ทศท.เตรียมเปิดบริการไทยโมบายมือถือ 1900 เมกะเฮิรตซ์ในเดือนพฤศจิกายน โดยให้สามารถกับไออีซีรับผิดชอบซิมการ์ดแทนในช่วงแรก
พร้อมให้ใช้ฟรี 2-3 เดือนก่อนเครือข่ายแล้วเสร็จ ส่วนการประมูลโทรศัพท์มือถือ
1.5 แสนเครื่องเพื่อนำมาให้ลูกค้าแทนการคืนค่าประกันเลขหมาย อาจใช้วิธีใครไม่สนให้เปลี่ยนเครื่องได้ที่สามารถ-ไออีซี
แหล่งข่าวจากบริษัท ทศท.คอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า ในการประชุมบอร์ดทศท.ในวันนี้
(24 ต.ค.) จะมีการพิจารณาให้บริษัทสามารถและไออีซี ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทนขายและให้บริการไทยโมบาย
โทรศัพท์มือถือในระบบ 1900 เมกะเฮิรตซ์ ทำการขายซิมการ์ด พร้อมทั้งเครื่องลูกข่าย
ในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์
การให้สามารถและไออีซีรับผิดชอบเรื่องซิมการ์ดแทนทศท. เนื่องจากในสัญญาที่แต่งตั้งทั้งคู่เป็นตัวแทนขาย
ระบุให้ทศท.เป็นผู้จัดหาซิมการ์ด แต่เมื่อพิจารณาจากระยะเวลาในการจัดหาซิมการ์ด
ทศท.ไม่สามารถจัดซื้อเพื่อนำมาให้บริการลูกค้าได้ทันในเดือนพฤศจิกายน รวมทั้งการประมูลเครื่องลูกข่ายโทรศัพท์มือถือจำนวน
1.5 แสนเครื่องที่จะมาแจกให้ลูกค้าทศท.แทนค่าประกันเลขหมาย ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
แนวทางออกซึ่งเป็นการหารือระหว่างนายอรัญ เพิ่มพิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
ทศท.กับนายศุภชัย พิศิษฐวานิช ประธานบอร์ดทศท. จึงได้ข้อสรุป ให้สามารถและไออีซีจัดซื้อซิมการ์ดรับผิดชอบแทนทศท.เพื่อให้บริการได้ทันในเดือนพฤศจิกายนตามที่นายศุภชัยต้องการ
พร้อมทั้งการขายเครื่องลูกข่ายไปพร้อมๆกัน
แต่การเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ดังกล่าว ยังไม่สามารถให้บริการได้เต็มที่เพราะเครือข่ายมือถือ
1900 เมกะเฮิรตซ์ยังไม่สามารถติดตั้งแล้วเสร็จภายใต้ฝีมือกลุ่มคอนซอร์เตี้ยมนำโดยซีเมนส์
เพราะติดขัดปัญหาที่ยังหาสถานที่ติดตั้งสถานีฐานได้ไม่ครบทั้ง 500 แห่ง เนื่องจากนายอรัญต้องการให้ทศท.กำหนดจุดติดตั้งสถานีฐานให้ซีเมนส์
เพราะเกรงว่าหากให้ซัพพลายเออร์กำหนดจุดติดตั้งเองแล้วจะเกิดอาการมั่งซั่ว
ไม่ตรงตามที่ต้องการใช้งานจริง
“ถือเป็นความหวังดีแต่ประสงค์ร้าย ทำให้เครือข่ายไทยโมบายไม่เสร็จสักที”
การเปิดให้บริการจึงคาดว่า จะให้โอกาสลูกค้าที่ซื้อซิมการ์ดตอนนี้ได้ใช้ฟรีไปอีก
2-3 เดือน จนกว่าเครือข่ายเบื้องต้น 500 สถานีฐานจะแล้วเสร็จ นอกจากนี้ประธานบอร์ดทศท.และนายสิทธิชัย
ส่งพิริยะกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ทศท. ก็เกิดอาการเข็ดเขี้ยวกับพฤติกรรมความล่าช้าที่เกิดขึ้น
แล้วยังหวังมารีพีทออเดอร์อีก 600 สถานีฐาน จึงมีนโยบายที่จะให้เปิดประมูลทั่วไปแทน
ซึ่งวิธีนี้คาดว่าจะประหยัดเงินได้กว่า 1,000 ล้านบาท เนื่องจากบอร์ดทศท.มอบหมายให้นายศุภชัยกับนายสิทธิชัย
เป็นผู้เจรจากับการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ในการขยายเครือข่ายเพิ่ม
สำหรับแนวทางประมูลโทรศัพท์มือถืออีก 1.5 แสนเครื่องนั้น เพื่อให้ตรงกับความต้องการใช้งานจริงของลูกค้า
ไม่ใช่การมัดมือชก ประมูลได้เครื่องที่ลูกค้าบางคนอาจไม่ชอบแล้วยัดเยียดให้ใช้
ก็จะเปลี่ยนเป็นใช้วิธีการให้ลูกค้าสามารถเปลี่ยนเครื่องได้ทันทีกับสามารถและไออีซี
โดยอาจต้องเสียเงินเพิ่มตามราคาขายที่ทศท.จะร่วมพิจารณาด้วย
“ไม่อยากให้เกิดการมัดมือชกเหมือนตอนซื้อครั้งแรกที่บางคนหงุดหงิดใจถึงกับเอาไปทับกระดาษแทน
ส่วนเครื่องที่ประมูลใหม่หากใครชอบก็ใช้ไปไม่มีปัญหา ใครไม่ชอบก็นำไปเปลี่ยนกับสามารถไออีซี
แต่อาจต้องเสียเงินเพิ่ม หากต้องการเครื่องที่ราคาสูงกว่า”