการเคลียริ่งของระบบการ
จ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้บริการชื่อ DIGITAL PURSE และมีทุนจดทะเบียนก่อนการเพิ่มทุนจำนวน
100,000 บาท โดยเป็นหุ้นสามัญจำนวน 10,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10
บาท ซึ่งหลังการ เพิ่มทุนแล้วจะทำให้บริษัทมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 395,000,000
บาท โดยเป็นหุ้นสามัญ 39.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท
สำหรับการลงทุนดังกล่าว จะทำให้ TA ได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนคือ ได้รับสิทธิพิเศษในบริการใหม่ของบริษัท
ไทยสมาร์ท คาร์ด จำกัด ในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคม และได้รับประโยชน์จากการขยายโครงข่ายเมื่อบริการของโครงการเป็นที่ยอมรับ
ซึ่งจะเป็นช่องทางในการเสนอสินค้าและบริการของบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถนำ
Digital Card มาร่วมใช้ในการส่งเสริมโครงการ Loyalty Program ของบริษัทฯ
ให้มีความโดดเด่น และแตกต่างจากคู่แข่งขันในตลาดโทรคมนาคม
เพราะการมีความหลากหลายในการทำธุรกิจ ย่อมได้เปรียบคู่แข่งทางการค้า และจะเป็น
การรักษาลูกค้าของบริษัทไว้ได้ด้วย นอกจากนี้การให้บริการที่เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้า
ถือเป็นการสนับสนุนช่องทางในการทำธุรกิจให้กับ TA
ทั้งนี้ ทางไทยสมาร์ทคาร์ด ได้เตรียมสร้างระบบเครือข่ายสำหรับให้บริการบัตรเงินสดและทำการตลาด
เพื่อให้เกิดความเข้าใจและการตื่นตัวของประชาชน ในการจับจ่ายใช้สอยด้วยรูปแบบการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
สำหรับสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ไทยสมาร์ทคาร์ด จำกัด ก่อนหน้านี้ มีผู้ถือหุ้น
8 ราย คือ บริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) 10.76% ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด ถือหุ้นรายละ
10% บริษัท เน็ทส์ แห่งประเทศสิงคโปร์ 8.5% บริษัทเอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน)
3% และหุ้นที่เหลือ บริษัท วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จะเป็นผู้ติดต่อหาผู้ร่วมทุน
รายใหม่เข้ามา ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ TA
ทั้งนี้ไทยสมาร์ทคาร์ด ยังแผนที่จะลงทุนระบบเครือข่ายหลัก เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อระหว่าง
บริษัทไทยสมาร์ทคาร์ด กับเครื่องรับบัตร หรือ POS terminal กว่า 15,000 เครื่องที่จะมีการติด
ตั้งทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล และลงทุนเครื่องเติมเงินหรือ Loading terminal
กว่า 3,000 เครื่อง รวมถึง ATM ตู้โทรศัพท์สาธารณะ และเครื่องเติมเงินตามร้านค้าทั่วไปและธนาคารผู้ให้บริการด้วย
ซึ่งจะใช้เวลาติดตั้งแล้วเสร็จภายใน 3 ปี และหลังจากนั้นจะออกสู่ต่างจังหวัด
การทำธุรกรรมทางการเงินดังกล่าวนี้ ไทยสมาร์คาร์ด ได้ติดต่อกับพันธมิตรทางธุรกิจที่จะรับบัตรเพื่อชำระค่าสินค้าและบริการแล้ว
22 ราย คือร้านอาหารฟาสต์ฟูดส์ รถไฟฟ้าบีทีเอส ปั๊มน้ำมันต่างๆ เป็นต้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ไทยสมาร์ท คาร์ด จำกัด กล่าวว่า การเชื่อมต่อระหว่างไทยสมาร์ทคาร์ดกับเครื่องรับบัตรนั้น
ทางTA จะเป็นผู้ที่วางเครือข่ายทั้งหมดของตู้รับบัตรนี้ ซึ่งTAจะได้ประโยชน์จาก
DIGITAL PURSE โดยเอื้อต่อธุรกิจหลักอย่างมาก เช่น จะลิงค์กับตู้โทรศัพท์สาธารณะของTA
โดยบัตรไทยสมาร์ท คาร์ดจะนำมาใช้ในตู้โทรศัพท์สาธารณะของTA ได้ จากเดิมที่เป็นตู้โทรศัพท์แบบหยอดเหรียญ
คาดว่าจะนำมาใช้ได้ประมาณปีหน้านี้
ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการดูแลรักษาตู้โทรศัพท์แบบหยอดเหรียญ และค่าใช้จ่ายด้านบุคลาการต่างๆ
เพราะตู้โทรศัพท์แบบหยอดเหรียญจะได้รับความเสียหายจากการถูกงัดแงะเพื่อขโมยเงินค่อนข้างมาก
โดย TA จะนำตู้โทรศัพท์ฯแบบใช้บัตรมาติดตั้งเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังสามารถนำบัตรของสมาร์ท คาร์ดมาใช้ประโยชน์ร่วมกับโทรศัพท์มือถือทีเอ
ออเร้นจ์ หรืแม้แต่โทรศัพท์บ้านหรือพีซีที นับเป็นการเอื้อประโยชน์ในการทำการค้าร่วมกัน
ทั้งนี้ ไทยสมาร์ทคาร์ดตั้งเป้าลูกค้าที่ถือบัตร ไว้ปีแรกไว้ 9 แสนใบ โดยเน้นกลุ่มวัยรุ่นและลูก
ค้าที่ซื้อสินค้าในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นเป็นหลัก