Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 ตุลาคม 2548
พรีมาเวสท์คลอดFIFกองแรก ลงทุนตราสารหนี้ความเสี่ยงต่ำ             
 


   
www resources

โฮมเพจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน พรีมาเวสท์ จำกัด (มหาชน)

   
search resources

พรีมาเวสท์, บลจ. - Prima Vest
เพิ่มพล ประเสริฐล้ำ
Investment




พรีมาเวสท์ได้ฤกษ์คลอด FIF สิ้นเดือนตุลาคมนี้ เผยลงทุนในตราสารหนี้ที่เน้นความเสี่ยงต่ำเป็นหลัก โดยเลือกลงทุนเฉพาะภูมิภาค "เพิ่มพล" เชื่อดีมานด์เพิ่มต่อเนื่องหลังผู้ลงทุนเข้าใจการลงทุนมากขึ้น พร้อมเปิดขายหน่วยลงทุนได้พฤศจิกายนนี้ ด้านกองทุนตราสารหนี้ เตรียมระดมทุนเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท ประเดิมส่ง "กรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น" มูลค่า 2,000 ล้านบาทอายุ 1 ปี เปิดขายหน่วยลงทุน 3-11 พ.ย. 48

นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ที่ได้รับการจัดสรรวงเงินจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 420 ล้านบาท จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปรูปแบบการลงทุนที่ชัดเจนอีกครั้ง

โดยในเบื้องต้นจะเป็นกองทุนที่ไปลงทุนในตราสารหนี้ ที่ไม่มีความเสี่ยงเป็นหลัก ส่วนแหล่งที่จะเข้าไปลงทุนนั้น อาจจะเป็นการลงทุนเฉพาะภูมิภาค แต่ก็มีการพิจารณาถึงความเหมาะสมในการหาแหล่ง ลงทุนที่หลากหลายด้วย ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ หลังจากนั้นก็จะขออนุญาตจัดตั้งกองทุนกับสำนักงานก.ล.ต. และจะสามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้

นายเพิ่มพลกล่าวว่า การที่กองทุน FIF มีออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงสิ้นปี ทำให้บริษัทจัดการกองทุนที่ได้รับการจัดสรรเงินลงทุนต้องเร่งจัดตั้งให้เสร็จภายในปีนี้ ซึ่งในส่วนของผู้ลงทุนนั้น เชื่อว่ายังมีความต้องการลงทุนในกองทุนประเภทดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาผู้ลงทุนเริ่มมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงสูงได้เพื่อที่จะได้ผลตอบแทนที่สูงจากกองทุนที่เข้าไปลงทุนด้วย

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีกองทุน FIF ที่เปิดขายหน่วยลงทุนไปแล้วจำนวน 5 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเอเจเอฟ ยูโร โซเวอร์เรน พลัส โดยบลจ.เอเจเอฟ กองทุนเปิดหน่วยลงทุน ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล ไฮดิวิเดนด์ ของบลจ.ไอเอ็นจี กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ ฟันด์ ของบลจ.อเบอร์ดีน กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ของบลจ.ทหารไทยและกองทุนเปิด Finansa Global Allocation โดยบลจ.ฟินันซ่า

นายเพิ่มพลกล่าวว่า สำหรับกองทุนตราสารหนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดขายอีก 2 กองทุน มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยระหว่างวันที่ 3-11 พฤศจิกายนนี้ บริษัทเตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) สำหรับกองทุนกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น(KPG) มุลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท

โดยกองทุนดังกล่าวจะมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี เป็นโครงการจัดการกองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น โดยจะคุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกของผู้ถือหน่วยลงทุนตามมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 10.00 บาทต่อหน่วย ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนในการเสนอขายครั้งแรก และถือหน่วยลงทุนจนครบกำหนดอายุกองทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติเป็นช่วงเวลา

สำหรับนโยบายการลงทุน จะเน้นลงทุนทั้งหมดในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้ค้ำประกัน พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็น ผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน เพื่อคุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกตามมูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหน่วย และหรือลงทุนในเงินฝากของสถาบันการเงิน หรือธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น หรือธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสาขาของธนาคารต่างประเทศ

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการได้รับความมั่นคงสูงจากการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์คุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกของผู้ลงทุน รวมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์

นายเพิ่มพลกล่าวว่า กองทุนดังกล่าวจะมีจุดเด่นตรงที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปของการคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ 2 ครั้งในช่วงการลงทุน 6 เดือน จากอายุของกองทุน 1 ปี ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3% ต่อปี ทั้งนี้ เนื่องจากต้องการให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนระหว่างการลงทุนเพื่อเป็นสภาพคล่องในการใช้จ่ายหรือลงทุนอย่างอื่น ซึ่งเป็นความต้องการของผู้ลงทุนเองด้วย ซึ่งหลังจากปรับรูปแบบ สำหรับกองทุนดังกล่าวแล้ว อาจจะใช้สำหรับกองทุน ต่อไปด้วย แต่คงต้องดูการตอบรับจากผู้ลงทุนด้วย   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us