|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
"โจทย์นี้ยากกว่าทุกครั้ง" บัณฑูร ล่ำซำ ซีอีโอธนาคารกสิกรไทยหรือ เคแบงก์ บอกเล่าถึงโจทย์ใหม่ "ตลาดการค้าเสรี" ที่สถาบันการเงินในประเทศต้องเผชิญ โดยเฉพาะ "ลัทธิล่าอาณานิคม" ที่ไม่ได้ปรากฎในรูป "เรือปืน" เหมือนในอดีต แต่ "บัณฑูร" อธิบายถึงการคุกคามของกระแสทุนไร้พรมแดนจะรุกล้ำ "อธิปไตย" ในเชิงเศรษฐศาสตร์ และสถาบันการเงินก็กำลังตกเป็นเป้าหมาย...
ประวัติศาสตร์การต่อสู้ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อ 100 กว่าปีก่อน ฉายภาพให้เห็นกำแพงขวางกั้นระหว่างประเทศที่ค่อยๆเลื่อนลดต่ำลง พร้อมกับการบุกเข้ามาของศัตรูจากอีกฟากฝั่งของโลกได้ชัดเจน
ชั่วโมงหน้าสิ่วหน้าขวานเวลานั้น เรือปืนจากต่างประเทศ มาหยุดอยู่ตรงริมท่าน้ำหน้าตึกสำนักงานใหญ่กลุ่มเคกรุ๊ปของตระกูล "ล่ำซำ" เยื้องโรงแรมโอเรียลเต็ลพอดิบพอดี และที่ตรงนั้นก็กลายเป็นจุดแตกหักที่ไทยต้องสูญเสียอธิปไตยไปบางส่วน
บัณฑูร ถ่ายทอดบทบันทึกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ ที่บรรพบุรุษผู้นำการเจรจายุคนั้นกำลังเผชิญอยู่....
แต่ภาพที่เห็นวันนี้ ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง "เรือปืน" ไม่ได้ไหลมาตามริมน้ำเจ้าพระยา แต่ไหลเชี่ยวกรากมาตามกระแสการค้า และทุนที่ไม่มีพรมแดน บัณฑูร บอกว่า ทั้งน่ากลัว และท้าทายในคราวเดียวกัน
น่ากลัวในเรื่องของขนาด เงินทุนและเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าหลายช่วงตัว ขณะเดียวกันก็ท้าทายพลังของสถาบันการเงินในประเทศ โดยเฉพาะธนาคารพาณิชย์พันธ์ไทยที่บริหารและจัดการโดยผู้ถือหุ้นหลักและผู้บริหารคนไทยเป็นหลัก
" โจทย์และโครงสร้างการค้าขายที่เปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือ ทำให้การแข่งขันยากกว่าเดิม ที่ยากกว่านั้นคือ เราไม่มีอำนาจต่อรองในการเจรจา ก็ยิ่งยากที่จะได้เงื่อนไขที่จะสู้ได้ สำคัญคือ ไม่มีใครคุ้มกันเราจากคู่แข่งเก่งๆได้ตลอดไป"
โจทย์วันนี้จึงต่างจากอดีตราวกับฟ้าดิน...
บัณฑูร หมุนเวลากลับไปเมื่อ 8 ปีนับจากวิกฤตเศรษฐกิจ ที่ทุกฝ่ายต่างก็รับรู้กันว่า สถาบันการเงินส่วนใหญ่สะเพร่า หลงระเริง ทำอะไรเกินตัว ไม่ว่าการลงทุน และการปล่อยสินเชื่อ จนหนี้เสียท่วมสูงเป็นภูเขาเลากา
ท้ายที่สุด ทั้งระบบก็แบกหนี้เสียไว้บนบ่านานไม่ไหว จึงมีทั้งจมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา ส่วนที่เหลือก็แหว่งๆ วิ่นๆ รอดมาได้แบบทุลักทุเลเต็มที
ที่หนักหนาสาหัสกว่านั้น ก็คือ ส่วนที่รอดมาได้หวุดหวิดก็ต้องเผชิญหน้ากับการล่าอาณานิคมในรูปของการฮุบอธิปไตย โดยเฉพาะถ้าสถาบันการเงินไทยตกไปอยู่ในมือต่างชาติก็เท่ากับ สูญสิ้นอธิปไตยของระบบเศรษฐกิจ
ซึ่งในสายตาบัณฑูร มองว่า การปกป้องอธิปไตยระบบเศรษฐกิจเอาไว้ หมายถึง สถาบันการเงินไทยต้องลุกขึ้นดิ้นรนต่อสู้ และเพิ่มขีดความสามารถในแข่งขันให้ได้ในทุกมิติการให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตอบสนองความต้องการและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
"ตลาดเปลี่ยน ธุรกิจก็เปลี่ยน ปัจจุบันเรามีแผนแม่บท กติกาใหม่ ที่ทำให้สถาบันการเงินรวมเป็นกลุ่ม เป็นเครือได้"
รูปแบบการให้บริการที่ค่อยๆปรับเปลี่ยนมาตลอดของเคกรุ๊ป ที่ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย แฟคตอริ่งกสิกรไทย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย และลิสซิ่งกสิกรไทย จึงเริ่มมีให้เห็นภายใต้สัญลักษณ์ "กสิกรไทยกรุ๊ป" หรือ "K GROUP"
เครื่องหมายการค้าภายใต้ "ยุทธศาสตร์ K" จึงมากพอจะตอบโจทย์การให้บริการ ที่ได้จัดการกับองค์กรภายในอย่างเป็นระบบเป็นครั้งแรกในรอบหลังวิกฤตการเงินของ "เครือธนาคารกสิกรไทย" ที่บัณฑูร บอกว่า ต่อไปนี้จะไม่เรียกว่า ธนาคารกสิกรไทยอีกต่อไป
การรีแบรนดิ้ง โลโก้ ภาพลักษณ์ สาขา รูปแบบการให้บริการที่ทันสมัย ที่มีมาพร้อมกับการรื้อฟื้นคำขวัญเก่าแก่ในยุคแรกๆ "บริการทุกระดับประทับใจ" นอกจากต้องการจะบอกถึงความต้องการของลูกค้าที่สามารถเข้ามาในจุดเดียวก็มีบริการที่ครบถ้วนแล้ว ยังบ่งบอกได้ถึงประสบการณ์การได้รับสินค้า ผ่านบริการ ช่องทาง ช่วงเวลา ที่ประทับใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนฝังอยู่ในสมองและจิตใจของลูกค้า
บัณฑูร บอกว่าการเลือกใช้อักษรตัว K ที่ตวัดด้วยปลายพู่กันจีน เพราะมี2ขามั่นคง ขณะเดียวกันก็ต้องการให้มีภาพที่สะท้อนการให้บริการที่ประทับใจจึงใส่ฐานสีแดงพร้อมตัวหนังสือ EXCELLENCE ที่จะบอกถึงการให้บริการดีเยี่ยม
สัญลักษณ์ดังกล่าวต่อไปจะปรากฎอยู่ในเอกสารทุกประเภท สาขา แผ่นพับ และเว็ปไซด์ของเคแบงก์ โดยช่องทางหลังปัจจุบันได้กลายเป็นช่องทางสำคัญมากในอนาคตสำหรับเล็งไปที่ลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการทางการเงิน
" ทั้งการรีแบรนดิ้ง การโฆษณา โลโก้ หรือสัญลักษณ์ใหม่ๆ อาจเป็นแค่รูปลักษณ์ ส่วนอาหารจะอร่อยหรือไม่ลูกค้าต้องได้ทานก่อน"
การปรับเปลี่ยนรูปโฉมในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ว่า การใช้สัญลักษณ์ตัวK ที่มาพร้อมฮีโร่ "ยอดมนุษย์" ตัวสีเขียว เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ หรือ การเปิดตัวบริษัททั้ง 6 ในเครือที่พร้อมจะให้บริการอย่างครบวงจร และการพยายามสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าในทุกรูปแบบการให้บริการ
สำหรับ บัณฑูร บอกว่า ถ้าทำสำเร็จ ในยุคที่การแข่งขันดุเดือดเลือดพล่าน เค กรุ๊ปก็จะสามารถต่อกรกับคู่แข่งจากอีกซีกโลกได้ด้วยความเป็น "ไทย"
"โดยรวมต้องเป็นการจัดการที่เป็นไทย ให้เป็นมาตรฐานสากล"
บัณฑูร ย้ำทุกครั้งว่า ถ้าหากไม่มีธนาคารพาณิชย์เป็นสายพันธ์ไทยบ้างเลย ก็จะเทียบได้กับประเทศได้สูญเสียอธิปไตย เพียงแต่คราวนี้ "นักล่าอาณานิคม" ไม่ได้นำทัพมาด้วย "กองเรือปืน" แต่จะไหลบ่าเข้ามาในรูปกระแสทุน ที่พร้อมจะทลายกำแพงที่ขวางกั้นอยู่ข้างหน้า
มีอยู่หนทางเดียว ที่จะต้านทานได้ บัณฑูรบอกว่า ไม่ใช่การสร้างกำแพงกั้น แต่จะต้องสร้างกำแพงจากความสามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้า และตลาดก็จะเป็นผู้ตัดสิน
วิธีการของบัณฑูรก็คือ การเพิ่มความถี่ให้กับงานโฆษณาเป็นแค่การกระตุ้นในขั้นต้น ซึ่งไม่ได้แสดงว่าลูกค้าจะประทับใจ แต่การสร้างความประทับใจต้องผนวกกันระหว่าง "เทคโนโลยี" และ "การพัฒนาบุคลากร" เพื่อให้การบริการมีความหมาย สิ่งนี้เองที่บัณฑูรบอกว่า จะเป็น "กำแพงอันทรงพลัง" หนึ่งเดียวในระยะยาว ที่จะปกป้องอธิปไตยไม่ให้ตกไปเป็นกรรมสิทธิ์ของต่างชาติ!!!....
สำคัญกว่านั้นคือ ลูกค้าเก่าๆก็จะไม่แปรพักตร์หนีไปไหน....
|
|
 |
|
|