Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ผู้จัดการรายวัน10 ตุลาคม 2548
เมคเคอร์ฯเร่งปรับองค์กรคุมต้นทุนคงที่             
 


   
search resources

Real Estate
เมคเคอร์ แอนด์ เด็คเคอร์, บจก.




"เมคเคอร์ฯ"สร้างเกราะป้องกัน รับมือการแข่งขันของตลาดรับสร้างบ้าน ระบุ 2 ปีที่เงียบหายมุ่งปรับองค์กรให้กระชับ หวังคุมต้นทุนให้คงที่ คาดปีนี้ยอดขายประมาณ 200 ล้านบาท เน้นเจาะตลาดระดับ 4-5 ล้านบาท

ตลาดรับสร้างบ้านในแต่ละปีมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเข้ามาของกลุ่มบริษัทรับสร้างบ้าน ที่หวังเข้ามาเพิ่มส่วนแบ่งตลาดงานจาก ผู้รับเหมารายย่อย ซึ่งในปีนี้ทางสมาคมรับสร้างบ้านตั้งเป้าที่จะมีส่วนแบ่งของงานรับสร้างบ้านให้ได้ในปี 48 ไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท จากมูลค่าในตลาดประมาณ 35,000 ล้านบาท ขณะที่ข้อมูลของธนาคาร อาคารสงเคราะห์(ธอส.)ระบุว่า จำนวนที่อยู่อาศัยที่ปลูกสร้างเองในเขตกทม.และปริมณฑล ในช่วง 3 ปี (2545-2547) มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 17,693 ล้านบาท 18,598 ล้านบาท และ 19,859 ล้านบาท และคาดว่า ปีนี้จะมียอดสูงขึ้น

ถึงกระนั้น แม้ว่าบริษัทรับสร้างบ้านทุกค่ายจะเร่งขยายกลุ่มลูกค้า เพื่อผลักดันส่วนแบ่งตลาดให้มากขึ้นตามมูลค่างานที่ยังมีช่องทางเข้าไปเจาะตลาดได้อย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับบริษัท เมคเคอร์ แอนด์ เด็คเคอร์ จำกัด บริษัทรับสร้างคุณภาพมาตรฐาน กลับมีมุมมองและทิศทางของการดำเนินธุรกิจที่ต่างจากคู่แข่งในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา

ที่ผ่านมา 2 ปี บริษัทไม่ได้เพิ่มน้ำหนักทางด้าน มาร์เกตติ้งมากนัก เก็บเนื้อเก็บตัว เพราะเราอยู่ในระยะของการปรับโครงสร้างการบริหารงานอยู่ เพื่อให้เกิดความกระชับและคล่องตัวมากขึ้น ทั้งด้านบุคลากรและระบบการผลิตให้มีคุณภาพมากขึ้น จะเห็นได้ว่าในปีที่ผ่านมา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เติบโตอย่างมาก แต่เราแข่งขันกับผู้ประกอบการไม่ไหว เลยต้องชะลอไว้ก่อน ซึ่งจริงๆแล้ว ต้นทุนของงานรับสร้างบ้านแล้ว ประเด็นเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างเป็น ปัจจัยนอกเหนือการควบคุม เราคุมไม่ได้ จึงหันมามุ่งปรับระบบงานภายในให้แข็งแกร่งดีกว่า เพื่อจะ สามารถวัดเรตติ้งการทำงานของบุคลากรว่าเป็นอย่างไร วิเคราะห์และกรองสถานการณ์ของตลาดได้อย่างแม่นยำ ยอมรับว่าวันนี้เราไม่ต้องการแข่งขันกับใคร แต่เราแข่งขันที่จะรักษาผลงานในอดีตและปัจจุบันให้ได้คุณภาพมากที่สุด

นายพันธุ์เทพ ทานชิติกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท เมคเคอร์ฯ เปิดเผยและชี้ว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีความรู้และรอบคอบในการเลือกบ้าน วัสดุก่อสร้าง มีการเปรียบเทียบตัวสินค้ากับกลุ่มอื่น รวมถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทรับสร้างบ้าน ซึ่งจากสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป ทำให้ทุกบริษัทรับสร้างบ้านควรปรับองค์กร เพื่อตรวจความ พร้อมว่าจะพร้อมรับกับสภาพ การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นวิธีการแก้ไขสกัดปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น

นายพันธุ์เทพ กล่าวว่าในช่วงที่ผ่านมา บริษัทพยายามคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาสร้างสรรค์ผลงาน อาทิ นำบ้านแบบประหยัดพลังงานออกสู่ตลาดเป็นบริษัทแรก หรือการนำเทคโนโลยีโครงสร้าง เหล็กมาใช้สำหรับการก่อสร้างบ้านพักอาศัย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต เพียงแต่ยังไม่ขยายวงกว้าง เนื่องจากต้องรอให้เทคโนโลยีมีความเหมาะสมกับตลาดในเมืองไทย และการรอให้ผู้ประกอบการที่จะนำระบบดังกล่าวไปใช้มีการสะสมความชำนาญมากขึ้น ซึ่งข้อดีของระบบนี้ จะสามารถ ควบคุมต้นทุนได้ แต่ขณะนี้ราคาเหล็กค่อนข้างสูงกว่า ราคาปูนซีเมนต์ ขณะที่ข้อด้อยก็คือ ยังขาดบุคลากร ที่มีประสิทธิภาพในการทำงาน

สำหรับแนวโน้มของยอดขาย กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า ในปี 2548 บริษัทตั้งเป้ายอดขายไว้ ประมาณ 200 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกมียอดขายไปแล้วกว่า 120 ล้านบาท ขณะที่ปี 2547 บริษัทมียอดขายประมาณ 130 ล้านบาท หรือผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 60 หลัง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ล้านบาทเศษ เนื่องจาก ในช่วงครึ่งแรกของปี 47 บริษัทหยุดทำการตลาดแต่ มุ่งปรับองค์กรเป็นหลัก

"เรายอมรับว่าการเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเป็นเรื่องใหญ่ ทำให้เราเสียความสามารถไปส่วนหนึ่ง ขณะที่การรับงานเข้ามา บริษัท ไม่โหมเกินไป แต่จะรับสร้างบ้านเท่าที่มีปัญญารับ การที่ทำงานฝืนกำลังมากเกินไปจะย้อนกลับมาสู่ตัวบริษัทหรืออาจจะมีผลขาดทุน"

ในส่วนของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย บริษัทยังคงเน้นลูกค้าระดับ 4-5 ล้านบาท เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสะท้อนให้เห็นถึงแบรนด์ ของบริษัทในตลาดพรีเมียม แต่หากลงไปทำตลาดต่ำ กว่า 4 ล้านบาท จะทำให้ภาพของการทำงานกลายเป็น อุตสาหกรรมรับสร้างบ้านที่มีอยู่ทั่วไปในตลาด อย่างไรก็ตามขณะนี้อัตรากำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายจะสูง กว่า 10% แต่หากกำไรสุทธิแล้วต่ำกว่า 10%   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us