"เพอร์นอตฯ" ประกาศแผนท้าดวล "ริชมอนเด้" ต้องโตจากการช่วงชิงแชร์ พร้อมยอมรับสภาพตลาดน้ำเมาจากนี้หดตัวแน่ ปรับเป้าโตเหลือ 5% เดินหน้าอัดงบ 600-700 ล้านบาทปีหน้ากันคู่แข่งขย่ม บัลลังก์ฮันเดรดฯ มาสเตอร์เบลน ส่วนบัลลันไทนส์นำร่องปรับโครงสร้าง ตลาด-ฝ่ายขายก่อนระเบิดศึกอีก 1 ปี ระบุผลปรับโครงสร้างภาษีจุดพลุสงครามราคาแข่งดุ

นายภานุวัธน์ วงศ์ศรีพิสันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพอร์นอต ริคาร์ด (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าเหล้าชีวาส รีกัล,ฮันเดรด ไพเพอร์ส ฯลฯ เปิดเผยถึงนโยบายทางการตลาดจากนี้ไป บริษัทจะเน้นช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากคู่แข่งเป็นหลัก เนื่องจากปัจจัยลบต่างๆหลายประการ อาทิ การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต มาตรการรณรงค์จากภาครัฐ ข้อจำกัดเวลาจำหน่าย และภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ส่งผลให้แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากนี้จะมีอัตราการเติบโตไม่หวือหวา และไม่ได้วัดกันที่ขนาดตลาดอีกต่อไปในช่วง 4-5 ปีนี้ แต่เป็นเรื่องที่มองกันที่ส่วนแบ่งตลาด ปีนี้คาดว่าตลาดจะตกลง จากเดิมคิดว่าจะโตได้ 5-8% ซึ่งเมื่อเทียบ กับปีที่ผ่านมา ตลาดมีอัตราการเติบโต 6% และในช่วง 6 เดือนนี้หลังจากปรับโครงสร้างภาษี คาดว่าตลาดจะหดตัวลง 15-20% หลังจากนั้นผู้บริโภคจะเริ่มปรับตัวได้ นอกจากนี้แนวโน้มดังกล่าวจะผลักดันให้ตลาดเหล้า จะเริ่มมีการใช้กลยุทธ์ราคา ขึ้นมาแข่งขันกันมากขึ้น ส่วนในเรื่องของการปรับราคา คาดว่าค่ายผู้ประกอบการ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เริ่มทยอยปรับในเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป

"ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาเพอร์นอตฯ ในไทยมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักตลอด และเป็นการเติบโตในเชิงปริมาณเป็นหลัก ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตมากที่สุดในโซนเอเชีย รองมาคือจีนและอันดับสามญี่ปุ่น แต่ ณ ตอนนี้ปัจจัยลบเกิดขึ้นมาก ทำให้บริษัทต้องปรับเป้าอัตราการเติบโตเพียงแค่ 5% ต่อปีในช่วง 4-5 ปีจากนี้ ส่วนในปีนี้หากบริษัทโตได้ ถึง 10% ก็ถือว่าเก่งแล้ว และคาดว่า ปีหน้าเพอร์นอตในจีนจะโตเป็นอันดับหนึ่งแทนที่ประเทศไทย"

แนวโน้มตลาดเหล้าในเซกเมนต์อีโคโนมีเป็นที่จับตามองว่า กลุ่มเหล้าไทยจะมาแรงโดยเฉพาะเหล้าในเครือเจริญสิริวัฒนภักดี ภายใต้แบรนด์ "แสงโสม" ซึ่งถือว่าเป็นเหล้ามีภาพลักษณ์ที่ใช้ได้ ปัจจุบันหากรวมในกลุ่มเหล้าไทยแล้วมาส เตอร์เบลนมีส่วนแบ่งเพียง 10-12% แต่หากรวมคราวน์ 99 มาสเตอร์เบลน มีส่วนแบ่ง 60%

ขณะเดียวกันสิ่งที่น่าจับตามองอีกประการหนึ่ง คือ พฤติกรรมของผู้บริโภคในเซกเมนต์อีโคโนมีและเซกันดารีจะหันมาซื้อเหล้ากลับไปดื่มที่บ้านเพิ่มขึ้นมากกว่า 25% ทั้งนี้เป็นเพราะผลพวงจากปัจจัยลบต่างๆ

ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดเหล้าเซกเมนต์อีโคโนมีและเซกันดารีอาจจะโตแบบไม่หวือหวา แต่บริษัทยังคงใช้งบในการทำตลาดฮันเดรด ไพเพอร์ และมาสเตอร์เบลนในปีหน้าใกล้เคียงกับปีนี้ คือ 600-700 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท โดยแบ่งเป็น ฮันเดรดฯ 60% ส่วนอีก 40% เป็นมาสเตอร์เบลนและชีวาส พร้อม กันนี้ยังได้เตรียมปั้นชีวาสให้ขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดใกล้เคียงกับจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ภายใน 5 ปี

รอเวลาปั้นบัลลันไทนส์ชนเรด

นายภานุวัธน์ กล่าวว่า การทำตลาดบัลลันไทนส์ หลังการเข้าซื้อกิจการของบริษัท อัลลายด์ โดเมค แห่งประเทศอังกฤษเสร็จสิ้นมาหลายเดือน ขณะนี้ได้ปรับโครงสร้างการตลาดและฝ่ายขาย เพื่อตั้งทีมดูแลด้านการตลาดและขยายช่องทางการจำหน่ายบัลลันไทนส์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามสำหรับเหล้าตัวนี้ยังคงต้องใช้เวลาศึกษาตลาดอย่างน้อย 1 ปี โดยช่องทางการจำหน่ายจะให้ความสำคัญทั้งสองช่องทางทั้งออนพรีมิส 50% และออฟพรีมิส 50%

ขณะเดียวการซื้อกิจการในครั้งนี้ ยังส่งผลให้เพอร์นอตฯมีความแข็งแกร่งในกลุ่มเหล้าผสมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเข้าไปส่วนเสริมสร้าง ช่องทางระดับพรีเมียม อาทิ โรงแรม 5 ดาว และร้านอาหารอีกทั้งยังสามารถ ขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มขึ้น