|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
พรีมาเวสท์ได้ฤกษ์คลอด FIF สิ้นเดือนตุลาคมนี้ เผยลงทุนในตราสารหนี้ที่เน้นความเสี่ยงต่ำเป็นหลัก โดยเลือกลงทุนเฉพาะภูมิภาค "เพิ่มพล" เชื่อดีมานด์เพิ่มต่อเนื่องหลังผู้ลงทุนเข้าใจการลงทุนมากขึ้น พร้อมเปิดขายหน่วยลงทุนได้พฤศจิกายนนี้ ด้านกองทุนตราสารหนี้ เตรียมระดมทุนเพิ่มอีก 3,000 ล้านบาท ประเดิมส่ง "กรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น" มูลค่า 2,000 ล้านบาทอายุ 1 ปี เปิดขายหน่วยลงทุน 3-11 พ.ย. 48
นายเพิ่มพล ประเสริฐล้ำ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งกองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ (FIF) ที่ได้รับการจัดสรรวงเงินจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 420 ล้านบาท จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปรูปแบบการลงทุนที่ชัดเจนอีกครั้ง
โดยในเบื้องต้นจะเป็นกองทุนที่ไปลงทุนในตราสารหนี้ ที่ไม่มีความเสี่ยงเป็นหลัก ส่วนแหล่งที่จะเข้าไปลงทุนนั้น อาจจะเป็นการลงทุนเฉพาะภูมิภาค แต่ก็มีการพิจารณาถึงความเหมาะสมในการหาแหล่ง ลงทุนที่หลากหลายด้วย ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะเสร็จสิ้นได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ หลังจากนั้นก็จะขออนุญาตจัดตั้งกองทุนกับสำนักงานก.ล.ต. และจะสามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้
นายเพิ่มพลกล่าวว่า การที่กองทุน FIF มีออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ เนื่องจากเป็นช่วงสิ้นปี ทำให้บริษัทจัดการกองทุนที่ได้รับการจัดสรรเงินลงทุนต้องเร่งจัดตั้งให้เสร็จภายในปีนี้ ซึ่งในส่วนของผู้ลงทุนนั้น เชื่อว่ายังมีความต้องการลงทุนในกองทุนประเภทดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาผู้ลงทุนเริ่มมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงสูงได้เพื่อที่จะได้ผลตอบแทนที่สูงจากกองทุนที่เข้าไปลงทุนด้วย
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีกองทุน FIF ที่เปิดขายหน่วยลงทุนไปแล้วจำนวน 5 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดเอเจเอฟ ยูโร โซเวอร์เรน พลัส โดยบลจ.เอเจเอฟ กองทุนเปิดหน่วยลงทุน ไอเอ็นจี ไทย โกลบอล ไฮดิวิเดนด์ ของบลจ.ไอเอ็นจี กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ ฟันด์ ของบลจ.อเบอร์ดีน กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ ของบลจ.ทหารไทยและกองทุนเปิด Finansa Global Allocation โดยบลจ.ฟินันซ่า
นายเพิ่มพลกล่าวว่า สำหรับกองทุนตราสารหนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดขายอีก 2 กองทุน มูลค่ารวมประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยระหว่างวันที่ 3-11 พฤศจิกายนนี้ บริษัทเตรียมเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (ไอพีโอ) สำหรับกองทุนกองทุนเปิดกรุงศรี-พรีมาเวสท์พันธบัตรรัฐบาลคุ้มครองเงินต้น(KPG) มุลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท
โดยกองทุนดังกล่าวจะมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี เป็นโครงการจัดการกองทุนรวมคุ้มครองเงินต้น โดยจะคุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกของผู้ถือหน่วยลงทุนตามมูลค่าที่ตราไว้เท่ากับ 10.00 บาทต่อหน่วย ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนในการเสนอขายครั้งแรก และถือหน่วยลงทุนจนครบกำหนดอายุกองทุน ประเภทรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติเป็นช่วงเวลา
สำหรับนโยบายการลงทุน จะเน้นลงทุนทั้งหมดในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเป็นผู้ออก ผู้รับรอง ผู้ค้ำประกัน พันธบัตรหรือตราสารแห่งหนี้ที่กระทรวงการคลังเป็น ผู้ออก ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกัน เพื่อคุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกตามมูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหน่วย และหรือลงทุนในเงินฝากของสถาบันการเงิน หรือธนาคารพาณิชย์ หรือธนาคารที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น หรือธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสาขาของธนาคารต่างประเทศ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกแก่ผู้ลงทุนที่ต้องการได้รับความมั่นคงสูงจากการลงทุนที่มีวัตถุประสงค์คุ้มครองเงินลงทุนเริ่มแรกของผู้ลงทุน รวมทั้งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์
นายเพิ่มพลกล่าวว่า กองทุนดังกล่าวจะมีจุดเด่นตรงที่ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปของการคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ 2 ครั้งในช่วงการลงทุน 6 เดือน จากอายุของกองทุน 1 ปี ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3% ต่อปี ทั้งนี้ เนื่องจากต้องการให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนระหว่างการลงทุนเพื่อเป็นสภาพคล่องในการใช้จ่ายหรือลงทุนอย่างอื่น ซึ่งเป็นความต้องการของผู้ลงทุนเองด้วย ซึ่งหลังจากปรับรูปแบบ สำหรับกองทุนดังกล่าวแล้ว อาจจะใช้สำหรับกองทุน ต่อไปด้วย แต่คงต้องดูการตอบรับจากผู้ลงทุนด้วย
|
|
|
|
|