ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยจากประเทศอังกฤษระบุ ปีค.ศ. 2008 จะเป็นปีที่ตลาดโทรศัพท์มือถือโลกขยายตัวถึงจุดสูงสุดและเริ่มเข้าสู่ช่วงขาลง เนื่องจากการอิ่มตัวของตลาดในหลายๆ ภูมิภาค โดยเฉพาะในยุโรป ยกเว้นเอเชียแปซิฟิกที่ยังโตต่อ นำโดยจีน ตลาด ที่จำหน่ายโทรศัพท์มือถือได้มากถึง 36% ของยอดขายรวมทั่วโลกในปี 2004

บริษัทอินโฟม่าเทเลคอมส์แอนด์มีเดีย (Informa Telecoms & Media) ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยชั้นนำของโลก เปิดเผยเกี่ยวกับสภาพ ตลาดโทรศัพท์มือถือโลกว่า ในปี 2005 ตลาดโทรศัพท์มือถือโลกจะมีการขยายตัวประมาณ 14% โดยมีจำนวนยอดขายอยู่ที่ประมาณ 743 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตามตัวเลขอัตราการเติบโตดังกล่าวจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 3.83% ในปี 2010 กับจำนวนยอดขายที่ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 899 ล้านหน่วย

"เป็นงานหนักของผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือที่จะต้องหาความสามารถ บริการ หรือจุดขายใหม่ๆ ใส่เข้าไปในผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น ทีวีออนโมบาย หรือมิวสิกออนโมบาย เป็นต้น" อินโฟม่าระบุ

สำหรับปีนี้ เดวิด แม็คควีน (David McQueen) นักวิเคราะห์อาวุโสของอินโฟม่าฯ ฟันธงว่า ปีนี้เป็นปีของมิวสิกโฟนและ 3G ขณะที่ปีที่แล้วเป็นของคาเมร่าโฟน

ส่วนจำนวนผู้ใช้ อินโฟม่าระบุว่า ในปีนี้จำนวน ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 20% มาอยู่ที่ 1,910 ล้านคน และคาดว่าจะทะลุ 2,000 ล้านคนในปี 2006 โดยปัจจัยหลักมาจากการขยายตัวของตลาดจีนและอินเดีย

เอเชียแปซิฟิกเป็นภูมิภาคที่มีคนใช้โทรศัพท์ มือถือมากที่สุด โดยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 843 ล้านคน ส่วนในปี 2010 คาดว่าจะอยู่ที่ 1,300 ล้านคน หรือขยายตัวประมาณ 1.3% จากปี 2005 ทั้งนี้จำนวนคนใช้ทั่วโลกในปี 2010 คาดว่าจะอยู่ ที่ประมาณ 2,700 ล้านคน หากมองในเทอมของเทคโนโลยีแล้ว 46.5% ยัง คงเป็น 2G, 29.6% เป็น 2.5G และ 23.8% เป็น 3G

อินโฟม่าฯระบุว่า การแข่งขันในตลาดกำลัง จะพัฒนารุนแรงขึ้น เพราะตลาดพัฒนาแล้วอิ่มตัว "การโฟกัสไปที่ตลาดโลว์เอนด์จะส่งผลกระทบใน ระยะยาวต่อผู้ผลิต สืบเนื่องจากตลาดโลว์เอนด์จะเน้นสินค้าราคาถูก มาร์จิ้นกำไรต่ำ ซึ่งส่งผลต่อการประมาณการรายได้ของผู้ผลิตแต่ละราย อันรวมไปถึงการทำนายความอยู่รอดของผู้ผลิตแต่ละรายในระยะยาวด้วย" แม็คควีนกล่าว