วีซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล เผยยอดชำระเงินผ่านบัตรเติบโตต่อเนื่องทั่วโลก ระบุเติบโต 27% เอเชีย แปซิฟิกเติบโต 30% ในรอบสิบสองเดือน เป็นผลจากภาคธุรกิจและหน่วยงานราชการหันมาใช้ผลิตภัณฑ์วีซ่า คอมเมอร์เชียลเพิ่มขึ้น

มร. ไมเคิล แคนนอน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายผลิตภัณฑ์ชำระเงินสำหรับองค์กร วีซ่า เอเชีย แปซิฟิก เปิดเผยว่า มูลค่าการชำระเงินและถอนเงินผ่านผลิตภัณฑ์และบริการชำระเงินสำหรับองค์กรภายใต้ชื่อ วีซ่า คอมเมอร์เชียล มีมูลค่า 255,000 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก และเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกมีมูลค่า 46,000 ล้านเหรียญ สหรัฐ สำหรับในรอบสิบสองเดือนซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 คิดเป็นอัตราเติบโต 27% สำหรับตัวเลขทั่วโลก และ 30% สำหรับตัวเลขของภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกเมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านี้ ตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าธุรกิจและหน่วยงานรัฐบาลต่างได้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์และบริการชำระเงินสำหรับองค์กร เพิ่มขึ้นทั่วโลก

"ปริมาณใช้จ่ายผ่านบัตรเพื่อประโยชน์ ทางธุรกิจได้เติบโตอย่างรวดเร็วในอัตราที่สูงกว่าการใช้จ่ายผ่านบัตรเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล ที่ผ่านมาวีซ่าและสถาบันการเงินต่างๆ ต้องใช้เวลา 10 ปีในการผลักดันยอดใช้จ่ายผ่านบัตรของผู้บริโภคให้ถึง 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และใช้เวลาอีก 3 ปีที่จะไปสู่ยอด 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การใช้จ่ายผ่านบัตรในเชิงธุรกิจนั้นกำลังจะบรรลุเป้าหมาย 300,000 ล้านเหรียญ สหรัฐภายในเวลาเพียงปีเศษๆ ซึ่งแสดงถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วและความสำเร็จของ บริการต่างๆ ที่วีซ่า คอมเมอร์เชียลได้นำเสนอ"

ขณะนี้บริษัทและหน่วยงานราชการต่างๆ ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกกำลังหันมาใช้บัตรวีซ่า คอมเมอร์เชียลเป็นเครื่องมือ ในการบริหารธุรกิจและเงินสด โดยเฉพาะในประเทศที่เป็นตลาดสำคัญ เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย นอกจากนี้ในปีนี้ เรายังได้เห็นการขยายตัวอย่างรวดเร็วในไต้หวันซึ่งเติบโตกว่า 69% ขณะที่อินเดียและไทย เติบโตกว่า 100% เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าธุรกิจขนาดใหญ่หรือเล็กก็ตามต่างเล็งเห็น ว่าผลิตภัณฑ์วีซ่า คอมเมอร์เชียลสามารถช่วยบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของธุรกิจ

นอกเหนือจากความสำเร็จในภาพรวม ของผลิตภัณฑ์และบริการของวีซ่า คอมเมอร์- เชียลแล้ว ภูมิภาคอื่นๆ ที่มีการใช้บัตรวีซ่าเกือบทุกแห่งต่างมียอดชำระเงินผ่านบัตรในเชิงธุรกิจขยายตัวในอัตราที่เป็นเลขสองหลัก โดยภูมิภาคส่วนใหญ่เติบโตอย่างต่ำ 20% ในรอบสิบสองเดือนที่ผ่านมา

ผลิตภัณฑ์และบริการในการชำระเงินและบริหารข้อมูลของวีซ่า คอมเมอร์เชียลซึ่งเสนอผ่านสถาบันการเงินซึ่งเป็นสมาชิกวีซ่าได้รับการออกแบบเพื่อช่วยภาคธุรกิจและหน่วยงานราชการในการลดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลา และควบคุมการใช้จ่ายภายในองค์กรให้ดีขึ้น และยังเป็นการช่วยให้มีการปฏิบัติตามนโยบายขององค์กร ภาคธุรกิจ และนโยบายในการกำกับดูแลของ ภาครัฐ โดยทั้งหมดนี้เป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรผลิตภัณฑ์ และ บริการของวีซ่าทั้งหมดให้บริการผ่านเครือข่าย การชำระเงินที่ปลอดภัยและใหญ่ที่สุดในโลก
วีซ่า คอมเมอร์เชียลอันประกอบด้วย วีซ่า บิสซิเนส วีซ่า คอร์ปอเรต วีซ่า เพอร์-เชสซิ่ง และวีซ่า คอมเมิร์ซ เป็นวิธีการที่ง่ายและสะดวกในการซื้อวัสดุอุปกรณ์และของใช้ต่างๆ สำหรับสำนักงานในการบริหาร ค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายเพื่อสันทนาการ ควบคุมยอดค่าใช้จ่ายของพนักงาน จัดการกระแสเงินสด ลดค่าใช้จ่ายด้านปฏิบัติการ ตรวจตรา และควบคุมค่าใช้จ่าย ของธุรกิจนั้นๆ วีซ่า คอมเมอร์เชียลซึ่งได้รับประโยชน์จากการที่แบรนด์วีซ่าเป็นที่ยอมรับทั่วโลกและจากเครือข่ายที่ไม่มีใครเสมอเหมือนของวีซ่า ทำให้สามารถออกแบบ ผลิตภัณฑ์และบริการของวีซ่า คอมเมอร์เชียล ให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจทุกประเภทและความต้องการที่อาจเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่เป็นบรรษัทข้ามชาติหรือเป็นธุรกิจขนาดย่อยที่ดำเนินการโดยตัวเจ้าของเองคนเดียว